สืบค้นงานวิจัย
การวางแผนการผลิตทางการเกษตร : กรณีศึกษาพื้นที่ส่งเสริมการปลูกทุเรียน จังหวัดจันทบุรี
Wanlop Prechamart - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การวางแผนการผลิตทางการเกษตร : กรณีศึกษาพื้นที่ส่งเสริมการปลูกทุเรียน จังหวัดจันทบุรี
ชื่อเรื่อง (EN): Agricultural production planning : case study durian extension area, Chanthaburi province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Wanlop Prechamart
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ทำสวนทุเรียนในจังหวัด จันทบุรี 2) จำแนกความเหมาะสมของพื้นที่เพื่อการทำสวนทุเรียนและ 3) วิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนจาก การลงทุนทำสวนทุเรียนในระบบสวนเดี่ยวและสวนผสม ผลการศึกษาด้านความเหมาะสมของพื้นที่เพื่อการทำสวนทุเรียน พบว่า พื้นที่เหมาะสมมากที่สุดมีพื้นที่ เท่ากับ 25,580 ไร่ พื้นที่เหมาะสมปานกลางมีพื้นที่เท่ากับ 385,953 ไร่ พื้นที่เหมาะสมน้อยและไม่เหมาะสมมีพื้นที่ เท่ากับ 150,242 และ 3,399,476 ไร่ ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าพื้นที่จังหวัดจันทบุรี สามารถส่งเสริมให้มีการทำ สวนทุเรียนได้เพียง 411,533 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 10.39 ของพื้นที่จังหวัดทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่ปลูก ทุเรียนในปี 2545 ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะสม โดยมีพื้นที่รวมเท่ากับ 214,322 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 82.33 ของพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งหมด ในขณะที่พื้นที่ปลูกที่อยู่ในพื้นที่เหมาะสมมีเพียง 46,015 ไร่หรือคิดเป็นร้อยละ 17.67 ของ พื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ปลูกทุเรียนส่วนใหญ่ของจังหวัดจันทบุรีอยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะสม จากการวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนการลงทุนทำสวนทุเรียนในระบบสวนเดี่ยวและสวนผสม โดย พิจารณาจากมูลค่าปัจจุบันสุทธิ อัตราผลตอบแทนภายในจากการลงทุนและอัตราส่วนระหว่างต้นทุนและ ผลตอบแทนพบว่า การลงทุนทำสวนทุเรียนทั้งสองระบบมีความเป็นไปได้ในการลงทุน ยกเว้นการทำสวนเดี่ยว ในพื้นที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากมูลค่าปัจจุบันสุทธิจากการลงทุนมีค่าเป็นลบ และเมื่อทำการเปรียบเทียบมูลค่า ปัจจุบันสุทธิ อัตราผลตอบแทนภายในจากการลงทุนและอัตราส่วนระหว่างต้นทุนและผลตอบแทน โดยคิดอัตราลด ร้อยละ 10 พบว่า การลงทุนทำสวนทุเรียนในระบบสวนผสมจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในระบบสวนเดี่ยว ผลการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ควรส่งเสริมให้เกษตรกรลงทุนทำสวนทุเรียนในระบบสวนผสม (ทุเรียน-มังคุด) เนื่องจากจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าการทำสวนทุเรียนในระบบสวนเดี่ยว นอกจากนี้การส่งเสริม การลดการใช้สารเคมีและการผลิตทุเรียนอย่างถูกต้องและเหมาะสม (GAP) จะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่ม คุณภาพสินค้าเพื่อแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้
บทคัดย่อ (EN): income. Many countries have established a standard of agricultural products which directly affects Thai agricultural products. The decrease of chemical use in agriculture under Good Agricultural Practice (GAP) will help farmers to decrease their production costs and increase the quality of products, and thus to be able to compete in the international market.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2483&obj_id=1702
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Benefit Analysis
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ทำสวนทุเรียนในจังหวัด จันทบุรี 2) จำแนกความเหมาะสมของพื้นที่เพื่อการทำสวนทุเรียนและ 3) วิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนจาก การลงทุนทำสวนทุเรียนในระบบสวนเดี่ยวและสวนผสม ผลการศึกษาด้านความเหมาะสมของพื้นที่เพื่อการทำสวนทุเรียน พบว่า พื้นที่เหมาะสมมากที่สุดมีพื้นที่ เท่ากับ 25,580 ไร่ พื้นที่เหมาะสมปานกลางมีพื้นที่เท่ากับ 385,953 ไร่ พื้นที่เหมาะสมน้อยและไม่เหมาะสมมีพื้นที่ เท่ากับ 150,242 และ 3,399,476 ไร่ ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าพื้นที่จังหวัดจันทบุรี สามารถส่งเสริมให้มีการทำ สวนทุเรียนได้เพียง 411,533 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 10.39 ของพื้นที่จังหวัดทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่ปลูก ทุเรียนในปี 2545 ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะสม โดยมีพื้นที่รวมเท่ากับ 214,322 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 82.33 ของพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งหมด ในขณะที่พื้นที่ปลูกที่อยู่ในพื้นที่เหมาะสมมีเพียง 46,015 ไร่หรือคิดเป็นร้อยละ 17.67 ของ พื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ปลูกทุเรียนส่วนใหญ่ของจังหวัดจันทบุรีอยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะสม จากการวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนการลงทุนทำสวนทุเรียนในระบบสวนเดี่ยวและสวนผสม โดย พิจารณาจากมูลค่าปัจจุบันสุทธิ อัตราผลตอบแทนภายในจากการลงทุนและอัตราส่วนระหว่างต้นทุนและ ผลตอบแทนพบว่า การลงทุนทำสวนทุเรียนทั้งสองระบบมีความเป็นไปได้ในการลงทุน ยกเว้นการทำสวนเดี่ยว ในพื้นที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากมูลค่าปัจจุบันสุทธิจากการลงทุนมีค่าเป็นลบ และเมื่อทำการเปรียบเทียบมูลค่า ปัจจุบันสุทธิ อัตราผลตอบแทนภายในจากการลงทุนและอัตราส่วนระหว่างต้นทุนและผลตอบแทน โดยคิดอัตราลด ร้อยละ 10 พบว่า การลงทุนทำสวนทุเรียนในระบบสวนผสมจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในระบบสวนเดี่ยว ผลการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ควรส่งเสริมให้เกษตรกรลงทุนทำสวนทุเรียนในระบบสวนผสม (ทุเรียน-มังคุด) เนื่องจากจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าการทำสวนทุเรียนในระบบสวนเดี่ยว นอกจากนี้การส่งเสริม การลดการใช้สารเคมีและการผลิตทุเรียนอย่างถูกต้องและเหมาะสม (GAP) จะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่ม คุณภาพสินค้าเพื่อแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวางแผนการผลิตทางการเกษตร : กรณีศึกษาพื้นที่ส่งเสริมการปลูกทุเรียน จังหวัดจันทบุรี
Wanlop Prechamart
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรทุเรียนมีราคาตกต่ำตามฤดูกาลผลิต จังหวัดจันทบุรี การวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมและวัฒนธรรมการเกษตร : กรณีศึกษา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม การจัดทำชิ้นส่วนมาตรฐานเพื่อวางแผนการใช้ทรัพยากรในการผลิต กรณีศึกษาโรงงานเกษตรบ้านกร่าง จ.พิษณุโลก การจัดการการผลิตทุเรียนของเกษตรกรในจังหวัดจันทบุรี การวางแผนการผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิตของโรงงานผลิตอาหารเสริม การวางแผนการใช้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรอย่างเหมาะสม เพื่อใช้รายได้สุทธิสูงสุดของเกษตรกรตำบลช่อแล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ปีการผลิต 2539/2540 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการและวางแผนการผลิต กรณีศึกษา ธุรกิจข้าวโพดฝักอ่อน การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิตของการเกษตรบนพื้นที่สูง : กรณีศึกษา ลุ่มน้ำย่อยแม่ปาน อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ความรู้และการปฏิบัติของเกษตรเกี่ยวกับการใช้สารธรรมชาติทางการเกษตรในการผลิตผัก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พื้นที่และการผลิตกีวีฟรุต
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก