สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาระดับแรงดึงความชื้นในดินร่วมกับการใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตว่านหางจระเข้ในชุดดินปราณบุรี
ชะไมพร สุรขัน - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ศึกษาระดับแรงดึงความชื้นในดินร่วมกับการใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตว่านหางจระเข้ในชุดดินปราณบุรี
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of Soil Moisture Tension Levels and Biochar of Aloe vera Production in Pran Buri soil series.
บทคัดย่อ: ศึกษาระดับแรงดึงความชื้นในดินร่วมกับการใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตว่านหางจระเข้ในชุดดินปราณบุรี ทำการทดลองตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึง กันยายน 2559 โดยวางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design จัดสิ่งทดลองแบบ Factorial จำนวน 3 ซ้ำ แต่ละซ้ำใช้ว่านหางจระเข้ 84 ต้น ประกอบด้วย 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยที่ 1 ระดับแรงดึงความชื้นในดิน มี 4 ระดับ ได้แก่ การให้น้ำทุกวัน แรงดึงความชื้นในดินเฉลี่ย 3-5 kPa การให้น้ำเมื่อแรงดึงความชื้นในดิน เท่ากับ 20 kPa การให้น้ำเมื่อแรงดึงความชื้นในดิน เท่ากับ 40 kPa และการให้น้ำเมื่อแรงดึงความชื้นในดิน เท่ากับ 60 kPa ปัจจัยที่ 2 อัตราถ่านชีวภาพ 4 ระดับ คือ แปลงควบคุมไม่ใส่ถ่านชีวภาพ แปลงทดลองใส่ถ่านชีวภาพอัตราส่วน 500 กก./ไร่ แปลงทดลองใส่ถ่านชีวภาพอัตราส่วน 1,000 กก./ไร และแปลงทดลองใส่ถ่านชีวภาพอัตราส่วน 1,500 กก./ไร่โดยการให้น้ำทุกวันมีปริมาณน้ำ 5.5 มม.ต่อต้นต่อครั้ง พบว่า การยืดเวลาให้น้ำจนกระทั่งแรงดึงความชื้นในดิน เท่ากับ 60 kPa ให้ปริมาณผลผลิตต่อต้นสูงสุด ทั้งในปีที่ 1 และปีที่ 2 คือ 29.58 และ 59.04 กิโลกรัมต่อต้น ตามลำดับ สำหรับการใส่ถ่านชีวภาพมีแนวโน้มให้ผลผลิตต่อต้นสูงกว่าการไม่ใส่ถ่านชีวภาพ การให้น้ำที่แรงดึงความชื้นในดินระดับต่าง ๆ ให้ผลผลิตไม่แตกต่างกัน สำหรับการให้น้ำทุกวัน การให้น้ำที่แรงดึงความชื้นในดิน 60 kPa ให้ผลผลิต เช่นเดียวกับการใส่ถ่านชีวภาพ นอกจากนี้ยังพบว่า การให้น้ำที่แรงดึงความชื้นในดินระดับต่าง ๆ ดัชนีผลผลิตไม่แตกต่างจากการให้น้ำทุกวัน ส่วนการใส่ถ่านชีวภาพและการ ให้ดัชนีการเจริญเติบโตไม่แตกต่างจากการไม่ใส่ถ่านชีวภาพ การให้น้ำที่แรงดึงความชื้นในดินระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ระยะแตกกอถึงระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต การให้น้ำที่แรงดึงความชื้นในดิน 20 40 และ 60 kPa ร่วมกับการใส่ถ่านชีวภาพ สามารถลดการใช้น้ำได้ 54.3 % 63.5 % และ 71.5. % ตามลำดับ และการใส่ถ่านชีวภาพร่วมกับการปลูกว่านหางจระเข้ สามารถลดการใช้น้ำได้ 60 % 70.8 % และ 76.9 % ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Effect of Soil Moisture Tension Levels and Biochar of Aloe vera Production in Pran Buri soil series. Conducted from October 2558 to September 2559. The experiment was arranged in Completely Randomized Design Factorial Designs treatments 3 replications. Each repeated use of aloe vera plant consists of 84 two factors, factor 1 levels in soil moisture tension with 4 levels, including the provision of water daily tension soil moisture averaged 3-5 kPa, irrigation when soil moisture tension of 20 kPa, irrigation when soil moisture tension of 40 kPa and irrigation when soil moisture tension of 60 kPa. The second factor is the level 4 bio-char, runaway convert bio-char, experimental bio-char ratio is 500 kg / rai, experimental bio-char ratio is 1,000 kg / rai and experimental bio-char ratio is 1,500 kg / rai. By providing a daily quantity of water to 5.5 mm/tree/session, found that delaying irrigation until the soil is the tensile yield per plant up to 60 kPa, in year 1 and year 2 are 29.58 and 59.04 kg respectively, for bio-char, biomass yield tends to be higher than non-biological battery. The water tension, soil moisture levels, yielding no different, for the provision of water daily Irrigation, soil moisture tension at 60 kPa to yield, as well as bio-coal, also found The water tension, soil moisture levels were not significantly different from the index of water daily. The coal and biomass, the growth index is not different from non bio-char, the water tension, soil moisture levels ranging from tillering stage to harvest, irrigation, soil moisture tension at 20, 40 and 60 kPa with the bio-char, can reduce water consumption by 54.3%, 63.5% and 71.5.% respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ชุดดินปราณบุรี
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาระดับแรงดึงความชื้นในดินร่วมกับการใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตว่านหางจระเข้ในชุดดินปราณบุรี
กรมพัฒนาที่ดิน
31 ตุลาคม 2559
ระบบการจัดการดินที่เหมาะสมร่วมกับการใช้พืชปุ๋ยสดและปุ๋ยชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตสับปะรดในกลุ่มชุดดินที่ 36 ชุดดินปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ การใช้ถ่านแกลบและถ่านชีวภาพ เพื่อรักษาความชื้นและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่นาดินทรายนอกเขตชลประทาน ศึกษาการจัดการดินโดยใช้แถบหญ้าแฝก ปุ๋ยพืชสด และปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อปรับปรุงดินและเพิ่มผลผลิตผักกาดเขียว กวางตุ้งในชุดดินปราณบุรี การศึกษาเปรียบเทียบผลของ methyl parathion ต่อมวลชีวภาพของจลินทรีย์ดินในดินชุดร้อยเอ็ด และดินชุดหนองบุนนาก ศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยชีวภาพ พด.12 ด้วยถ่านชีวภาพ(ไบโอชาร์) ต่อการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและผลผลิตพืช เทคโนโลยีการใช้ถ่านเพื่อปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน และเพิ่มผลผลิตข้าวขาวมะลิ 105 ภายใต้สภาพดินเค็ม การจัดการดินและปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน จังหวัดอุตรดิตถ์ (กลุ่มชุดดินที่ 35) การศึกษาวัสดุคลุมดินที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศของสตรอเบอรี 2 สายพันธุ์ การใช้เครื่องมือวัดความต้านทานของกระแสไฟฟ้าตรวจสอบความชื้นในดิน และลักษณะดิน : กรณีศึกษาพื้นที่โครงการพระราชดำริในความรับผิดชอบสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 10 จ.ราชบุรี การพัฒนาภูมิปัญญาพื้นบ้านในการใช้ประโยชน์ด้านอาหารจากพืชท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม : กรณีศึกษาพืชสมุนไพร ว่านหางจระเข้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก