สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดข้าวเหนียว/ข้าวโพดเทียน
กิตติภพ วายุภาพ - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดข้าวเหนียว/ข้าวโพดเทียน
ชื่อเรื่อง (EN): Enhancing Productivity of Waxy Corn
บทคัดย่อ: การวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดข้าวเหนียว/ข้าวโพดเทียน ดำเนินการระหว่าง ปี 2554-2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. พัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียว/ข้าวโพดเทียน ให้มีผลผลิตสูง และมีคุณภาพการบริโภคดี 2. เพื่อสำรวจรวบรวม และอนุรักษ์เชื้อพันธุ์ จำแนกและประเมินลักษณะคุณค่าเชื้อพันธุ์ และจัดทำฐานข้อมูลข้าวโพดข้าวเหนียว 3. เพื่อพัฒนาชุดเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดข้าวเหนียวให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และ 4. เพื่อทดสอบชุดเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดข้าวเหนียวที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ จากผลงานวิจัยการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียว/ข้าวโพดเทียน สามารถพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมพันธุ์ชัยนาท 84-1 ได้รับการพิจารณาจากกรมวิชาการเกษตรให้เป็นพันธุ์รับรอง เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2554 มีลักษณะเด่นให้ผลผลิตสูง โดยให้ผลผลิตฝักสดทั้งเปลือก 1,731 กิโลกรัมต่อไร่ มีคุณภาพการบริโภคเหนียวนุ่ม และสามารถปรับตัวได้ดีกับสภาพแวดล้อม อายุเก็บเกี่ยว 60-62 วัน ขนาดฝัก (กว้าง x ยาว) 4.5x17.9 เซนติเมตร จำนวนแถว 12-14 แถว เมล็ดสีขาว มีอัตราประชากรที่เหมาะสมระหว่าง 8,533-10,667 ต้นต่อไร่ และอัตราปุ๋ยไนโตรเจนที่เหมาะสม 30 กิโลกรัมไนโตรเจนต่อไร่ การรวบรวม และอนุรักษ์เชื้อพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียว ได้ทำการบันทึกลักษณะประจำพันธุ์ของเชื้อพันธุกรรมข้าวโพดข้าวเหนียว และจัดทำเป็นฐานข้อมูล ได้จำนวน 45 พันธุ์ การพัฒนาชุดเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดข้าวเหนียวให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ในพื้นที่ดินเหนียว-ร่วนเหนียว ชุดดินดำเนินสะดวก และราชบุรี ได้ชุดเทคโนโลยีการใส่ปุ๋ย อัตรา 20-2.5-5 กิโลกรัม N-P2O5-K2O/ไร่ ในพื้นที่ดินร่วน-ร่วนปนทราย ในชุดดินกำแพงแสน ได้ชุดเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินในอัตรา อัตรา 20-7.5-8 กิโลกรัม N-P2O5-K2O/ไร่ และในชุดดินท่าม่วง การใช้ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินในอัตรา 20-8-5 กิโลกรัม N-P2O5-K2O/ไร่ สามารถให้ผลผลิตข้าวโพดข้าวเหนียวได้ดี และให้ผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์สูง สำหรับการใช้ปุ๋ยอย่างผสมผสานในพื้นที่ดินเหนียว-ร่วนเหนียว ชุดดินดำเนินสะดวก และราชบุรี ได้ชุดเทคโนโลยีการใส่ปุ๋ยเคมี 20-10-10 กิโลกรัม N-P2O5-K2O/ไร่ รวมกับกากตะกอนอ้อย ในพื้นที่ดินร่วน-ร่วนปนทราย ชุดดินกำแพงแสน และท่าม่วง การใส่ปุ๋ยในอัตรา 30-5-5 กิโลกรัมต่อไร่ N-P2O5-K2O ต่อไร่ และ อัตรา 20-5-5 กิโลกรัมต่อไร่ N-P2O5-K2O ต่อไร่ ร่วมกับกากตะกอนอ้อย มีอัตราการให้ผลผลิตข้าวโพดข้าวเหนียวสูงสุด การทดสอบชุดเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดข้าวเหนียวที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ใน 10 จังหวัด ได้ชุดเทคโนโลยีด้านการใช้พันธุ์ของกรมวิชาการเกษตร ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมพันธุ์ชัยนาท 84-1 ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดพังงา และพันธุ์การค้า สวีทไวท์ 25 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชุดเทคโนโลยีที่เหมาะสมในจังหวัดสุรินทร์ คือ การใช้ระยะปลูก 80 x 25 ซม. จำนวน 1 ต้นต่อหลุม จังหวัดมหาสารคาม คือ การใช้พันธุ์ชัยนาท 84-1 และใช้ธาตุอาหาร 17-7- 22 กก. N-P2O5- K2O /ไร่ จังหวัดศรีสะเกษ คือ ใช้พันธุ์ชัยนาท 84-1 และใช้ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินของกรมวิชาการเกษตร จังหวัดร้อยเอ็ด คือ การใช้ระยะปลูก 110x35 เซนติเมตร จำนวน 2 ต้นต่อหลุม และใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินในพันธุ์พื้นบ้าน (พันธุ์ซ่อยร่อย) จังหวัดนครราชสีมา คือ การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยการใช้ปุ๋ยสูตร 16-8-8 หรือ 15-15-15 ร่วมใช้ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) จังหวัดบุรีรัมภ์ และจังหวัดอำนาจเจริญ คือ การใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน ชุดเทคโนโลยีที่ใช้ในแต่ละพื้นที่สามารถเพิ่มผลิตเฉลี่ย สามารถให้ผลตอบแทน และค่าตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ (BCR) สูงกว่าวิธีทดสอบของเกษตรกร จากผลของงานวิจัย การใช้พันธุ์รับรองของกรมวิชาการเกษตร การใช้พันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวที่เหมาะสมกับพื้นที่ ร่วมกับการใช้ชุดเทคโนโลยีที่เหมาะสมเฉพาะพื้นที่ สามารถลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตข้าวโพดข้าวเหนียวสำหรับเกษตรกร ให้มีปริมาณ และคุณภาพเหมาะสมสำหรับผู้บริโภค
บทคัดย่อ (EN): The research and development to enhance the production of waxy corn had conducted during the year 2554-2558 aims to: 1. Development and breeding high yield and eating quality waxy corn variety. 2. To survey the collection, conservation, evaluation and database database recording waxy corn germplasm. 3. To develop a package technology of waxy corn production technology to suit in each area production. The project developed the promising waxy corn hybrid, CNW80 which was considered by Department of Agriculture for registered variety named Chai Nat84-1 in March 25, 2011. The new variety produce yield, ear weight with husk, for 1,731 kg.rai-1 (approx. 11 t.ha-1) with sticky taste and well adapted to various environment. It can harvest at about 60-62 days after planted. It produce white kernel on ear with 12-14 kernel rows. Husked ear is 4.5 centimeter in length and 17.9 centimeter in diameter. The optimum population for production in field is 8,533-10,667 plants.rai-1 (approx. 53,330 plants.ha-1) and apply N fertilizer for 30 kg.rai-1 (approx. 187 kg.ha-1). In addition, the program had collected and conserved 45 waxy corn germplasms by characterizing and recording the database that germplasms. The development of suitable technology for waxy corn production in clay-clay loam soil type, Damnoen Saduak and Rachaburi soil series could apply fertilizer for 20-2.5-5 kg for N-P2O5-K2O per rai. In loam-sandy loam soil type for waxy corn production, the application of fertilizer on Kamphaeng Saen soil series according to the soil analysis data for 20-7.5-8 kg for N-P2O5-K2O per rai. In Tha Muang soil series applied fertilizer for 20-8-5 kg for N-P2O5-K2O per rai gave waxy corn high yield and gave high economic return. In addition, Study on fertilizer integrated for waxy corn production in clay-clay loam soil type, Damnoen Saduak and Ratchaburi soil series found that the application of fertilizer for 20-10-10 kg for N-P2O5-K2O per rai combined with sludge sugarcane. In the area of loam- sandy loam soil types, Kamphaeng Saen and Tha Muang soil series found that the fertilizer application rate for 30-5-5 kg N-P2O5-K2O per rai and the rate of 20-5-5 kg N-P2O5-K2O per rai with sludge sugarcane gave highest yield of waxy corn. Testing waxy corn production technology in each environment had conducted in 10 provinces. The result showed that using waxy corn variety developed by the Department of agriculture, Chai Nat 84-1 in Pathum Thani and Phangnga provinces. The commercial waxy corn variety, Sweet White 25 was good for production in Ayutthaya province. The plant spacing between row and plant, 80 x 25 centimeter and 1 plant per hill was good for waxy corn production in Surin province. In Maha Sarakham province, the good practice for waxy corn production was using Chai Nat 84-1 variety and fertilizer application for 17-7-22 kg of N-P2O5-K2O per rai. The good practice for waxy corn production in Si Sa Ket province was using Chai Nat 84-1 variety and fertilizer application base on soil analysis. In Roi Et province, farmers used plant spacing for 110x35 centimeter and 2 plants per hill for local waxy corn variety, Soi Roei production. They applied fertilizer base on soil analysis. The fertilizer application of 16-8-8 or 15-15-15 with 46-0-0 base on soil analysis was good practice for waxy corn production in Nakhon Ratchasima province. In Buri Ram and Amnat Charoen province, the good practice for waxy corn production was using fertilizer application base on soil analysis. In conculdtion the fertilizer application base on soil analysis for waxy corn production could increase average yield and gave higher income and benefit cost ratio than farmer’s practice. The results of the research, using certified seed of the Department of Agriculture and using waxy corn varieties that suite the area production combined with appropriate package technology can reduce production costs and increase productivity quality for consumers.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: ผลผลิต
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดข้าวเหนียว/ข้าวโพดเทียน
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2558
การศึกษาพัฒนาการใช้อาหารข้นอัดก้อนผสมสมุนไพรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในสัตว์เคี้ยวเอื้อง การผลิตข้าวโพดข้าวเหนียวของเกษตรกร ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น โครงการพัฒนาฐานข้อมูลข้าวเหนียวเพื่อความมั่นคงทางอาหาร การวิจัยแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตข้าวของชุมชน ตำบลเบิกไพร จังหวัดราชบุรี การวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ตรวจวัดอัตราการขัดสีข้าว การตอบสนองของข้าวโพดข้าวเหนียวพันธุ์ดีเด่น CNW 4901 ต่ออัตราปุ๋ยไนโตรเจนบนดินเหนียวชุดราชบุรีในเขตชลประทานภาคกลาง การพัฒนาเชื้อราไตรโคเดอร์มาปฏิปักษ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดโรคข้าวเป็นชีวภัณฑ์เชิงพาณิชย์ การทดสอบพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวในการปลูกแบบอินทรีย์ การผลิตและการใช้ประโยชน์จากบอระเพ็ด การวิจัยและพัฒนากั้งตั๊กแตนเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก