สืบค้นงานวิจัย
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนสีกลีบเลี้ยงของมังคุดและแนวทางแก้ไข
ปิยะมาศ โสมภีร์ - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนสีกลีบเลี้ยงของมังคุดและแนวทางแก้ไข
ชื่อเรื่อง (EN): Factors on Change of Color in Sepal of Mangosteen and Solutions
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ปิยะมาศ โสมภีร์
บทคัดย่อ: อาการกลีบเลี้ยงสีแดงของมังคุดเป็นปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร และผู้ส่งออก ควรมี แนวทางในการป้องกันหรือแก้ไข ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ คือ ศึกษาวิธีการที่เหมาะสมในการป้องกัน การเกิดกลีบเลี้ยงสีแดงในมังคุดก่อนการเก็บเกี่ยว และหาวิธีที่เหมาะสมในการชะลอการเปลี่ยนสีของกลีบเลี้ยง มังคุดในกระบวนหลังการเก็บเกี่ยว โดยมีวิธีการทดลองดังนี้ 1) ศึกษาปัจจัยต่างๆต่อการเปลี่ยนแปลงรงควัตถุ ในกลีบเลี้ยงของมังคุด แบ่งออกเป็น 1.1) การจัดการสวนแบบต่างๆต่อการเปลี่ยนแปลงรงควัตถุในกลีบเลี้ยง ของมังคุด ทำการเก็บข้อมูลการจัดการสวนมังคุดจำนวน 7 สวน ประกอบด้วย สวนมังคุดจากศูนย์วิจัยพืชสวน จันทบุรี สวนมังคุดกษตรกรในจังหวัดจันทบุรี 4 สวน และ ภาคใต้ 2 สวน (จ.ระนองและชุมพร) สัมภาษณ์การ จัดการสวนของเกษตรกร เก็บตัวอย่างผลผลิต เพื่อศึกษาลักษณะทางกายภาพของผล (ความกว้าง ยาว หนา และสีของกลีบเลี้ยงมังคุด ลักษณะทางเคมี (ปริมาณคลอโรฟิลล์ และแอนโทไชยานินในกลีบเลี้ยง) และเก็บ ตัวอย่างดิน และใบ วิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหารในดิน ใบ และกสีบเลี้ยง พบว่า ขนาดของกลีบเลี้ยงไม่มีผลต่อ การเกิดอาการกลีบเลี้ยงสีแดง การขาดแมกเซียม และ แคลเซียมในดิน มีผลต่อการเกิดอาการกลีบเลี้ยงสีแดง และพบว่าปริมาณคลอโรฟิลล์ในกลีบเลี้ยงลดลงตามอายุการเก็บเกี่ยว 1.2) การศึกษาปริมาณธาตุอาหารใน กลีบเลี้ยงสีแดงระดับต่างๆ โดยแบ่งลักษณะการเกิดสีแดงต่อพื้นที่ทั้งหมดของกลีบเลี้ยง เป็น 4 ระดับ คือ เกิด สีแดงบนพื้นที่กลีบเลี้ยงร้อยละ 1-30, 40-50, 60-80 และ 80-100 นำกลีบเลี้ยงมาวิเคราะห์ธาตุอาหาร ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเชียม แคลเซียม แมกนีเชียม และโบรอนเปรียบเทียบกับกลีบเลี้ยงสีเขียว รวมทั้งการวิเคราะห์ธาตุอาหารในดิน และใบด้วย พบว่า ปริมาณแคลเชียมในกลีบเลี้ยงสีแดงต่ำกว่าค่า มาตรฐาน (ร้อยละ 0.22-0.28) และน้อยกว่าในกลีบเลี้ยงสีเขียว (ร้อยละ 0.56) ส่วนธาตุอื่นๆอยู่ในเกณฑ์ที่ เหมาะสม ปริมาณธาตุอาหารในใบมีแคลเซียมที่ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน ส่วนในดินพบว่า แมกนีเซียม แคลเซียม และโบรอน ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 1.3) ศึกษาระยะเวลาที่เริ่มแสดงอาการกลีบเลี้ยงสีแดงของมังคุด โดยเก็บ ข้อมูลตั้งแต่ระยะติดผลขนาดเล็กจนกระทั้งสามารถเก็บเกี่ยวได้ เพื่อดูการแสดงอาการกลีบเลี้ยงสีแดง พบว่า แสดงอาการกลีบเลี้ยงสีแดงเมื่อเข้าสู่ระยะเก็บเกี่ยวเท่านั้น 2) ศึกษาผลของแมกนีเซียม แคลเซียม โบรอน และ จิบเบอเรลลิน ต่อการเปลี่ยนแปลงสีของกลีบเลี้ยงของมังคุด วางแผนการทดลองแบบ RCB 7 กรรมวิธี 4 ซ้ำ ซ้ำละ 1 ต้น ดังนี้ 1) พ่นแมกนีเซียมซัลเฟตอัตรา 500 มิลสิกรัม/กิโลกรัม + แมกนีเซียมซัลเฟต 500 กรัม/ต้น 2) พ่นแมกนีเชียมซัลเฟตอัตรา 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม + แมกนีเชียมซัลเฟต 1,000 กรัม/ต้น 3) พ่น แมกนี้เซียมซัลเฟตอัตรา 1,500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม + แมกนีเซียมซัลเฟต 1,500 กรัม/ต้น 4) พ่นแคลเซียม 40% ในอัตรา 10 มิลสิสิตร/20สิตร 5) พ่นแคลเซียม+โบรอน อัตรา 20 มิลลิสิตร/20สิตร 6) พ่นจิบเบอเรลสิน 200 มิลลิรัม/กิโลกรัม 7) ไม่พ่นสาร พบว่าการพ่นแมกนีเ#ยมอัตรา 1,000-1,500 มิลลิกรัม/กรัม ร่วมกับใส่ แมกนีเซียมทางดินอัตรา 1,000-1,500 กรัม/ต้น ทำให้กลีบเลี้ยงมีสีเขียวแตกต่างจากกรรมวิธีการอื่นๆอย่างมี นัยสำคัญยิ่งทางสถิติ (Ps0.01) ร้อยละ 97.61 และ 97.18 ตามลำดับ 3) ศึกษาการชะลอการเปลี่ยนแปลงสี กลีบเลี้ยงมังคุดหลังกระบวนการเก็บเกี่ยว วางแผนการทดลองแบบ CRD จำนวน 7 กรรมวิธี 8 ซ้ำ ซ้ำละ 3 ลูก โดยการแช่มทิลเซลลูโสสความเข้มข้น 1 และ 2% เป็นเวลา 10 นาที และเก็บไว้อุณหภูมิต่างๆ ดังนี้ 1) เมธิล- เซลลูโลส 1% เก็บไว้ที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส 2) เมธิลเซลลูโลส 2% เก็บไว้ที่อุณหภูมิ 13 องศา- เซลเซียส 3) เมธิลเซลลูโลส 19 เก็บไว้ที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 วัน จากนั้นนำมาวางที่ สภาพอุณหภูมิปกติ 4) เมธิลเซลลูโลส 29 เก็บไว้ที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 วัน จากนั้น นำมาวางที่สภาพอุณหภูมิปกติ 5) เมธิลเซลสูโลส 1% เก็บไว้ที่อุณหภูมิปกติ 6) เมธิลเซลลูโลส 2% เก็บไว้ที่ อุณหภูมิปกติ 7 วางอุณหภูมิปกติ พบว่า การใช้เมทิลเซลลูโลส 1% แล้วเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส สามารถยืดอายุการเก็บรักษามังคุดได้นาน 12 วัน และกิจกรรมที่ 3การถ่ายทอดเทคโนโลยี มีการจัดทำ เอกสารเผยแพร่ นำเสนอผลงานวิชาการ และจัดอบรม โดยจัดอบรมวันที่ 2 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์วิจัยพืช สวนจันทบุรี มีผู้ที่สนใจเข้ารับกรอบรมจำนวน 54 ราย ในการอบรมมีการจัดทำเอกสารเผยแพร่ เกี่ยวกับ เทคนิคการแก้ไขอาการกลีบเลี้ยงสีแดงของมังคุด เอกสารเผยแพร่เรื่อง ""การผลิตมังคุดคุณภาพ ตอน มังคุดหู เขียว"" ในการอบรมครั้งนี้ได้นำเสนอรายงานผลกรดำเนินงานของโครงการด้วย จากการอบรมผู้เข้ารับการ อบรมสามารถนำข้อมูลของโครงการไปใช้ประโยชน์ในกณฑ์มากร้อยละ 59.20 และโอกาสที่จะนำข้อมูลของ ความรู้หรือเทคนิคการแก้อาการกลีบเลี้ยงสีแดงไปใช้อยู่ในเกณฑ์มากร้อยละ 79.07
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: มังคุด กลีบเลี้ยงมังคุด มังคุดหูแดง
คำสำคัญ (EN): Red Sepal of Mangosteen
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนสีกลีบเลี้ยงของมังคุดและแนวทางแก้ไข
กรมวิชาการเกษตร
3 พฤศจิกายน 2559
การศึกษาวิธีการแปรรูปและการเก็บรักษามังคุด ฤทธิ์การต้านจุลินทรีย์และอนุมูลอิสระของสารประกอบฟินอลิคจากข้าวและมังคุด ผลของการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ต่อการสร้างใบใหม่หลังการเก็บเกี่ยวและคุณภาพของผลผลิตมังคุด การวิจัยและพัฒนามังคุดนอกฤดูและในฤดูเชิงพาณิชย์ในเขตจังหวัดพิษณุโลก ผลของแซนแทนกัมและทรีฮาโรสต่อคุณภาพของไอศครีมมังคุด ผลของสารไฮโดรคอลลอยด์ต่อคุณภาพทางกายภาพและทางเคมีของพิวเร่มังคุด โครงการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์สบู่ผสมสารสกัดมังคุด ของสถาบันวิจัยเคมี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี แนวทางการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรบนพื้นที่สูงในพื้นที่บ้านแม่สาน้อย ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ผลของสารสกัดมังคุดต่อการตายแบบอะพอพโตซิสของเซลล์เอนโดธีเลี่ยมที่ถูกกระตุ้นด้วยอนุมูลอิสระในภาวะน้ำตาลสูง การใช้สารสกัดเปลือกมังคุด (Garcinia mangostana,Linn) รักษาโรคแผลด่าง (Flexibacter maritimus) ในปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก