สืบค้นงานวิจัย
มาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสมในการปลูกข้าวไร่บนพื้นที่สูง ในเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำแม่จันตอนบน ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
บุษบา อนุจรพันธ์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: มาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสมในการปลูกข้าวไร่บนพื้นที่สูง ในเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำแม่จันตอนบน ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
ชื่อเรื่อง (EN): Suitable Soil and Water Conservation Measures for Upland Rice Plantation on Highland on upper part of Maejun sub water shed land development zone, Maefahlung district, Chiangrai province
บทคัดย่อ: การศึกษามาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสมในการปลูกข้าวไร่บนพื้นที่สูง ในเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำแม่จันตอนบน ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ดำเนินการที่ บ้านตงจาไส หมู่ที่ 13 ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย อยู่ในกลุ่มชุดดินที่ 29 ชุดดินบ้านจ้อง (Ban Chong series: Bg) ระยะเวลาดำเนินการปีพ.ศ.2557-2559 โดยมีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาระยะห่างที่เหมาะสมของคูรับน้ำรอบเขาและแถบพืชเพื่อใช้เป็นมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำบนพื้นที่สูงเพื่อปลูกข้าวไร่ ศึกษาผลระยะห่างของคูรับน้ำรอบเขาและแถบพืช ที่มีต่อปริมาณการสูญเสียดินการเจริญเติบโต และผลผลิตของข้าวไร่ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีและกายภาพของดินเมื่อมีการจัดการดินต่างกัน วางแผนการทดลองแบบ Split plot in RCBD (Split plot in Randomized Complete Block Design) มี 3 ซ้ำ มีจำนวน 6 วิธีการ 3 ซ้ำ ดังนี้ ปัจจัยหลัก (main plot) คือM1=ระยะห่างระหว่างคูรับน้ำขอบเขาในแนวดิ่ง 4 เมตร (vertical interval = 4 เมตร),M2=ระยะห่างระหว่างคูรับน้ำขอบเขาในแนวดิ่ง 8 เมตร (vertical interval = 8 ม.) สำหรับปัจจัยรอง (sub plot) S1 =ไม่มีมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ ปลูกข้าวไร่,S2=มีคันคูรับน้ำรอบเขา, S3=มีคันคูรับน้ำรอบเขาและปลูกหญ้าแฝกบริเวณสันคันดินด้านนอก, S4=ปลูกชาเป็นแถบพืชอนุรักษ์ดิน,S5=ปลูกบ๊วยร่วมกับเศษพืช เป็นแถบพืชอนุรักษ์ดิน ผลการทดลองพบว่า สมบัติทางเคมีดินก่อนปลูก ดินเป็นกรดรุนแรงมาก (extremely acid) มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน เท่ากับ 4.12 ปริมาณอินทรียวัตถุอยู่ในระดับปานกลางคือ 2.19 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ เท่ากับ 12 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ระดับปานกลาง ปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้เท่ากับ 83 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อยู่ในเกณฑ์ระดับปานกลาง หลังจากการทดลอง ผลร่วมระหว่างระยะห่างระหว่างคูรับน้ำขอบเขาในแนวดิ่ง และวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำวิธีการต่างๆ ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ ในปีที่ 3 ค่า pH ของดินปรับขึ้น ดินมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน เป็นกรดจัดมาก (very strongly acid) มีค่า pH อยู่ในช่วง 4.63–4.79 แต่ปริมาณอินทรียวัตถุเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงถึงสูงมาก คือ 4.50 – 4.85 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์แนวโน้มลดลง เท่ากับ 1.2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ระดับต่ำมาก และปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อยู่ระดับสูงถึงสูงมาก มีค่าเท่ากับ 90 – 121 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม การเจริญเติบโตของข้าวไร่ผลร่วมระหว่างระยะห่างระหว่างคูรับน้ำขอบเขาในแนวดิ่ง และวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำวิธีการต่างๆพบว่า ให้ผลไม่แตกต่างกันในทางสถิติในแต่ละวิธีการยิ่ง มีความสูงเฉลี่ย 99.71 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับปี2558 และ2559 มีความสูงโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 101.17 เซนติเมตร และ 102.90 เซนติเมตร การเก็บผลผลิตข้าวไร่จากแปลงทดลองที่มีระบบอนุรักษ์ดินและน้ำแบบต่างๆ ให้ผลผลิตไม่แตกต่างกันทางสถิติ มีผลผลิตเฉลี่ย 302.13 – 310 กิโลกรัมต่อไร่ เปอร์เซ็นต์เมล็ดดีไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ มี 88.44-87.03 % ในปีแรก แต่ปี 2559 เปอร์เซ็นต์เมล็ดดีเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 89.14-89.59 % จึงให้ ผลผลิตข้าวไร่เฉลี่ยสูงสุด 308 กก./ไร่ ปริมาณน้ำฝน 3 ปี ที่วัดได้ค่าเฉลี่ย 1,457 มิลลิเมตรต่อปี ผลร่วมระหว่างระยะห่างระหว่างคูรับน้ำขอบเขาในแนวดิ่ง และการอนุรักษ์ดินและน้ำวิธีการต่างๆ พบว่า วิธีการที่ไม่มีระบบอนุรักษ์ดินและน้ำมีผลแตกต่างทางสถิติ ตะกอนดินโดยวิธีการที่ไม่มีระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ มีผลทำให้ปริมาณตะกอนดินมากที่สุด เท่ากับ 860 กิโลกรัมต่อไร่ และ 1,113 กิโลกรัมต่อไร่ คิดเป็นปริมาณธาตุอาหารที่สูญเสียไปกับตะกอนดิน โดยปริมาณไนโตรเจน (Total N) ที่สูญเสียไปเฉลี่ย1.05 กิโลกรัมNต่อไร่ ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในตะกอนดินที่สูญเสียไปเฉลี่ย 0.159 กิโลกรัมP2O5 ต่อไร่ ปริมาณโพแทสเซียมที่สกัดได้ในตะกอนดินที่สูญเสียไปเฉลี่ย 0.145 กิโลกรัม K2Oต่อไร่ แต่เมื่อเปรียบเทียบปริมาณการสูญเสียดิน ทั้ง 3 ปี นั้นมีค่าลดลงทุกปี และในปีที่ 3 (2559) ปริมาณตะกอนดินที่ไม่มีระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ มากกว่าวิธีการอื่นๆ เท่ากับ 463 กิโลกรัมต่อไร่ และ 493 กิโลกรัมต่อไร่ แต่วิธีการมีคันคูรับน้ำรอบเขาและปลูกหญ้าแฝกบริเวณสันคันดินด้านนอกปริมาณตะกอนดินน้อยที่สุด เท่ากับ 203 กิโลกรัมต่อไร่ และ 236 กิโลกรัมต่อไร่ ดังนั้นวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสมของการปลูกข้าวไร่บนพื้นที่สูง วิธีการมีคันคูรับน้ำรอบเขาและปลูกหญ้าแฝกบริเวณสันคันดินด้านนอก ระยะห่างในแนวดิ่ง 4 เมตร รองลงมาคือ ปลูกชา เป็นแถบพืชอนุรักษ์ดินวิธีการการใช้ระบบหญ้าแฝกปลูกขวางความลาดชัน จะมีผลให้มีปริมาณตะกอนดินที่สูญเสียไปน้อยกว่า 2 ต่อไร่ต่อปี และช่วยลดการชะล้างพังทลายได้ ควรแนะนำให้เกษตรกรนำไปปฏิบัติสำหรับในการปลูกข้าวไร่บนพื้นที่สูงได้ เพื่อการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืน
บทคัดย่อ (EN): Suitable Soil and Water Conservation Measures for Upland Rice Plantation on Highland on upper part of Maejun sub water shed land development zone, Mae fah luang district, Chiangrai province In the soil series group No 29 (Ban Chong series: Bg) During of the year 2013-2015. The objective was to The Study of Hill Side Ditch (use the vertical interval) and Plant strips for use as soil and water conservation measures. for Upland Rice Plantation on Highland. The study Effect of Appropriate Spacing of Hill Side Ditch and Plant strips for use as soil and water conservation measures effect The amount of soil loss, soil physical to the growing of Upland Rice. Study of Soil physical and chemical properties of the soil when different soil management. The experimental design was Split plot in RCBD (Split plot in Randomized Complete Block Design).the experiment was arranged into 2 main plot with 5 sub plot. Main plot 1 were Hillside ditch (use the vertical interval 4 meters), Main plot 2 = were Hillside ditch (use the vertical interval 8 meters), Treatments with 3 replications as follows: S1= No soil and water conservation measures, S2= Hillside ditch, S3= Hillside ditch and the vetiver grass outside Hillside ditch,S4= Grow tea as a soil conservation, S5 = Grow Plum as a soil conservation The results showed that. Chemical properties of soil before planting The soil is very acidic (extremely acid). The pH of the soil 4.12, The organic matter in soil Is moderate 2.19 percent, The phosphorus in soil Is moderate 12 mg/kg, The potassium in soil Is moderate 83 mg/kg, After the trial Joint result between Hill Side Ditch (use the vertical interval) and Plant strips for use as soil and water conservation measures. for Upland Rice Plantation on Highland and Plant strips for use as soil and water conservation measures No statistically significant difference. In year 3, The pH of the soil higher soil is very acidic (very strongly acid) 4.63 – 4.79, The organic matter in soil High to very high 4.50 – 4.85 percent, The potassium in soil Is increase 1.2 mg/kg, which is considered very low. The potassium in soil Is High to very high 90 – 121 mg/kg, For upland rice. Plantation on Highland and Plant strips for use as soil and water conservation measures No statistically significant difference. The upland rice have height of average 99.71 cm compared to 2015 and 2016 The average height has increased. 101.17 cm and 102.90 cm. The yield upland rice is the average yield of 306.10 kg/rai. The yield did not differ statistically the average yield of 302.13 – 310 kg/rai. The good seed is did not differ statistically 88.44-87.03 % In the first year, but years 2559 The good seed highest average 89.14-89.59 % therefore the highest average yield of rice 308 kg/rai. Average of rain was 1,457 millimeter per year. Results Hillside ditch use the vertical interval and Soil and water conservation methods.Found that no soil and water conservation there are statistical differences.The amount of soil loss no soil and water conservation gave the highest soil loss 1,113 kilogram/rai/year.The nutrients loss of on a farm were The total Nitrogen loss were 1.05 kg/rai, Phosphorus loss (P2O5) were 0.159 kg/rai, and Potassium loss (K2O) were 0.145 kg/rai. But when comparing the amount of soil loss in 3 years, reduced every year which In year 3 (2559) The amount of soil loss No soil and water conservation gave the highest soil loss 463-493 kilogram/rai/year but method Hillside ditch and the vetiver grass outside Hillside ditch gave the low soil loss 203-236 kilogram/rai/year so that method Hillside ditch and the vetiver grass outside Hillside ditch Very suitable (use the vertical interval 4meters),secondary is Grow tea as a soil and water conservation The loss of sediment is less than 2 per rai per year and reduce erosion. Farmers should be recommended for growing upland rice In order to use the land sustainably.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ภาษาอังกฤษ
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
มาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสมในการปลูกข้าวไร่บนพื้นที่สูง ในเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำแม่จันตอนบน ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2559
การคัดเลือกพันธุ์ข้าวไร่ที่เหมาะสมกับระบบการปลูกข้าวไร่-อ้อย การพัฒนากระบวนการผลิตข้าวไร่พันธุ์พื้นเมือง ในเขตพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง จังหวัดนครราชสีมา การเพิ่มศักยภาพการผลิตพืชเศรษฐกิจเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำบนพื้นที่สูงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่าจังหวัดพะเยา การศึกษาระยะห่างที่เหมาะสมของคูรับน้ำรอบเขาเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำบนพื้นที่สูง ชุดดินหนองมด (Nm) กลุ่มชุดดินที่ 29 อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เหมาะสมในการกำหนดเขตการใช้ที่ดิน (zoning) ในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำแหง อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ปัจจัยที่มีผลต่อความต่อเนื่องของวิสาหกิจชุมชนในตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ผลของมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพดบนพื้นที่สูง ในเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำจันตอนบน ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการยอมรับข้าวพันธุ์ปรับปรุงใหม่ของเกษตรกรในท้องที่ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน การศึกษาสารออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระจากเมี่ยง ในเขตชุมชนต้นแม่น้ำลาว อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ปัญหาอุปสรรคในการจัดทำแปลงขยายพันธุ์ข้าว กข 6 ฤดูฝนปี 2546 ในเขตพื้นที่กิ่งอำเภอสีดา จังหวัดนครราชสีมา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก