สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาระบบการจัดการน้ำเพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาอย่างยั่งยืน
วิลาศ เทพทา - มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาระบบการจัดการน้ำเพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาอย่างยั่งยืน
ชื่อเรื่อง (EN): The Development Water Management System of Sub Langka Wildlife Sanctuary as a Sustainable Water Resource Conservation
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิลาศ เทพทา
บทคัดย่อ: การพัฒนาระบบการจัตการน้ำเพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าขับลังกาอย่างยั่งยืน เป็นการศึกษาที่น้นการสำรวจเพื่อทำความเข้าใจข้อเท็จจริงของพลวัตกระบวนการไหลของน้ำซับและน้ำผิว ดินในพื้นที่แหล่งต้นน้ำ ร มทั้งศึกษาศักยภาพ ปัญหาและอุปสรรคในการจัดการน้ำของแหล่งต้นน้ำ ตลอตจน เสนอแนวทางการจัดการน้ำเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาแหล่งต้นน้ำให้เกิดความยั่งยืน ด้วยกระบวนการวิจัยแบบมี ส่วนร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้องในเขต พื้นที่รับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์ป่าต้นน้ำลำสนธิ การสำรวจพื้นที่ด้านค่า ข้อมูลทรัพยากรน้ำไต้ใช้เครื่องมือทางธรณีฟิสิกส์ (Geophysics) และเครื่องมืออุทกวิทยา (Hydrology) หา ตำแหน่งและอัตราการให้น้ำ รวมถึงการเสวนา ระดมความคิดเห็นและประชุมกลุ่มย่อยเพื่อวิเคราะห์ (Analysis) และสังเคราะห์ (Synthesis) ศักยภาพและปัญหาเชิงพื้นที่ด้านการจัดการน้ำและวิพากษ์ แวดล้อมและระบบ (Critical) แนวทางการจัดการน้ำ ผลการวิจัยพบ พื้นที่แหล่งต้นน้ำลำสนธิยังมีสภ นิเวศเป็นแหล่งต้นน้ำที่อุตมสมบูรณ์ แต่ศักยภาพต้านการเก็บกักน้ำและการชะลอนํ้ น้ำของน้ำชับและน้ำผิวดิน มีแนวโน้มของศักยภาพลตลง ซึ่งมีผลโตยตรงต่อปริมาณน้ำผิวติน (Runoff) และน้ำชับ (Seep) อันแหล่งน้ำ ต้นทุน (Water Supply) มีปริมาณลตลงและมีแนวน้มการไหลเวียนของน้ำในระบบไม่เพียงพอในการรักษา ระบบนิเวศ โดยเฉพาะแหล่งน้ำชับบริเวณตาน้ำที่ระดับความลึกไม่เกิน 3-4 เมตรจำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่ 0.04 ตารางกิโลเมตร (200 เมตร x 200 เมตร) มีอัตราการให้น้ำเฉลี่ยแห่งละไม่น้อยกว่า 1 ลูกบาศก์เมตรต่อ ชั่วโมงหรือไม่น้อยกว่า 8,760 ลูกบาศก์มตรต่อปี เมื่อรวมอัตราการให้น้ำเฉลี่ยจำนวน 4 แห่ง มีอัตราการให้ น้ำไม่น้อยกว่า 35,040 ลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือมีอัตราการให้น้ำเฉลี่ยทุก 1 ตารางกิโลเมตร 876,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี นอกจากนี้ในส การณ์ที่ปริมาณทรัพยา รน้ำมีจำกัด แต่การจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์ และการทำหน้าที่ด้านการเก็บกักน้ำ การซะลอน้ำ การกระจายน้ำและการระบายน้ำกลับไม่มีการจัดการอย่าง เป็นระบบตามศักยภาพเชิงภูมิศาสตร์และระบบนิเวศ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าขับลังกาและภาคีที่เกี่ยวข้องจึง ทบทวนแนวทางการจัดการน้ำ จนมีข้อเสนอแนะเป็นมติร่วมกันโดยเร่งทำความเข้าใจพื้นที่ต ข้อเท็จจริง สรุปเป็นแผนที่น้ำ ผสานการใช้แนวคิดเชิงระบบและแนวคิดแบบองศ์รวมเป็นพิมพ์เขียวชี้นํ ระหว่างคน สภาพแวดล้อมและความเชื่อท้องถิ่นให้เกิดการบำรุงรักษาแหล่งน้ำ และขยายแหล่งเก็บกักน้ำ (Reservoir) จุดศูนย์กลางการกระจายนํ้ น้ำ พื้นที่เชื่อมต่อและเชื่อมโยงพลวัตการไหลของน้ำตามเครือข่าย เส้นทางน้ำผิวดินและตาน้ำชับ นอกจากนี้ยังใช้การจัดการน้ำเชิงสังคมช่วยสร้างเครือข่ายและสร้างพื้นที่ สาธารณะ สื่อสารให้เกิดการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความเป็นแหล่งต้นน้ำ การนำความเชื่อท้องถิ่นคอย ผลิตช้ำสำนึกให้เกิดการเคารพ การตระหนักรู้และการมีสติรู้จักรักษาทรัพยากรสาธารณะ (Public Property) ควบคู่กับการสร้างชุดความรู้ท้องถิ่นเรื่องการจัดการน้ำให้ชุมชนมีหลักการและมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์แหล่ง ต้นน้ำ
บทคัดย่อ (EN): การพัฒนาระบบการจัดการน้ำเพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาอย่างยั่งยืน เป็นการศึกษาที่เน้นการสำรวจเพื่อทำความเข้าใจข้อเท็จจริงของพลวัตกระบวนการไหลของน้ำซับและน้ำผิว ดินในพื้นที่แหล่งต้นน้ำ รวมทั้งศึกษาศักยภาพ ปัญหาและอุปสรรคในการจัดการน้ำของแหล่งต้นน้ำ ตลอดจน เสนอแนวทางการจัดการน้ำเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาแหล่งต้นน้ำให้เกิดความยั่งยืน ด้วยกระบวนการวิจัยแบบมี ส่วนร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์ป่าต้นน้ำลำสนธิ การสำรวจพื้นที่ด้านค่า ข้อมูลทรัพยากรน้ำได้ใช้เครื่องมือทางธรณีฟิสิกส์ (Geophysics และเครื่องมืออุทกวิทยา (Hydrology) หา ตำแหน่งและอัตราการให้น้ำ รวมถึงการเสวนา ระดมความคิดเห็นและประชุมกลุ่มย่อยเพื่อวิเคราะห์ (Analysis) และสังเคราะห์ (Synthesis) ศักยภาพและปัญหาเชิงพื้นที่ด้านการจัดการน้ำและวิพากษ์ (Critical) แนวทางกรจัดการน้ำ ผลการวิจัยพบว่า พื้นที่แหล่งต้นน้ำลำสนธิยังมีสภาพแวดล้อมและระบบ นิเวศเป็นแหล่งต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ แต่ศักยภาพด้านการเก็บกักน้ำและการชะลอน้ำของน้ำซับและน้ำผิวดิน มีแนวโน้มของศักยภาพลดลง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อปริมาณน้ำผิวดิน (Runoff) และน้ำซับ (Seep) อันแหล่งน้ำ ต้นทุน (Water Supply มีปริมาณลดลงและมีแนวโน้มการไหลเวียนของน้ำในระบบไม่เพียงพอในการรักษา ระบบนิเวศ โดยเฉพาะแหล่งน้ำซับบริเวณตาน้ำที่ระดับความลึกไม่เกิน 3-4 เมตรจำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่ 0.04 ตารางกิโลเมตร (200 เมตร x 200 เมตร มีอัตราการให้น้ำเฉลี่ยแห่งละไม่น้อยกว่า 1 ลูกบาศก์เมตรต่อ ชั่วโมงหรือไม่น้อยกว่า 8,760 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เมื่อรวมอัตราการให้น้ำเฉลี่ยจำนวน 4 แห่ง มีอัตราการให้ น้ำไม่น้อยกว่า 35,040 ลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือมีอัตราการให้น้ำเฉลี่ยทุก 1 ตารางกิโลเมตร 876,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี นอกจากนั้ในสภาพการณ์ที่ปริมาณทรัพยากรน้ำมีจำกัด แต่การจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์ และการทำหน้าที่ด้านการเก็บกักน้ำ การชะลอน้ำ การกระจายน้ำและการระบายน้ำกลับไม่มีการจัดการอย่าง เป็นระบบตามศักยภาพเชิงภูมิศาสตร์และระบบนิเวศ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าชับลังกาและภาคีที่เกี่ยวข้องจึง ทบทวนแนวทางการจัดการน้ำ จนมีข้อเสนอแนะเป็นมติร่วมกันโดยเร่งทำความเข้าใจพื้นที่ตามข้อเท็จจริง สรุปเป็นแผนที่น้ำ ผสานการใช้แนวคิดเชิงระบบและแนวคิดแบบองค์รวมเป็นพิมพ์เขียวชี้นำการจัดการน้ำ ระหว่างคน สภาพแวดล้อมและความเชื่อท้องถิ่นให้เกิดการบำรุงรักษาแหล่งน้ำและขยายแหล่งเก็บกักน้ำ (Resenvoir) จุดศูนย์กลางการกระจายน้ำ พื้นที่เชื่อมต่อและเชื่อมโยงพลวัตการไหลของน้ำตามเครือข่าย เส้นทางน้ำผิวดินและตาน้ำชับ นอกจากนี้ยังใช้การจัดการน้ำเชิงสังคมช่วยสร้างเครือข่ายและสร้างพื้นที่ สาธารณะ สื่อสารให้เกิดการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความเป็นแหล่งต้นน้ำ การนำความเชื่อท้องถิ่นคอย ผลิตช้ำสำนึกให้เกิดการเคารพ การตระหนักรู้และการมีสติรู้จักรักษาทรัพยากรสาธารณะ (Public Property)
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
คำสำคัญ: การจัดการร่วม
คำสำคัญ (EN): Co - Management
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาระบบการจัดการน้ำเพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาอย่างยั่งยืน
วิลาศ เทพทา
มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
30 พฤศจิกายน 2556
การวิจัยและพัฒนาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ป่าฝืนสุดท้ายของภาคกลาง การออกแบบและพัฒนาผังแม่บทเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาอย่างยั่งยืน ดินโป่งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี การพัฒนาระบบการจัดการน้ำเพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำและแหล่งต้นน้ำลำธารของลำน้ำมวกเหล็ก ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อย่างยั่งยืน ผลของน้ำทิ้งจากการเลี้ยงกุ้งต่อคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ และการจัดการน้ำทิ้งของชุมชนบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา การประเมินความสมดุลของน้ำในระบบนิเวศแหล่งต้นน้ำและแนวทางการจัดการทรัพยากรน้ำแบบมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติจากดินถล่ม ความต้องการใช้น้ำของข้าวและงบดุลน้ำภายใต้การจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง โครงการวิจัยการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพในนาเขตชลประทาน ความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชสมุนไพรในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา การศึกษา Logistics เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาอย่างยั่งยืนด้วยระบบขนส่งสาธารณะในการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก