สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาคุณสมบัติทางภายภาพและชลศาสตร์ของดินที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วิทยา ตรีโลเกศ - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาคุณสมบัติทางภายภาพและชลศาสตร์ของดินที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชื่อเรื่อง (EN): Study of Physical and Hydraulic Properities of Major Soil Series in Mortheast, Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิทยา ตรีโลเกศ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Vidhaya Trelo-ges
บทคัดย่อ: ชุดดินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สำคัญที่สุด ได้แก่ ชุดดินโคราชและชุดดินร้อยเอ็ด ซึ่งครอบคลุม 20% และ 17% ของพื้นที่ตามลำดับ โดยที่ชุดดินโคราชเป็นตัวแทนของดินไร่และชุดดินร้อยเอ็ดเป็นตัวแทนของดินนา เนื่องจากคุณสมบัติทางกายภาพและชลศาสตร์ของดินมีความสำคัญต่อการคำนวณออกแบบ และสร้างแบบจำลอง ที่เกี่ยวข้องกับการชลประทานและอุทกวิทยา การศึกษานี้จึงศึกษา ทดลองรวบรวมคุณสมบัติทางกายภาพและชลศาสตร์ของดินทั้งสองชุดดินดังกล่าวโดยศึกษาในระดับความลึกตั้งแต่ 0-100 ซม. ได้ผลการศึกษาดังนี้ ใช้วิธี Sieve analysisi และ Sedimentation analysis ได้เนื้อดิน (soil texture) ของดินชุดโคราชเป็น sandy loam ส่วนชุดดินร้อยเอ็ดเป็น loam ในการหาเส้นอัตลักษณ์ของน้ำในดิน (Soil water characteristic curves) ได้ใช้วิธี hanging column และวิธี pressure plate เมื่อดินมีพลังงานศักย์ของน้ำในดินต่ำและสูงตามลำดับ พบว่าความชื้นที่ความจุสนาม (field capacity) ของชุดดินโคราชคือ 0.12 และของชุดดินร้อยเอ็ด 0.18 ที่ผิวดินและ 0.3 ที่ความลึกเกิน 75 ซม. ค่าความชื้นที่จุดเหี่ยวอย่างถาวรของพืช (permanent wilting point) ของดินชุดดินโคราชคือ 0.05 ของชุดดินร้อยเอ็ดมีค่า 0.06 ที่ผิวดิน และ 0.16 ที่ระดับลึกกว่า 75 ซม. ค่าความชื้นที่จุดเหี่ยวอย่างถาวรของพืช (permanent wilting point) ของชุดดินโคราชคือ 0.05 ของชุดดินร้อยเอ็ดมีค่า 0.06 ที่ผิวดินและ 0.16 ที่ระดับลึกกว่า 75 ซม. ค่าความหนาแน่นรวมของดิน (Bulk density) หาจากกระบอกเก็บตัวอย่างดิน (soil core) 100 ลบ.ซม. ได้ค่าเฉลี่ย 1.47 กรัม/ลบ.ซม. ความพรุนของดิน (total soil porosity) หาจากกระบอกเก็บตัวอย่างดินโดยการทำให้ดินอิ่มตัวและอบแห้งได้ค่า 0.25 สำหรับชุดดินโคราช และ 0.36 สำหรับชุดดินร้อยเอ็ดสัมประสิทธิ์การนำน้ำของดินที่อิ่มตัวด้วยน้ำ (Saturated hydraulic conductivity) หาโดยวิธี falling head ได้ค่าเฉลี่ยสำหรับดินโคราชเป็น 103 ซม./วัน ส่วนดินร้อยเอ็ดมีค่าเฉลี่ย 29 ซม./วัน ที่ผิวดิน และ 0.9 ซม./วัน ที่ความลึกเกิน 75 ซม. ค่าการแทรกซึมของน้ำในดิน (Infiltration) ใช้วิธี Double ring ได้อัตราการแทรกซึมของน้ำในดิน (Infiltration) ใช้วิธี Double ring ได้อัตราการแทรกซึมของน้ำในดินโคราชและดินร้อยเอ็ดเป็น 78 มม./ชม. และ 6 มม./ชม. ตามลำดับ จะเห็นว่าค่าสัมประสิทธิ์การนำน้ำของดินที่อิ่มตัวด้วยน้ำและอัตราการแทรกซึมของน้ำในชุดดินร้อยเอ็ดมีค่าต่ำกว่าชุดดินโคราชมาก ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำเนื่องจากการซึมในชุดดินร้อยเอ็ดมีน้อยกว่าชุดดินโคราช นี่เป็นสาเหตุให้มีการทำนาในชุดดินร้อยเอ็ดได้ดีกว่าชุดดินโคราช
บทคัดย่อ (EN): The most important soil series in the Northeast are Korat and Roi-series which cover 20% and 17% of the whole area respectively. Korat soil series represents upland soil while Roi-et soil series corresponds to lowland soil. Since the physical and hydraulic properties of soils are necessary for calculation, design, and modeling of many kinds of work, e.g. irrigation, drainage, hydrology, and the likes, this project was set up to study, experiment and compile physical and hydraulic properties of both soil series. The study was done to a depth of 100 cm of soil. Texture of both soils were analysed by sedimentation analysis for fine particles and sieve analysis for coarse particles. After analysis, the textural name given to Korat soil is sandy loam and Roi-et soil is loam. The soil water characteristic curves wee determined by the hanging column method for the soil samples at low water potential and content at field capacity of Korat soil is about 0.12, for Roi-et soil the value is 0.18 at the soil surface and about 0.30 deeper than 75 cm. The water content at permanent wilting point of Korat soil is 0.05 and of about 0.30 deeper than 75 cm. The water content at permanent wilting point of Korat soil is 0.05 and of Roi-et soil is 0.06 at the soil surface and 0.16 at a depth of greater than 75 cm. Bulk density values,measured from aoil cores of 100 cm3, wee about 1.47 gm/cm3 and 1.55 gm/cm3 for Karat and Roi-et soil series respectively. Total soil porosity values, measured by using cored samples of 100 cm3 which wee weighed at saturation and weighed again after ovendrying, were found to be 0.25 for Korat soil and 0.36 for Roi-et soi1. The falling head method was used to obtain the values of saturated hydraulic conductivity (Ksat) of both soils. The average Ksat -value for Korat soil is 103 cm/day but for Roi-et soil the values vary from 29 cm/day at soil surface to 0.9 cm/day at a depth lower than 75 cm. By using the double ring method, the constant infiltration rate of Korat and Roi-et soils are 78 mm/hr and 6 mm/hr respectively. The hydraulic conductivity and infiltration rate values of Roi-et soil are much lower than those of Korat soil. This means that water loss by percolation is greater in Korat soil than Roi-et soil. Roi-et soil series is more suitable for paddy rice cultivation than Korat Soil series.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: คุณสมบัติทางฟิสิกส์ของดิน
คำสำคัญ (EN): Northeast
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมวิชาการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

วิทยา ตรีโลเกศ. "การศึกษาคุณสมบัติทางภายภาพและชลศาสตร์ของดินที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือStudy of Physical and Hydraulic Properities of Major Soil Series in Mortheast, Thailand". กรมวิชาการเกษตร. 2545

วิทยา ตรีโลเกศ. "การศึกษาคุณสมบัติทางภายภาพและชลศาสตร์ของดินที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือStudy of Physical and Hydraulic Properities of Major Soil Series in Mortheast, Thailand". กรมวิชาการเกษตร. 2545. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาคุณสมบัติทางภายภาพและชลศาสตร์ของดินที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วิทยา ตรีโลเกศ
กรมวิชาการเกษตร
2545
การใช้ประโยชน์ของดินชุดยโสธรเพื่อการเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้ดัชนีทนแล้งคัดพันธุ์ถั่วเหลืองเพื่อปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เทคโนโลยีการปลูกพริกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอนแก่น 3 พันธุ์อ้อยสำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเลี้ยงผึ้งพันธุ์ของเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลของการไถระเบิดดินดานมีผลต่อสมบัติของดินที่ปลูกมันสำปะหลังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ระบบการจัดการพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การดำเนินงานกลุ่มส่งเสริมอาชีพการเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การยอมรับมาตรฐานฟาร์มผึ้งของเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย สำรวจรวบรวมผักพื้นเมืองทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair