สืบค้นงานวิจัย
โครงการศึกษาการนำเส้นไหมพันธุ์ไทยไปใช้เป็นเส้นพุ่งในการผลิตผ้าไหมยกดอกลำพูน
หทัยกาญจน์ ประไพพานิช - กรมหม่อนไหม
ชื่อเรื่อง: โครงการศึกษาการนำเส้นไหมพันธุ์ไทยไปใช้เป็นเส้นพุ่งในการผลิตผ้าไหมยกดอกลำพูน
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Thai silk Yarn in the production weft yarn into Lamphun brocade Thai Silk.
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ในการศึกษาการนำเส้นไหมพันธุ์ไทยไปใช้เป็นเส้นพุ่งในการผลิตผ้าไหมยกดอกลำพูน เลือกใช้เส้นไหมพันธุ์นางสิ่ว x นางตุ่ย และสาวไหมด้วยเส้นไหมเด่นชัย 1 และดำเนินการทดสอบหาปัจจัยที่เหมาะสมในการผลิตเส้นไหมพุ่ง โดยได้แบ่งขนาดเส้นไหมหนึ่งเป็น 5 ขนาด คือขนาดน้อยกว่า หรือ เท่ากับ 120 ดีเนียร์ ขนาด 121 -150 ดีเนียร์ ขนาด 151 – 200 ดีเนียร์ ขนาด 201 – 250 ดีเนียร์ และขนาดมากกว่าหรือเท่ากับ 251 ดีเนียร์ โดยได้แบ่งทั้ง 5 ขนาดเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ไม่ได้ตีเกลียวเส้นไหมดิบ และกลุ่มที่ตีเกลียวเส้นไหมดิบ ได้นำมาหาน้ำหนักเส้นไหม ขนาดเส้นไหม ความเหนียว การยืดตัว และการรวมตัว พบว่า ด้านน้ำหนัก และขนาดของเส้นไหมนั้น เนื่องจากขนาดของเส้นสัมพันธ์กับน้ำหนักของเส้นจึงพบว่าเส้นไหมที่มีขนาดใหญ่ก็จะมีน้ำหนักของเส้นไหมที่มาก แต่พบว่าส่วนใหญ่ไม่สามารถควบคุมขนาดของเส้นไหมให้อยู่ในช่วงที่กำหนดได้ จากนั้นจึงนำไปศึกษาการนำเส้นไหมพันธุ์ไทยไปใช้เป็นเส้นพุ่งในการทอผ้าไหมยกดอกลำพูน โดยนำเส้นไหมทั้งหมดไปฟอกกาวไหม และต้นทุนของเส้นไหมเมื่อทำการฟอกกาวไหมออกแล้ว พบว่า ต้นทุนในการผลิตเส้นไหม 804.18 บาท ต้นทุนในการฟอก 507.76 บาท รวมต้นทุนการผลิตเส้นไหมที่ฟอกกาวแล้ว 1,311.94 บาท ต่อเส้นไหมดิบ 1 กิโลกรัม สำหรับเส้นไหมที่ตีเกลียวแล้วมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 650 บาท ดังนั้นเส้นไหมที่ตีเกลียวเส้นไหมและนำไปฟอกจะมีต้นทุนทั้งหมด 1,961.94 บาท นำเส้นไหมที่ฟอกกาวเสร็จและเส้นไหมโรงงานไหมควบ 6 (ขนาด 26 ดีเนียร์) ตีเกลียว 150 TPM ที่ใช้เป็นเส้นพุ่งในผ้าไหมยกดอกลำพูน ส่งไปทดสอบหาความแข็งแรง คือ แรงดึงขาด ความเหนียว ทดสอบจำนวนเกลียว และทดสอบขนาดเส้นด้าย พบว่า เส้นไหมโรงงานมีขนาด 130.5 ดีเนียร์ แรงดึงขาด 610.8 กรัมต่อแรง และความเหนียว 4.68 กรัมแรงต่อดีเนียร์ จำนวนเกลียว 3.9 เกลียวต่อนิ้ว ซึ่งแรงดึงขาดที่ใกล้เคียงเส้นไหมโรงงานที่สุดคือ กรรมวิธีที่ 1 ไหมน้อยขนาดน้อยกว่า หรือ เท่ากับ 120 ดีเนียร์ 603.2 กรัมต่อแรง ในเรื่องความเหนียวส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเส้นไหมโรงงาน ในเรื่องจำนวนเกลียว พบว่าเส้นไหมที่ไม่ได้ผ่านการตีเกลียวจะมีจำนวนเกลียว 0.1 เกลียวต่อนิ้ว ในเรื่องของขนาดของเส้นไหมพบว่ามีอยู่ 3 กรรมวิธีเท่านั้นที่อยู่ในช่วงที่กำหนด คือ กรรมวิธีที่ 2 ,3 และ 8 นำเส้นไหมที่ฟอกกาวไหมแล้วทั้ง 10 กรรมวิธี และเส้นไหมโรงงาน ไปให้ช่างทอผ้าไหมยกดอกลำพูนทอ และส่งผ้าที่ทอได้ทั้ง 11 กรรมวิธีไปทดสอบน้ำหนักผ้า ความหนาของผ้า น้ำหนักของผ้าในกรรมวิธีที่ 11 ซึ่งเป็นเส้นไหมโรงงาน มีน้ำหนักผ้า 171.5 กรัมต่อตารางเมตร และมีความหนาของผ้า 0.38 มิลลิเมตร ซึ่งจัดอยู่ในประเภทผ้าที่มีน้ำหนักปานกลาง (medium) และความหนาอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งผลการทดสอบน้ำหนักผ้า ทุกกรรมวิธีจะอยู่ในช่วงน้ำหนักปานกลาง ส่วนความหนาของผ้า พบว่า กรรมวิธีที่ 6 7 และ 10 จะอยู่ในช่วงที่ความหนาของผ้าปานกลาง ส่วนกรรมวิธีที่ 1 2 3 4 5 และ 9 จะอยู่ในช่วงที่ความหนาของผ้าหนา เมื่อสอบถามสัมภาษณ์ตัวแทนกลุ่มทอผ้าไหมยกดอกลำพูนที่ทั้งผู้ประกอบการ และช่างทอผ้าเกี่ยวกับการนำเส้นไหมไทยไปใช้เป็นเส้นพุ่ง โดยใช้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ จากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ คนกรอเส้นไหมและคนทอผ้าไหมยกดอกลำพูน พบว่า ในการนำเส้นไหมไปทอนั้นเส้นไหมนำออกจากไจไหมยาก และกรอไหมยาก เนื่องจากเส้นไหมพันกัน ในส่วนความพึงพอใจของผู้บริโภคจากการสอบถามผู้บริโภคจำนวน 50 คน โดยใช้แบบสอบถาม พบว่า ผู้บริโภคมีความพึงพอใจโดยรวมในผ้าไหมยกดอกลำพูนที่ใช้เส้นพุ่งเป็นเส้นไหมโรงงานมากที่สุด ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะยังคงชอบผ้าไหมยกดอกที่ใช้เส้นพุ่งเป็นไหมโรงงานอยู่ แต่ถ้าเป็นเส้นไหมไทยสาวมือส่วนใหญ่จะเป็นเส้นไหมที่ผ่านการตีเกลียวมาแล้ว
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมหม่อนไหม
คำสำคัญ: ผ้าไหมยกดอกลำพูน
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการศึกษาการนำเส้นไหมพันธุ์ไทยไปใช้เป็นเส้นพุ่งในการผลิตผ้าไหมยกดอกลำพูน
กรมหม่อนไหม
30 กันยายน 2558
กรมหม่อนไหม
การเปรียบเทียบธุรกิจผ้าไหมระหว่างกลุ่มทอผ้าบ้านหนองหญ้าปล้อง และกลุ่มสตรีสหกรณ์บ้านหัวฝาย จังหวัดขอนแก่น การใช้รังสีแกมมาเพื่อเพิ่มผลผลิตของไหมพันธุ์ไทย ผลการสาวไหมด้วยวิธีการต่างๆต่อคุณสมบัติของเส้นไหมไทยประเภทไหม 1 การศึกษาผลกระทบของการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ผ้าไหมยกดอกลำพูนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ที่มีต่อชุมชนกลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการ ผ้าไหมยกดอกลำพูน โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องสาวไหมเส้นพุ่ง (ใช้แรงคน) การผลิตเส้นไหมไทยตามมาตรฐาน มกอช. 8000-2548 ผลของการใช้เส้นไหมไทยที่สาวด้วยวิธีการต่างๆ ต่อคุณสมบัติผ้าไหม การศึกษาคุณภาพผลผลิตรังไหมและเส้นไหมในภาคอุตสาหกรรม ศึกษาถึงเปอร์เซ็นต์เส้นใยของไหมเส้นพุ่งที่สาวได้จากรังไหมคัดออก (รังเสีย) การสำรวจคุณภาพไหมเส้นพุ่งในภาคเกษตรรายย่อย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก