สืบค้นงานวิจัย
การมีส่วนร่วมของแม่บ้านเกษตรกรในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ ณ อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่
นิยม บัวบาน - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การมีส่วนร่วมของแม่บ้านเกษตรกรในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ ณ อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่
ชื่อเรื่อง (EN): Participation of Farm Housewives in Livestock Raising Development at Amphoe Wangchin, Changwat Phrae
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นิยม บัวบาน
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Niyom Buaban
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมและสภาพการเลี้ยงสัตว์ทั่วไป การมีส่วนร่วมของแม่บ้านเกษตรกรในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ ประชากรที่ทำการศึกษา ประกอบด้วย แม่บ้านเกษตรกร ที่มีฐานะเป็นภรรยาของเกษตรกรในเขตอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ โดยทำการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage sampling) และการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) ได้แม่บ้านเกษตรกรเพื่อทำการสัมภาษณ์ 177 คน ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์ผ`ทางสถิติโดยการคำนวณค่าร้อยละ ค่าคะแนนเฉลี่ย การทดสอบค่าไดสแควร์และการทดสอบว่าค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า แม่บ้านเกษตรกรมีอายุเฉลี่ย 37.50 ปี ส่วนใหญ่มีการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ระยะเวลาการสมรสเฉลี่ย 17.22 ปี สมาชิกในครอบครัวที่ทำการเกษตรเฉลี่ย 2.63 คน รายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น 14,795.85 บาทต่อปี พื้นที่ทำกินเฉลี่ย 7.51 ไร่ มีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ในระดับปานกลาง แม่บ้านเกษตรกรเป็นผู้เก็บเงินรายได้ของครองครัว และตัดสินใจใช้จ่ายเงินในด้านอุปโภคบริโภคของสมาชิกในครัวเรือนมากกว่าสามีซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจใช้จ่ายเงินด้านวัสดุอุปกรณ์การเกษตร แม่บ้านเกษตรกรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลี้ยงสัตว์กับสามีในทุก ๆ เรื่อง ที่เกี่ยวกับการคัดเลือกอาหารสัตว์ การนำเทคโนโลยีมาใช้เลี้ยงสัตว์ การป้องกันกำจัดโรคสัตว์ การวางแผนการเลี้ยงสัตว์และการคัดเลือกพันธุ์สัตว์ นอกจากนี้แม่บ้านเกษตรกรยังมีส่วนร่วมในการเลี้ยงสัตว์ในครัวเรือนระดับปานกลางและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ในระดับต่ำหรือไม่มีส่วนร่วมเลย ลักษณะพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม ส่วนใหญ่ไม่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการเลี้ยงสัตว์ในครอบครัวและการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ยกเว้นการตัดสินใจเรื่องการจัดหาอุปกรณ์การเกษตรและสัตว์ใช้งาน การเลือกอาหารสัตว์ มีความสัมพันธ์กับความแตกต่างของอายุ นอกจากนี้การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ยังมีความสัมพันธ์กับลักษณะพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม ในเรื่องการเป็นสมาชิกกลุ่ม การติดต่อกับเจ้าหน้าที่เกษตร รายได้และความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ ปัญหาและอุปสรรคของแม่บ้านเกษตร ในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์เป็นผลมาจากขาดความรู้ความเข้าใจและอบรมเรื่องการเลี้ยงสัตว์ ขาดการฝึกอบรมด้านการเลี้ยงสัตว์ การบริการของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ไม่ทั่วถึงขาดเงินทุนและขาดแหล่งน้ำ ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งนี้ควรนำความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์ไปฝึกอบรมแนะนำแม่บ้านเกษตรกรโดยตรง ตลอดจนการฝึกอบรมทบทวน เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ควรกระตุ้นแม่บ้านเกษตรกรให้เกิดความสนใจด้านข่าวสารการเกษตร การตลาด ราคาของผลผลิตสัตว์และสินเชื่อเพื่อการเลี้ยงสัตว์ ควรมีการจัดตั้งกลุ่มสตรีพฒนาปศุสัตว์ ควรปรับปรุงระเบียบกฎเกณฑ์ที่เอื้ออำนวยให้แม่บ้านเกษตรกรเข้าไปร่วมในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ กลยุทธในการให้ความรู้แก่แม่บ้านเกษตรกรควรเน้นหนักรูปแบบเทคโนโลยีการเลี้ยงสัตว์ทั่วไป ได้แก่ ด้านโรคและการสุขาภิบาลสัตว์ การจัดการเลี้ยงสัตว์ ควรมีการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ให้มากขึ้น และควรมีการเยี่ยมเยียนแม่บ้านเกษตรกรอย่างสม่ำเสมอ ควรมีการติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่อยู่ในระดับท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการพฒนาการเลี้ยงสัตว์ และควรมีการสนับสนุนแหล่งเงินทุน วัคซีนและเวชภัณฑ์สำหรับเลี้ยงสัตว์แก่แม่บ้านเกษตรกร
บทคัดย่อ (EN): The objectives of this research were as follows : to study basic socio-economic conditions of the farm housewives in general; to investigate the participation of farm housewives in livestock raising development; and to analyse the relationship between basic socio- economic conditions and the participation of farm housewives in livestock raising development. The population used in this research was a group of farm housewives at Amphoe Wangchin, Changwat Phrae. A multi-stage sampling technique and a simple random sampling were used to select 177 representative farm housewives to be interviewed. The methods of statistical analysis used in this research were percentage, weight mean score, Chi-square test and Pearson product moment correlation coefficient. It was found that the average age of this group of farm housewives and the length of their marriage were 37.5 years and 17.22 years respectively. Most of them had completed 4 years compulsory elementary education. There were about 2.63 people in the family who worked on the farm. The average income was 14,795.85 baht per year. The average size of their farm holding was 7.51 rais and most of the farm housewives had an adequate knowledge of raising animals and preventing animal diseases. Most of the farm housewives looked after the family income and made decisions on their household expenses. Decisions to spend money on farm equipment were made by their husbands. This group of farm housewives helped their husbands make decisions on livestock raising development in the following areas: selecting feed and feeding, bringing in technology for animal husbandry, prevention of animal diseases, making plans for raising animals, and selecting new animal breeds. Most of the farm housewives had a middle level of participation in household animal raising and had either a low or no level of participation in animal raising development activities. Farm housewives basic socio-economic conditions were not related to their participation in household animal raising or to their participation in decision- making on livestock raising development, except in the case of helping make decisions to provide farm equipment and animal labour. Participation in decision-making to select feed and making plans for animal raising is related to age. Additionally their participation in livestock raising development activities is related to basic socio-economic conditions such as being a member of a village group, being in touch with agricultural officers, income, and having basic knowledge about animal husbandry. The farm housewives problems and inability to contribute in livestock raising development result from the following factors: lack of knowledge of animal raising and training; inadequate help given by livestock officers; lack of feed supplement and medical equipment for animals; lack of money for raising animals; and lack of water supply. According to the results of this research, it is suggested that the livestock officers involved should offer animal husbandry training programs to farm housewives and the livestock officers should motivate farm housewives to be interested in agricultural information, marketing, price of animal products and loans for raising animals. Organization of womens groups in livestock development should be encouraged. Rules and regulations should be changed so as to enable women to take more part in animal raising development. Strategies to educate these women should place an emphasis on the following aspects of animal husbandry technology: animal diseases, animal hygiene and animal management. There should be more livestock officers and their visits to the farm housewives should be on a regular basis. There should be a close connection between the various local offices connected with livestock raising development. There should be funds, vaccine and medical equipment (for animals) provided for these farm housewives.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: จังหวัดแพร่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นิยม บัวบาน. "การมีส่วนร่วมของแม่บ้านเกษตรกรในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ ณ อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่Participation of Farm Housewives in Livestock Raising Development at Amphoe Wangchin, Changwat Phrae". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2536

นิยม บัวบาน. "การมีส่วนร่วมของแม่บ้านเกษตรกรในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ ณ อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่Participation of Farm Housewives in Livestock Raising Development at Amphoe Wangchin, Changwat Phrae". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2536. Print.



TARR Wordcloud:
การมีส่วนร่วมของแม่บ้านเกษตรกรในการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ ณ อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่
นิยม บัวบาน
กรมส่งเสริมการเกษตร
2536
การประกอบอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ของแม่บ้านเกษตรกร อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรในการดำเนินงานพัฒนากลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต การศึกษาการสนับสนุนเพื่อการพัฒนาแม่บ้านเกษตรกร การทดลองเลี้ยงหอยสังข์กระโดด Strombus canarium ควบคู่กับการเลี้ยงกุ้งขาววานาไม ความคิดเห็นของสมาชิกต่อการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา การเลี้ยงกระบือและการมีส่วนร่วมของกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ (จดทะเบียน) ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว การศึกษาการเลี้ยงโคเนื้อและการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในกิจกรรมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์วังดาล (จดทะเบียน) จังหวัดปราจีนบุรี ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่มของสมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จังหวัดชุมพร ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่มของสมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จังหวัดสุโขทัย ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม : กรณีศึกษาของสมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรอำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ปี 2547
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair