สืบค้นงานวิจัย
การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อจัดทำแผนที่การติดตามแมลงศัตรูอ้อย ที่สำคัญในจังหวัดกำแพงเพชร
ประกาย ราชณุวงษ์ - สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
ชื่อเรื่อง: การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อจัดทำแผนที่การติดตามแมลงศัตรูอ้อย ที่สำคัญในจังหวัดกำแพงเพชร
ชื่อเรื่อง (EN): Application of a geographic information system to produce monitoring maps for major sugarcane pests in Kamphaeng Phet province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ประกาย ราชณุวงษ์
บทคัดย่อ: การสำรวจการเข้าทำลายของหนอนกออ้อย จำนวน 245 แปลงในพื้นที่ปลูกอ้อยของจังหวัด กำแพงเพชร ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม พ.ศ. 2562 พบการเข้าทำลายของหนอนกอลายจุดเล็ก มากที่สุดในเดือนมีนาคม (ร้อยละ 4.60) และลดลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งพบน้อยที่สุดในเดือนพฤษภาคม (ร้อยละ 1.45) ความชื้นสัมพัทธ์ ความเข้มแสงและอายุของอ้อยมีผลต่อระดับการเข้าทำลายของหนอนกออ้อย ทั้ง 3 ชนิดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ซึ่งคำอุณหภูมิสะสมที่หนอนกออ้อยเข้าทำลายต้นอ้อยในทุก ช่วงอายุอยู่ระหว่าง 20.20-22.85 องศาเซลเซียส ผลจากแผนที่ความเชื่อมโยงความเสี่ยงการระบาด และการ สร้างแบบจำลองแสดงสภาพพื้นที่ที่มีอิทธิพลต่อการระบาดของหนอนกออ้อยทั้ง 3 ชนิด แสตงให้เห็นว่าพื้นที่ ระบาดหนักและมีค่าทำนายกรระบาดสูง อยู่ด้านทิศตะวันออกของจังหวัด โดยเฉพาะทิศใต้ของอำเภอไทร งามที่ติดต่อกับอำเภอทรายทองวัฒนา และทิศเหนือของบึงสามัคคี ซึ่งปัจจัยทางกายภาพที่เอื้อต่อการระบาด ได้แก่ ค่าดัชนีพืชพรรณ เท่ากับ 0.55-0.60 ปริมาณน้ำฝนสะสมราย 10 วัน ระหว่าง 34.0-35.0 มิลลิเมตร ค่า ความเร็วลมเฉลี่ยรายปีไม่เกิน 4.5 กม./ซม. และกลุ่มดินประเภทดินร่วนปนทรายแป้ง ดังนั้นการทำนายเขต พื้นที่ที่เอื้อต่อการแพร่ระบาดของหนอนกออ้อยและพื้นที่ดินมีความเหมาะสมในการปลูกอ้อยน้อย ได้แก่ ด้าน ทิศใต้ของอำเภอไทรงามที่ติดต่อทางด้านทิศเหนือของอำเภอทรายทองวัฒนา การสำรวจแมลงพาหะโรคใบขาวของอ้อย M. hiroglyphicus และ Y. flavovittatus จำนวน 139 แปลง ในพื้นที่เพาะปลูกอ้อยของจังหวัดกำแพงเพชร โดยใช้กับตักกาวเหนียว (20 กับตัก/แปลง) พบว่าจำนวน Y. Flavovittatus มีสัดส่วนมากกว่า M. hiroglyphicus ถึงร้อยละ 9 ในทุกเดือนที่ทำการสำรวจโดยสามารถ พบ M. Hiroglyphicus มากที่สุด (10.52 ตัว/แปลง หรือ 0.52 ตัว/กับดัก) ในเดือนกรกฎาคม และต่อมามี แนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งไม่พบอีกเลยในเดือนตุลาคมในขณะที่ Y. Flavovittotus มีการขึ้นลง ของประชากร โดยพบสูงที่สุดในเดือนกันยายน (161.21 ตัว/แปลง หรือ 23.32/กับตัก) ผลจากแผนที่ความ เชื่อมโยงความเสี่ยงการระบาด และแบบจำลองแสดงสภาพของพื้นที่ที่มีอิทธิพลต่อการระบาตอธิบายได้ว่า พื้นที่ด้านตะวันออกของจังหวัด โดยเฉพาะด้นทิศใต้ของอำเภอไทรงามที่ติดต่อกับด้านเหนือของอำเภอทราย ทองวัฒนา และด้านตะวันออกเฉียงใต้ของอำเภอทรายทองวัฒนาที่ ติดต่อกับด้านทิศเหนือของอำเภอบึง สามัคคี เป็นพื้นที่ระบาดหนักร่วมกันของแมลงพาหะทั้ง 2 ชนิด และพบว่าปัจจัยแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อการ ระบาดได้แก่ ปริมาณน้ำฝนสะสมราย 10 วัน ระหว่าง 34.5-35.5 มิลลิเมตร ค่าดัชนีพืชพรรณ 0.55 และสภาพ ดินแบบดินร่วนปนทรายแป้งดังนั้นการทำนายเขตพื้นที่เหมาะสมในการปลูกอ้อยที่เอื้อต่อการแพร่ระบาดของ เพลี้ยพาหะรคใบขาวได้แก่ ด้นทิศต้ของอำเภอไทรงามที่ติดต่อทางด้านทิศเหนือของอำเภอทรายทองวัฒนา และทางด้านทิศเหนือของบึงสามัคคี
บทคัดย่อ (EN): Surveying of sugarcane stem borers was performed in 245 sugarcane plantations in Kamphaeng Phet province from February to May 2019. The heaviest infestation by C. infuscatellus was found in March (4.60%) and then decreased until May at 1.45%, Interestingly, C. infuscatellus and S. inferens co-infestation in sugarcane crops was observed. Relative humidity, light intensity and sugarcane age were significantly influenced damage levels of those 3 sugarcane stem borers (p < 0.001).Accumulated degree-days between 20.20 and 22.85 *C were the optimum temperature for outbreak of sugarcane stem borers in every phases of sugarcane. Results from heat risk maps and maps of ecological niche modeling for outbreak of sugarcane stem borers suggested that the eastern area of the province, especially the south of Sai Ngam district that connects to Sai Thong Watthana district and the north of Bueng Samakkhi district were predicted as epidemic areas with the highest prediction value. Physical factors influenced the spread of sugarcane stem borers were vegetation index at 0.55-0.60, 10 days of cumulative rainfall between 34.5-35.5 millimeters, average yearly wind speed less than 4.5 km/h and silt loam. Therefore, prediction of areas suitable for sugarcane cultivation under sugarcane stem borers concluded that less suitable areas with physical conditions promoted the population of those 3 species and soil having low nutrient of growing sugarcane were presented in the south of Sai Ngam district where connected to the north of Sai Thong Watthana district. Vectors for sugarcane white leaf (SCWL), M. hiroglyphicus และ Y. flavovittatus, were surveyed in the total number of 139 sugarcane plantations in Kamphaeng Phet province by using 20 sticky traps per crop. Numbers of Y. flavovittatus was greater than M. hiroglyphicus at 90% in all months surveying. The highest number of M. hiroglyphicus (10.52 insects/crop or 0.52 insects/trap) was observed in July, later, the trend continued to decline until it was no longer found in October. In contrast, Y. flavovittatuswas fluctuated from high to low and the population peak was revealed in September (161.21 insects/crop or23.32 insects/trap). Results from heat risk maps and maps of ecological niche modeling for outbreak of leafhopper insect Vectors in SCWL suggested that the eastern area of the province, especially the south of Sai Neam district that connecteted to the north of Sai Thong Watthanadistrictand the southeast of Sai Thong Wattana district that connected to the north of Bueng Samakkhi district were predicted as epidemic areas for both leafhopper insect vectors. This was consistent with the sample of sugarcane leaves of such area which gave a positive result from SCWL disease detection by nested PCR. Environmental factors influenced the spread of SCWL vectors were 10 days of cumulative rainfall between 34.5-35.5 millimeters, vegetation index at 0.55 and silt loam. Therefore, prediction of areas suitable for sugarcane cultivation under endemic of SCWL vectors concluded that less suitable areas with physical conditions promoted the population of SCWL vectors and soil having low nutrient of growing sugarcane were presented in the south of SaiNgam district to the north of Sai Thong Watthana district and expanded to the north of Bueng Samakkhi district.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://elibrary.trf.or.th/project_content.asp?PJID=RDG62T0093
เผยแพร่โดย: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
คำสำคัญ: การควบคุมวัชพืช
คำสำคัญ (EN): weed control
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อจัดทำแผนที่การติดตามแมลงศัตรูอ้อย ที่สำคัญในจังหวัดกำแพงเพชร
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
2563
เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การจัดทำแผนที่ดินกระจายตัวโดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ กรณีศึกษา: โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยรู อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลงิม อำเภอปง จังหวัดพะเยา การใช้สารสนเทศภูมิศาสตร์ในการจัดทำแผนส่งเสริมการเกษตร คู่มือการใช้ระบบสืบค้นข้อมูลภูมิสารสนเทศประมงภาคประชาชนผ่านเว็บไซต์ ส่วนหนึ่งของตารางชีวิตของแมลงศัตรูในสวนมะลิ การติดตามและประเมินผลโครงการวิจัยด้านอ้อยและน้ำตาล ปี 2561 การใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อการจัดการแปลงขยายพันธุ์ยาง ศึกษาสถานการณ์การระบาดของศัตรูอ้อยในแปลงผลิตอ้อยพันธุ์ดีปลอดโรค-แมลง โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อความต้องการน้ำของพืช ปีที่2
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก