สืบค้นงานวิจัย
เพื่อการศึกษาสมดุลของน้ำในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
Limchai Prachayasittikul - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: เพื่อการศึกษาสมดุลของน้ำในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
ชื่อเรื่อง (EN): (SWAT Model)‬
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Limchai Prachayasittikul
บทคัดย่อ: การศึกษานี้เป็นการประยุกต์ใช้แบบจำลอง SWAT เพื่อจำลองเหตุการณ์ในการจัดการทรัพยากรน้ำใน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาโดยการวิเคราะห์ใช้หลักการความสมดุลของน้ำ (Water Balance) เพื่อศึกษา ศักยภาพของปริมาณน้ำต้นทุน และความต้องการใช้น้ำในกิจกรรมต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ภาวะความขาดแคลน น้ำหรือความพอเพียงของปริมาณน้ำต้นทุนกับความต้องการใช้น้ำในกิจกรรมต่างๆ การประเมินศักยภาพปริมาณน้ำต้นทุนของแต่ละลุ่มน้ำย่อย ในการศึกษาครั้งนี้โดยใช้ แบบจำลอง SWAT เพื่อหาความสัมพันธ์ของปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำท่าโดยมีเกณฑ์เปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้จาก แบบจำลองโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์ประสิทธิผล (Nash and Sutcliffe), ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (R2) และ ค่าเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างสัมพัทธ์ (Relative Difference in Percentages) ผลการเทียบปรับในสามลุ่มน้ำย่อยที่มีสถานีวัดน้ำ ได้แก่ คลองนาท่อม ท่าเชียด และอู่ตะเภาจะพบว่า ค่าความแตกต่างสัมพัทธ์ มีค่า 17.29%, 2.18%และ-4.51% ตามลำดับ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่ได้นั้นมี ค่า 0.70, 0.56 และ 0.73 ตามลำดับ และค่า Nash-Sutcliffe ที่ได้นั้นมีค่าอยู่ระหว่าง 0.68, 0.50 และ0.65 ตามลำดับ ซึ่งแบบจำลองสามารถจำลองปริมาณน้ำท่าได้ดี เนื่องจากมีสถานีน้ำฝนที่ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำทำ ให้ได้ข้อมูลน้ำฝนที่เป็นตัวแทนที่ดีเพียงพอของพื้นที่ลุ่มน้ำที่พิจารณาในลุ่มน้ำย่อยคลองอู่ตะเภา รองลงมา ได้แก่ ลุ่มน้ำย่อยคลองนาท่อม และคลองท่าเชียด ตามลำดับ ผลการศึกษาสมดุลน้ำ พบว่า ปริมาณน้ำต้นทุนในช่วงเวลาที่พิจารณาระหว่าง ปี พ.ศ. 2518-2547 (ค.ศ. 1975-2004) มีปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยรายปีประมาณ 6,051.16 ล้านลูกบาศก์เมตร มีค่าผันแปรระหว่าง 3,104.88 ถึง 10,524.93 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปัจจุบันปี พ.ศ. 2547 มีการขาดแคลนน้ำเพื่อการชลประทาน ในทุกโครงการชลประทานที่มีการพิจารณา จากความต้องการน้ำประมาณ 1,005.74 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี มี ปริมาณน้ำที่ขาดแคลนประมาณ 281.64 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี หรือร้อยละ 28.00 ของความต้องการน้ำเพื่อการ ชลประทานทั้งหมด และมีปริมาณน้ำที่เหลือเป็นปริมาณน้ำท่าที่ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาเฉลี่ยปีละ 5,345.34 ล้าน ลบ.ม. ส่วนในอนาคตปี พ.ศ. 2557 มีความต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 1,225.86 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี มีปริมาณน้ำที่ขาดแคลนประมาณ 326.02 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี หรือร้อยละ 26.59 ของความต้องการน้ำเพื่อการ ชลประทานทั้งหมด และมีปริมาณน้ำที่เหลือเป็นปริมาณน้ำท่าที่ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาเฉลี่ยปีละ 5,198.01 ล้าน ลบ.ม.
บทคัดย่อ (EN): This study was the application of SWAT model to simulate managing water resources in the Songkhla Lake Basin. It was based on the principles of Water Balance in the study of water supply and water demand for various activities currently and in the future. In this study, the potential surface water supply in each sub-basin was used in the SWAT model to analyze the relationship between rainfall and runoff. Relative differences in percentages, correlation coefficients (R2) and efficiency coefficients (Nash and Sutcliffe) were used to compare the model results and the observed data. The results of calibrating the model in three sub-basins, which were the gauging stations at Khlong Na Thom, Tha Chiad and U-Taphao, showed the relative differences in percentages to be 17.29%, 2.18% and -4.51%, respectively. The correlation coefficients (R2) were 0.70, 0.56 and 0.73, respectively, and the efficiency coefficients (Nash and Sutcliffe) were 0.68, 0.50 and 0.65, respectively. The results indicated that the SWAT model was able to simulate surface runoff quite well using data from the rainfall stations, which were widely scattered over the basin. The results of water balance indicated that yearly average surface water supply during 1975 to 2004 was 6,051.16 mcm and ranged from 3,104.88 to 10,524.93 mcm. In 2004, the water shortage for irrigation projects was 281.64 mcm or 28 % of the water demand for irrigation. The residuals which were the surface runoff that drained into Songkhla Lake averaged 5,345.34 mcm yearly. In 2014, the water shortage for irrigation projects is estimated to 326.02 mcm or 26.59 % of the water demand for irrigation. The residuals should be an average of 5,198.01 mcm yearly The water demand may continue to increase in the future, therefore further studies should consider the approach to manage water demand in order to improve usage efficiency, reduce water loss, water reuse, and encourage water recycling. All of these may contribute to reducing water scarcity in the basin.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3104&obj_id=2705
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Songkhla Lake
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษานี้เป็นการประยุกต์ใช้แบบจำลอง SWAT เพื่อจำลองเหตุการณ์ในการจัดการทรัพยากรน้ำใน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาโดยการวิเคราะห์ใช้หลักการความสมดุลของน้ำ (Water Balance) เพื่อศึกษา ศักยภาพของปริมาณน้ำต้นทุน และความต้องการใช้น้ำในกิจกรรมต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ภาวะความขาดแคลน น้ำหรือความพอเพียงของปริมาณน้ำต้นทุนกับความต้องการใช้น้ำในกิจกรรมต่างๆ การประเมินศักยภาพปริมาณน้ำต้นทุนของแต่ละลุ่มน้ำย่อย ในการศึกษาครั้งนี้โดยใช้ แบบจำลอง SWAT เพื่อหาความสัมพันธ์ของปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำท่าโดยมีเกณฑ์เปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้จาก แบบจำลองโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์ประสิทธิผล (Nash and Sutcliffe), ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (R2) และ ค่าเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างสัมพัทธ์ (Relative Difference in Percentages) ผลการเทียบปรับในสามลุ่มน้ำย่อยที่มีสถานีวัดน้ำ ได้แก่ คลองนาท่อม ท่าเชียด และอู่ตะเภาจะพบว่า ค่าความแตกต่างสัมพัทธ์ มีค่า 17.29%, 2.18%และ-4.51% ตามลำดับ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่ได้นั้นมี ค่า 0.70, 0.56 และ 0.73 ตามลำดับ และค่า Nash-Sutcliffe ที่ได้นั้นมีค่าอยู่ระหว่าง 0.68, 0.50 และ0.65 ตามลำดับ ซึ่งแบบจำลองสามารถจำลองปริมาณน้ำท่าได้ดี เนื่องจากมีสถานีน้ำฝนที่ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำทำ ให้ได้ข้อมูลน้ำฝนที่เป็นตัวแทนที่ดีเพียงพอของพื้นที่ลุ่มน้ำที่พิจารณาในลุ่มน้ำย่อยคลองอู่ตะเภา รองลงมา ได้แก่ ลุ่มน้ำย่อยคลองนาท่อม และคลองท่าเชียด ตามลำดับ ผลการศึกษาสมดุลน้ำ พบว่า ปริมาณน้ำต้นทุนในช่วงเวลาที่พิจารณาระหว่าง ปี พ.ศ. 2518-2547 (ค.ศ. 1975-2004) มีปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยรายปีประมาณ 6,051.16 ล้านลูกบาศก์เมตร มีค่าผันแปรระหว่าง 3,104.88 ถึง 10,524.93 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปัจจุบันปี พ.ศ. 2547 มีการขาดแคลนน้ำเพื่อการชลประทาน ในทุกโครงการชลประทานที่มีการพิจารณา จากความต้องการน้ำประมาณ 1,005.74 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี มี ปริมาณน้ำที่ขาดแคลนประมาณ 281.64 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี หรือร้อยละ 28.00 ของความต้องการน้ำเพื่อการ ชลประทานทั้งหมด และมีปริมาณน้ำที่เหลือเป็นปริมาณน้ำท่าที่ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาเฉลี่ยปีละ 5,345.34 ล้าน ลบ.ม. ส่วนในอนาคตปี พ.ศ. 2557 มีความต้องการน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 1,225.86 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี มีปริมาณน้ำที่ขาดแคลนประมาณ 326.02 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี หรือร้อยละ 26.59 ของความต้องการน้ำเพื่อการ ชลประทานทั้งหมด และมีปริมาณน้ำที่เหลือเป็นปริมาณน้ำท่าที่ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาเฉลี่ยปีละ 5,198.01 ล้าน ลบ.ม.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
เพื่อการศึกษาสมดุลของน้ำในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
Limchai Prachayasittikul
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
การวิเคราะห์การจัดสรรน้ำและการจัดการน้ำในลุ่มน้ำแม่วาง การใช้วิธี dehydrogenase assay ในการทดสอบความเป็นอันตรายของตะกอนดินในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินกับสมดุลน้ำในพื้นที่ชุ่มน้ำ กรณีศึกษาเขตห้ามล การจัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มน้ำมูลตอนบนด้วยกระบวนการวิเคราะห์ตามลำดับชั้น กรณีศึกษา : โครงการส่งน้ำและบำ การกระจายน้ำในลุ่มน้ำแม่กลองจำลองแบบด้วย Planning distribution model (PDM) การประเมินปริมาณน้ำที่เพิ่มเติมให้กับแหล่งน้ำบาดาลของลุ่มน้ำในประเทศไทย การพัฒนาแบบจำลองน้ำหลากผิวดินเชิงอุทกวิทยาเพื่อใช้สำหรับปากแม่น้ำที่ได้รับอิทธิพลจากน้ำขึ้น-น้ำลง ปริมาณโลหะหนักบางชนิดในน้ำบริเวณป่าชายเลนที่รับน้ำทิ้งจากระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี การติดตามและประเมินผลการส่งน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครปฐม การศึกษาการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำยมโดยใช้พื้นที่ทุ่งน้ำท่วมธรรมชาติในบริเวณจังหวัดสุโขทัย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก