สืบค้นงานวิจัย
ผลของการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนต่อการออกดอกและผลผลิตของลำไย ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี
สุทิศา ชัยกุล - มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
ชื่อเรื่อง: ผลของการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนต่อการออกดอกและผลผลิตของลำไย ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of Nitrogen Fertilizer on Longan (Dimocarpus longan, Lour.) Flowering and Yields in Chantaburi Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุทิศา ชัยกุล
บทคัดย่อ: ลำไยจัดเป็นไม้ผลที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ ในปัจจุบันแหล่งผลิตที่สำคัญยัง กระจายอยู่ในภาคต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งในบางครั้งเป็นการใช้ปัจจัยการผลิตในการทำลำไยนอก ฤดูที่มากเกินความจำเป็นและไม่เหมาะสม ดังนั้น การทดลองนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ทดสอบ อัตราปุ๋ยเคมีที่ส่งผลต่อการออกตอกและปริมาณผลผลิตของลำไย ในพื้นที่ อำเภอมะขาม และอำเภอ ท่ใหม่ จังหวัดจันทบุรี และ 2) ทดสอบระยะเวลาการใส่ปุ๋ยเคมีที่ส่งผลต่อการออกดอกและปริมาณ ผลผลิตของลำไย ในพื้นที่ อำเภอมะขาม และอำเภอท่ใหม่ จังหวัดจันทบุรี การทดลองที่ 1 ประกอบตัวย 12 ตำรับทดลอง ได้แก่ (1) ควบคุม (2) ปุ๋ย N, P, K อัตราแนะนำ (3) 14xN อัตรา แนะนำ (4) 2XN อัตราแนะนำ (5) 4xN อัตราแนะนำ (6) 1: xP อัตราแนะนำ (7) 2xP อัตราแนะนำ (8) 4xP อัตราแนะนำ (9) 12xK อัตราแนะนำ (10) 2xK อัตราแนะนำ (11): 4xK อัตราแนะนำ และ (12) อัตราที่เกษตรกรใส่ การทตลองที่ 2 ประกอบด้วย 3 ตำรับทดลอง ได้แก่ (1) ใส่ปุ๋ยวันที่ 0, 5, 10 (2) ใส่ปุ๋ยวันที่ 0, 10, 20 (3) ใส่ปุ๋ยวันที่ 0, 15, 30 หลังแตกใบอ่อนครั้งที่ 2 เก็บข้อมูลดินก่อน ปลูก, น้ำหนักใบสด, ความยาวใบ, ปริมาณธาตุ N, P, K ในใบก่อนการชักนำให้เกิดดอกโต๋ยการราต สาร KCIO3, ชนิดช่อดอก, 96 การแตกช่อดอก, น้ำหนักผล, น้ำหนักเปลือก, น้ำหนักเมล็ด, ความ กว้างผล, ความกว้างเมล็ด, จำนวนผลผลิตต่อช่อ, น้ำหนักต่อผลและผลผสิตรวมต่อตัน จากข้อมูลดินก่อนปลูกพบว่แปลงทั้งสองเป็นกรดสูง ปริมาณพแทสเซียม แคลเซียมและ แมกนีเซียมในดินที่มีน้อยกว่าคำที่เหมาะสม อย่าไรก็ตามดินทั้งสองแปลงมีความแตกต่างกันในค่า อินทรียวัตถุและฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์โดยดินในอำเภอมะขามมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่า เนื่องจากมีปริมาณอินทรียวัตถุและฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์มากกว่าดินในแปลงอำเภอท่าใหม่ ผลการทดลองที่ 1 พบว่า ปุ้ยนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมอัตราต่างๆทั้งที่เป็น ครึ่งเท่า สองเท่า หรือแม้แต่ 4เท่าของอัตราที่แนะนำโดยศูนย์ฯ ลำไย หรือแม้แต่การใส่ปุ๋ยโดย เกษตรกรไม่ทำให้การเจริญเติบโตของลำไยทุกด้าน ตลอดจนการออกดอก และขนาดและน้ำหนัก ของผลผสิตแตกต่างกันและไม่แตกต่งจากตำรับควบคุม ในแปลงเกษตรกรที่มีความอุดมสมบูรณ์ มากกว่ ในขณะที่แปลงเกษตรกรที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำกว่านั้น การตอบสนองของตันลำไยมี ความผันแปรไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด โดยพบว่า ตำรับที่ได้รับไนโตรเจนอัตรา 4 เท่าของ ศูนย์ลำไยทำให้ความยาวใบมากกว่าการไม่ใช้ปุ๋ย, การใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ, การใส่ในโตรเจน 2 เท่า, การส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสอัตราครึ่งเท่า, 2 เท่า, และ 4 เท่า, การใสโพแทสเซียมครึ่งเท่า และ 4 เท่า และ อัตราที่เกษตรกรใส่ ในขณะที่ความกว้างใบ, ปริมาณธาตุ N, P, K ในใบ, ชนิดช่อดอก, รัอยละการ ออกตอก, น้ำหนักผลผลิตต่อช่อ, จำนวนผลผลิตต่อช่อ และน้ำหนักผลผลิตรวมต่อตันไม่แตกต่างกัน ระหว่างตำรับทดลอง อย่างไรก็ตาม พบว่า ตำรับที่ได้รับไนโตรเจนเป็น 4 เท่าของอัตราที่แนะนำ ทำ ให้ลำไยมีความกว้างผล, ความยาวเมส็ด, ความกว้างเมล็ด และน้ำหนักต่อผลน้อยกว่าตำรับที่ไม่ได้ใส่ ปุ๋ย และตำรับที่เป็นอัตราแนะนำ นอกจากนี้ยังพบว่ การเพิ่มปุ้ยไนโตรเจนเป็น 2 และ 4 เท่าของ อัตราที่แนะนำทำให้ความกว้างผล, ความยาวผล และน้ำหนักต่อผลลดลง ผลการทคลองที่ 2 พบว่า ระยะเวลาการใส่ปุ๋ยในอัตราที่แนะนำโดยศูนย์ฯ ลำไย ซึ่งแตกต่าง กันคือทุกๆ 5, 10 และ 15 วันรวมทั้งหมด 3 ครั้งนั้นไม่ทำให้การเจริญเติบโตในด้าน ความกว้างใบ ความยาวโบ น้ำหนักใบสด ปริมาณ P และ K ในโบ และร้อยละการออกตอกแตกต่างกัน ซึ่งผลการ ทตลองเป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้ง 2 แปลงทตลอง เช่นเดียวกับในด้านผลผลิตที่พบว่า น้ำหนักผล น้ำหนักเมล็ด ความกว้างเมล็ด น้ำหนักผลผสิตต่อช่อ จำนวนผลต่อช่อ แตกต่างกัน ไม่แตกต่างกัน ระหว่างตำรับทดลอง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ปริมาณนโตรเจนในใบของตำรับที่มีระยะห่างการใส่ปุ๋ย 10 และ 15 วัน หลังจากแตกใบอ่อนครั้งที่ 2 รวมทั้งหมด 3 ครั้งนั้น ทำให้ใบสำไยมีปริมาณ ไนโตรเจนในใบมากกว่าตำรับที่มีระยะห่างการใส่ปุ๋ย 5 วัน ทั้งสองแปลงทดลอง แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปริมาณไนโตรเจนสะสมในใบมากกว่า แต่ในด้านผลผลิตกลับพบว่า ตำรับที่ได้รับปุ๋ยช้า (ด้รับปุ๋ยในวันที่ 0, 15 และ 30 หลังจากแตกใบอ่อนครั้งที่ 2) ทำให้ลำยมีความกว้าง และความ ยาวผลน้อยกว่าตำรับที่ได้รับปุ๋ยไปก่อนหน้านั้น (ได้รับปุยในวันที่ 0, 5 และ 10 หรือ 0, 15 และ 30 หลังจากแตกใบอ่อนครั้งที่ 2) โดยพบผลการทดลองในลักษณะนี้จากแปลงที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ กว่า ซึ่งน่าจะมาจากการตอบสนองของตันลำไยที่ชัดเจนมากกว่าในแปลงที่ขาดธาตุอาหารรุนแรงกว่า นั่นเอง
บทคัดย่อ (EN): Longan is an economic crop and has been widely grown in many parts of Thailand. Off-season longan producing needs an extremely attention which consumes huge money for well management. However, excessive application of fertilizer happens in some cases. The first aim of this study was to examine the rates of N, P, K on flowering and yields of longan grown on orchards in Amphoe Makham and Amphoe Tha Mai, Chanthaburi which had different soil chemical properties. The experiment consisted of 12 treatments, namely, (1) control, (2) recommended rate by Longan Research and Development Center (LRDC), (3) ? times of N rate recommended by LRDC (? xN), (4) 2 times of N rate recommended by LRDC (2xN), (5) 4 times of N rate recommended by LRDC (4xN), (6) ? times of P rate recommended by LRDC (?xP), (7) 2 times of P rate recommended by LRDC (2xP), (8) 4 times of P rate recommended by LRDC (4xP), (9) ? times of K rate recommended by LRDC (?xK), (10) 2 times of K rate recommended by LRDC (2xK), (11) 4 times of K rate recommended by LRDC (4xK), and (12) farmer’s rate. The second aim was to examine fertilizer supply timing on longan flowering and yields on orchards in Amphoe Makham and Amphoe Tha Mai, Chanthaburi which consisted of 3 treatments namely, (1) apply on 0, 5 and 10 days after 2nd flushing (DASF), (2) apply on 0, 10 and 20 DASF, and (3) apply on 0, 15 and 30 DASF. Data collection were done before stimulating longan flowering on soil chemical properties, leaf weight, leaf width, leaf length, % of N, P, K in leaf. After stimulating longan flowering, type of panicles, percentage of flowering, peel weight, seed weight, fruit width, seed width, weight per fruit, weight per bunch, amount of fruit per bunch and total weight per tree of longan were collected. The soil chemical properties showed that the 2 orchards were acidic soils which had low K, Ca and Mg availabilities. However, the soil properties in orchard in Amphoe Makham showed a higher soil organic matter and phosphorus availability than the soil properties in the orchard in Amphoe Thamai. The results of the experiment 1 showed that the N, P, K rated to ? times, 2 times and 4 times of LRDC recommended rates and farmer’s rate gave no significant effect on vegetative growth, flowering percentage and yields of longan under the orchard which had a higher %OM and P availability whereas the orchard which had lower %OM and P availability showed different results. It was found that increasing N rate up to 4 times of LRDC recommended rates gave a longer leave length than the control, the rates recommended by LRDC, 2xN-, ?xP-, 2xP-, 4xP-, ?xK-, 4xK of LRDC recommended rates and farmers’ rate did. Whereas some parameters namely leaf width, % of N, P, K in leaf, panicle types, flowering percentage, weight per bunch, amount of fruit per bunch and total weight per tree of longan were not affected by fertilizer rates in the orchard which had a lower %OM and P availability. It should be noted that application of 4xN of LRDC recommended rate decreased fruit width, seed length, seed width and weight per fruit over the control and LRDC recommended rates did. Moreover, it was found that increasing N rate from 2xN to 4xN reduced fruit width, fruit length and weight per fruit. The results of the experiment 2 showed that fertilizer supply timing (periodically apply on 5, 10 and 15 days interval) had no effect on leave width, leaf length, leaf weight, %P and %K on leaf, percentage of flowering, weight per fruit, seed weight, seed width, weight per bunch, amount of fruit per bunch on the two orchards. Whereas it showed that % N in leaf under the treatments periodically received fertilizer 10 or 15 days interval were higher than treatments periodically received fertilizer 5 days interval did, both orchards. However, the treatments periodically received fertilizer 10 or 15 days interval showed lower fruit width and fruit length than treatments periodically received fertilizer 5 days on the orchard which had a lower %OM and P availability. This might be due to obviously respond occurred in the orchard which had a severely deficient of nutrient.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
คำสำคัญ: จังหวัดจันทบุรี
คำสำคัญ (EN): Chantaburi Province
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนต่อการออกดอกและผลผลิตของลำไย ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
30 กันยายน 2557
การศึกษาวิธีการควบคุมการออกดอกของลำไย ผลของปุ๋ยไนโตรเจนต่อผลผลิตและระดับโปรตีนของหญ้าขนในจังหวัดจันทบุรี ผลกระทบของการให้น้ำต่อการออกดอกและติดผลของลำไย ผลของอัตราปุ๋ยไนโตรเจนต่อการเจริญเติบโต ผลผลิต และสารเคอร์คูมินอยด์ของขมิ้นชัน อิทธิพลของอัตราปุ๋ยไนโตรเจนและฟอสฟอรัสที่มีต่อผลผลิตเมล็ดหญ้ารูซี่ ผลของวิธีการจัดการและชนิดของปุ๋ยไนโตรเจนต่อการให้ผลผลิตคุณภาพผลผลิตและประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากปุ๋ยไนโตรเจนของสับปะรดในชุดดินท่ายาง การศึกษาวิธีการแก้ไขปัญหาการออกดอกเว้นปีของลำไย ผลของการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนต่อผลผลิตและความเข้มข้นธาตุสังกะสีในเมล็ดข้าวพันธุ์พื้นเมือง อิทธิพลของปุ๋ยไนโตรเจนต่อการให้ผลผลิต คุณภาพ และประสิทธิภาพการใช้ไนโตรเจนของหญ้าอาหารสัตว์เขตร้อนบางชนิด ผลของการตัดแต่งกิ่งและสารโพแทสเซียมคลอเรตต่อการออกดอกและปริมาณผลผลิตของลำไยพันธุ์ดอ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก