สืบค้นงานวิจัย
การคัดเลือกสมุนไพรเพื่อเป็นยาฆ่าลูกน้ำและศึกษาผลกระทบต่อวงจรชีวิต รูปร่างลักษณะทางสัณฐานวิทยาและตำแ
Suwannee Promsiri - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การคัดเลือกสมุนไพรเพื่อเป็นยาฆ่าลูกน้ำและศึกษาผลกระทบต่อวงจรชีวิต รูปร่างลักษณะทางสัณฐานวิทยาและตำแ
ชื่อเรื่อง (EN): Screening medicinal plant extracts for larvicidal properties and other effects on Aedes Aegypti (Diptera : Culicidae) and toxicity to a non-target organism
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Suwannee Promsiri
บทคัดย่อ: ประเทศไทยประสบปัญหาการระบาดของโรคไข้เลือดออกทุกปี พาหะหลักของโรคคือ ยุงลาย ชนิด Aedes aegypti การกำ จัดโดยใช้สารเคมีส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการดื้อยาในยุง ดังนั้น การใช้สารสกัดจากพืชสมุนจึงเป็นวิธีที่ดีในการทดแทนการใช้สารเคมี จึงได้ทำ การคัดเลือกคุณสมบัติเบื้อง ต้นของสารสกัด จำ นวน 121 ชนิด จาก 112 จีนัส 50 วงศ์ พบว่า สารสกัดจากพืชสมุนไพร 14 ชนิด สามารถฆ่าลูกนํ้ายุงลาย และ 3 ชนิดใน 14 คือ ดอกสารภี (Mammea siamensis Kost.), ผักชีลาว (Anethum graveolens L.) และ เมล็ดทุเรียนเทศ (Annona muricata L.) มีคุณสมบัติสูงในการ ฆ่าลูกนํ้าในระยะที่ สามและสี่ได้ร้อยละ 50 (LC50) ภายใน 48 ชม. ด้วยความเข้มข้น 4.1, 13.7 และ 53.9 มก/ล. ตามลำ ดับ หลังจาก 48 ชั่วโมง สารสกัดทั้งสามชนิดยังมีผลกระทบต่อวงจรชีวิต คือลูกนํ้าที่รอดชีวิต ต่อมาตายในระยะตัวโม่งและตัวเต็มวัย ทำ ให้ลดจำ นวนประชากรในรุ่นต่อไปจากตัวเต็มวัยที่รอดชีวิต เมื่อแช่ลูกนํ้าทั้ง 4 ระยะในสารสกัดทั้งสามที่ความเข้มข้นที่สามารถฆ่าลูกนํ้าได้ ร้อยละ 50 พบว่า สารสกัดทั้งสามชนิดทำ ให้ลูกนํ้าใช้เวลาในการพัฒนาการ มากกว่าชุดควบคุม จากการศึกษาผลกระทบรูปร่างลักษณะทางสัณฐานวิทยาหลังจากแช่ลูกนํ้าทั้ง 4 ระยะในสาร สกัดทั้งสามที่ความเข้มข้นที่สามารถฆ่าลูกนํ้าได้ ร้อยละ 50 พบว่าส่วนมากลูกนํ้าตายในรูปร่างลักษณะที่ ปกติ ส่วนที่ตายโดยมีลักษณะที่ผิดปกติพบค่อนข้างมากในกลุ่มที่ใช้สารสกัดผักชีลาว และเป็นลูกนํ้าใน ระยะที่ 3 เมื่อตรวจดูลักษณะของลูกนํ้าที่ถูกทำ ลายด้วยกล้องสเตริโอ พบว่าบริเวณส่วนหางของลูกนํ้าถูก ทำ ลายมากที่สุด ตัวโม่งบริเวณส่วนหน้าของหัว และส่วนหาง การหาตำ แหน่งที่ถูกทำ ลายของลูกนํ้าระยะที่ 4 ด้วย สแกนนิ่ง อิเล็กตรอนไมโครสโคป พบว่าส่วนต่างๆของลูกนํ้าถูกทำ ลาย เช่น ผิวหนังของลำ ตัว ปลายไซฟอน โดยเฉพาะส่วนหาง บริเวณ anal gills ถูกทำ ลายมากเช่นกัน จากผลการทดลองพบว่า การ เจริญเติบโตของลูกนํ้ายุงลาย ต้องใช้เวลามากขึ้น และมีลักษณะผิดปกติ ทำ ให้ลูกนํ้าไม่สามารถเจริญเป็น ตัวยุงที่สมบูรณ์ได้ จึงเป็นการลดปริมาณของยุงพาหะชนิดนี้ได้
บทคัดย่อ (EN): The present study is composed of three parts. The first part was a screening of medicinal plant extracts for larvicidal properties on Aedes aegypti and toxicity to nontarget organisms. A preliminary study was conducted on Ae. aegypti for the effects of extracts of one hundred and twelve medicinal plant species collected from the southern part of Thailand. Studies of the larvicidal properties of extracts against the third and fourth instar larvae of Ae. aegypti determined fourteen species to have high toxicity. Mammea siamensis Kost., Anethum graveolens L. and Annona muricata L. were the three species of common and inexpensive herbs selected for further study. The extracts were the most effective against the third and fourth instar larvae at very low concentrations, their LC50 and LC90 values being 4.1 and 14.0 mg/l for M. siamensis, 13.7 and 48.8 mg/l for A. graveolens and 53.9 and 192.3 mg/l for A. muricata, respectively. They had no or very low toxicity to guppy fish. The extracts had a second effect: to effect larval development and life cycle of Ae. aegypti. The results showed that they affected the reproductive potential of surviving adult mosquitoes by reducing the number of eggs laid and egg hatchability. All instar larvae were very susceptible to these three extracts. The first instar larvae were very susceptible to A. muricata, the second to A. graveolens, while the third and fourth instars were susceptible to M. siamensis. These extracts delayed larval development and inhibited adult emergence. There were no adverse effects on non-target organisms at LC50 and LC90 values, except for M. siamensis at its LC50. The extracts had a third effect: to produce morphological aberration and cause possible damage to the larvae and pupae. When the first, second, third and fourth instar larvae of Ae. aegypti were exposed to the LC50 values of three extracts, the majority of the treated population died with normal larvae. The forms of morphological berration varied with the stages and the species of medicinal plants. These medicinal plant extracts mostly damaged anal gill, integument, siphon apex and terminal segments, and in the pupal stages the eighth segment, paddles, hypopygium and cephalothorax. The possible sites of action of the three extracts on fourth instar larvae were confirmed by diagnostic scanning electron microscopy. It was found that most organs were damaged, especially the anal gills and cuticular sculpturing.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=107&obj_id=2148
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Medicinal
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: ประเทศไทยประสบปัญหาการระบาดของโรคไข้เลือดออกทุกปี พาหะหลักของโรคคือ ยุงลาย ชนิด Aedes aegypti การกำ จัดโดยใช้สารเคมีส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการดื้อยาในยุง ดังนั้น การใช้สารสกัดจากพืชสมุนจึงเป็นวิธีที่ดีในการทดแทนการใช้สารเคมี จึงได้ทำ การคัดเลือกคุณสมบัติเบื้อง ต้นของสารสกัด จำ นวน 121 ชนิด จาก 112 จีนัส 50 วงศ์ พบว่า สารสกัดจากพืชสมุนไพร 14 ชนิด สามารถฆ่าลูกนํ้ายุงลาย และ 3 ชนิดใน 14 คือ ดอกสารภี (Mammea siamensis Kost.), ผักชีลาว (Anethum graveolens L.) และ เมล็ดทุเรียนเทศ (Annona muricata L.) มีคุณสมบัติสูงในการ ฆ่าลูกนํ้าในระยะที่ สามและสี่ได้ร้อยละ 50 (LC50) ภายใน 48 ชม. ด้วยความเข้มข้น 4.1, 13.7 และ 53.9 มก/ล. ตามลำ ดับ หลังจาก 48 ชั่วโมง สารสกัดทั้งสามชนิดยังมีผลกระทบต่อวงจรชีวิต คือลูกนํ้าที่รอดชีวิต ต่อมาตายในระยะตัวโม่งและตัวเต็มวัย ทำ ให้ลดจำ นวนประชากรในรุ่นต่อไปจากตัวเต็มวัยที่รอดชีวิต เมื่อแช่ลูกนํ้าทั้ง 4 ระยะในสารสกัดทั้งสามที่ความเข้มข้นที่สามารถฆ่าลูกนํ้าได้ ร้อยละ 50 พบว่า สารสกัดทั้งสามชนิดทำ ให้ลูกนํ้าใช้เวลาในการพัฒนาการ มากกว่าชุดควบคุม จากการศึกษาผลกระทบรูปร่างลักษณะทางสัณฐานวิทยาหลังจากแช่ลูกนํ้าทั้ง 4 ระยะในสาร สกัดทั้งสามที่ความเข้มข้นที่สามารถฆ่าลูกนํ้าได้ ร้อยละ 50 พบว่าส่วนมากลูกนํ้าตายในรูปร่างลักษณะที่ ปกติ ส่วนที่ตายโดยมีลักษณะที่ผิดปกติพบค่อนข้างมากในกลุ่มที่ใช้สารสกัดผักชีลาว และเป็นลูกนํ้าใน ระยะที่ 3 เมื่อตรวจดูลักษณะของลูกนํ้าที่ถูกทำ ลายด้วยกล้องสเตริโอ พบว่าบริเวณส่วนหางของลูกนํ้าถูก ทำ ลายมากที่สุด ตัวโม่งบริเวณส่วนหน้าของหัว และส่วนหาง การหาตำ แหน่งที่ถูกทำ ลายของลูกนํ้าระยะที่ 4 ด้วย สแกนนิ่ง อิเล็กตรอนไมโครสโคป พบว่าส่วนต่างๆของลูกนํ้าถูกทำ ลาย เช่น ผิวหนังของลำ ตัว ปลายไซฟอน โดยเฉพาะส่วนหาง บริเวณ anal gills ถูกทำ ลายมากเช่นกัน จากผลการทดลองพบว่า การ เจริญเติบโตของลูกนํ้ายุงลาย ต้องใช้เวลามากขึ้น และมีลักษณะผิดปกติ ทำ ให้ลูกนํ้าไม่สามารถเจริญเป็น ตัวยุงที่สมบูรณ์ได้ จึงเป็นการลดปริมาณของยุงพาหะชนิดนี้ได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การคัดเลือกสมุนไพรเพื่อเป็นยาฆ่าลูกน้ำและศึกษาผลกระทบต่อวงจรชีวิต รูปร่างลักษณะทางสัณฐานวิทยาและตำแ
Suwannee Promsiri
มหาวิทยาลัยมหิดล
1 เมษายน 2552
ฤทธิ์ด้านการอักเสบของตำรับยาสมุนไพรจากฐานข้อมูลตำรายาสมุนไพรล้านนา สมุนไพร การคัดกรองฤทธิ์ต้านมะเร็งในหลอดทดลองของตำรับยาสมุนไพรไทยที่คัดเลือกจากฐานข้อมูลตำรับยาสมุนไพรไทย การศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาและปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระของชาพื้นเมืองในจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน สัณฐานวิทยาของเรณูพันธุ์ไม้วงศ์หญ้าในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผลขององค์ประกอบผงสมุนไพรที่มีต่อการพัฒนาตำรับยาเม็ด ความสัมพันธ์ระหว่างค่าเฮเทโรไซโกซิตีของไอโซไซม์กับลักษณะทางสัณฐานวิทยาของกบหนอง Fejervarya limnocharis ความต้องการปลูกสมุนไพรของเกษตรกรตามโครงการส่งเสริม การปลูกสมุนไพรของศูนย์พัฒนาวัตถุดิบครอบวงจรอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี การทดสอบฤทธิ์การฆ่าหอยและลูกน้ำยุงของมะเขือขื่นในห้องปฏิบัติการ การจำแนกพืชสมุนไพรตามลักษณะภายนอกด้วยวิธีการนาอีฟเบย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก