สืบค้นงานวิจัย
ผลกระทบของสารเคมีป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลต่อความหลากชนิดของศัตรูธรรมชาติในนาข้าวจังหวัดสกลนคร
สิทธ์ ใจสงฆ์ - กรมการข้าว
ชื่อเรื่อง: ผลกระทบของสารเคมีป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลต่อความหลากชนิดของศัตรูธรรมชาติในนาข้าวจังหวัดสกลนคร
ชื่อเรื่อง (EN): The Impacts of Insecticides for Brown Planthopper on the Natural Enemies Diversity in Sakon NaKhon Provience Paddy Fields
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สิทธ์ ใจสงฆ์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sith Jaisong
ชุดเอกสาร: การประชุมวิชาการกรมการข้าว ประจำปี 2562 บูรณาการเทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาข้าว
บทคัดย่อ: เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Nilaparvata lugens (Stål) เป็นแมลงศัตรูข้าวที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดเป็นทางเลือกหนึ่งที่เกษตรกรนิยม อย่างไรก็ตามสารเคมีดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อแมลงศัตรูธรรมชาติที่อยู่ในนาข้าว ดังนั้นงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของสารเคมีป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลต่อความหลากชนิดของศัตรูธรรมชาติในนาข้าว ดำเนินการทดลองที่ศูนย์วิจัยข้าวสกลนคร ในฤดูนาปรัง พ.ศ. 2560 และ 2561 โดยวางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block 3 ซ้ำ 6 กรรมวิธี ได้แก่ การพ่นไดโนทีฟูแรน อีโทเฟนพรอกซ์ ไอโซโปรคาร์บ+บูโพรเฟซิน ไพมีโทรซีน ซัลฟอกซาฟอร์ล และน้ำกลั่นเป็นกรรมวิธีควบคุม ผลวิจัยทั้ง 2 ปี พบศัตรูธรรมชาติ ทั้งหมด 7 อันดับ ได้แก่ Hymenoptera (ร้อยละ 31.5 และ 15.2) Hemiptera (ร้อยละ 29.2 และ 35.0) Araneae (ร้อยละ 17.0 และ 4.47) Coleoptera (ร้อยละ 10.1 และ 6.57) Diptera (ร้อยละ 8.53 และ 28.5) Orthoptera (ร้อยละ 2.02 และ 1.18) และ Odonata (ร้อยละ1.62 และ 9.02) วิเคราะห์ค่าดัชนีความชุกชุมของศัตรูธรรมชาติพบว่ามีแนวโน้มลดลงหลังพ่นสารไดโนทีฟูแรน ไพมีโทรซีน และซัลฟอกซาฟอร์ล 7 วัน เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม สอดคล้องกับค่าดัชนีความหลากหลายของ Shannon-Wiener ที่พบว่าหลังพ่นสารไดโนทีฟูแรน ไพมีโทรซีน และซัลฟอกซาฟอร์ล มีแนวโน้มค่าดัชนีความหลากหลายลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมซึ่งมีแนวโน้มค่าดัชนีความหลากหลายสูงกว่า งานวิจัยนี้บ่งชี้ว่าสารไดโนทีฟูแรน ไพมีโทรซีน และซัลฟอกซาฟอร์ลมีผลกระทบต่อความหลากชนิดของศัตรูธรรมชาติมากกว่าสารอีโทเฟนพรอกซ์ และไอโซโปรคาร์บ+บูโพรเฟซิน ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกใช้สารเคมีป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่ส่งผลกระทบต่อศัตรูธรรมชาติน้อยที่สุด
บทคัดย่อ (EN): The brown planthopper (BPH), Nilaparvata lugens (Stål) is a crucial insect pest of rice in northeast Thailand. Chemical insecticide control is considered the most common viable option by farmers. Although these chemicals had affected on natural enemies in the rice ecosystem. This research aimed to determine the impact of chemical insecticides used to BPH control on the species diversity of natural enemies in rice paddy field. The experiment was carried out during the dry season rice both in 2017 and 2018 in Sakon Nakhon Rice research Center’s field. The experimental design used was randomized complete block (RCB) with three replications and six treatments. Treatments were designated as follows: sprayed with dinotefuran, etofenprox, isoprocarb+buprofezin, sulfoxaflor pymetrozine and distilled water (control). Overall, the total of natural enemies were identified as belonging to 7 orders which consisted of Hymenoptera (31.5% and 15.2%), Hemiptera (29.2 % and 35.0%), Araneae (17.0% and 4.47%), Coleoptera (10.1% and 6.57%), Diptera (8.53% and 28.5%), Orthoptera (2.02% and 1.18%) and Odonata (1.62 and 9.02%) were observed in 2017 and 2018 respectively. Based on analysis biodiversity indice of natural enemies showed lower species abundance and Shannon-Wiener index were found after 7days sprayed with dinotefuran, pymetrozine and sulfoxaflor, compared to control. This research revealed that the application of dinotefuran, pymetrozine and sulfoxaflor had adverse affected on natural enemies and greater than etofenprox and isoprocarb+buprofezin. These results may provide useful guideline for selecting the appropriate chemicals which have less of an affect on natural enemies for BPH control.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 2
เผยแพร่โดย: กรมการข้าว
คำสำคัญ: สารกำจัดแมลงศัตรูข้าว
คำสำคัญ (EN): insecticide
หมวดหมู่: พืช
หมวดหมู่ AGRIS: H10 สัตว์ศัตรูพืช (Pests of plants)
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมการข้าว
รายละเอียด: Submitted by Ton Admin (ton@local) on 2019-05-30T04:34:19Z No. of bitstreams: 2 20 PP-34.pdf: 169690 bytes, checksum: cb10705ddc73156c476dde7843cbeb76 (MD5) license_rdf: 811 bytes, checksum: 53b05846eb6eeb1c33891ab08e36a383 (MD5)
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลกระทบของสารเคมีป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลต่อความหลากชนิดของศัตรูธรรมชาติในนาข้าวจังหวัดสกลนคร
กรมการข้าว
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
กรมการข้าว
มุมมองเรื่องชีวชนิดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน เปรียบเทียบการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูในนาข้าว โดยชีววิธี (แมลงศัตรูธรรมชาติ) และการใช้สารป้องกันกำจัดแมลง ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน อิทธิพลของขนาดเพลี้ยอ่อนถั่ว (Aphis cracciuora) ที่มีผลต่อขนาด ระยะเวลาการพัฒนา อัตราส่วนทางเพศของตัวเบียน และจำนวนตัวเบียน (Aphidius colemani) ที่เกิดจากเพลี้ยอ่อน อาร์โทรปอตในระบบนิเวศน์นาข้าวพันธุ์อ่อนแอและพันธุ์ต้านทานต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี แตนเบียนไข่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวภาคกลาง การจัดการน้ำในการปลูกข้าวเพื่อควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก