สืบค้นงานวิจัย
ผู้นำและประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาในเขตภาคกลางของประเทศไทย
นาถ พันธุมนาวิน - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: ผู้นำและประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาในเขตภาคกลางของประเทศไทย
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นาถ พันธุมนาวิน
บทคัดย่อ: ศึกษาคือกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาจำนวน 80 กลุ่ม ผลการศึกษา พบว่ากลุ่มเกษตรผู้ทำนามีลักษณะสภาพกลุ่มที่เอื้อสูงและเอื้อปานกลาง กลุ่มมีประสิทธิผลผู้นำมีลักษณะมุ่งงานส่วนกลุ่มไม่มีประสิทธิผลผู้นำมีลักษณะมุ่งสัมพันธ์มีกลุ่มที่เหมาะสมกับภาวะผู้นำร้อยละ 63.75 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มที่ไม่เหมาะสมกับภาวะผู้นำร้อยละ 37.75 เปอร์เซ็นต์ จาก 4 ตัวแปรอิสระของทฤษฎีประสิทธิผลของภาวะผู้นำตามสถานการณ์ พบว่ามี 3 ตัวแปรที่ร่วมกันทำนายประสิทธิผลของกลุ่มได้ 68 เปอร์เซ็นต์ คือ โครงสร้างงาน 49 เปอร์เซ็นต์ ลักษณะภาวะผู้นำ 17 เปอร์เซ็นต์ และอำนาจในตำแหน่ง 2 เปอร์เซ็นต์ ผลการศึกษาเปรียบเทียบการทำนายตัวแปรอิสระ 2 กลุ่มคือ ตัวแปรในทฤษฎีประสิทธิผลของภาวะผู้นำตามสถานการณ์ และลักษณะบางประการของกลุ่ม พบว่าตัวแปรในทฤษฎีของฟีดเลอร์ให้ผลทำนายสูงกว่าตัวแปรอีกกลุ่มหนึ่ง โดยมีโครงสร้างของงาน ลักษณะภาวะผู้นำ และอำนาจในตำแหน่งของผู้นำ เป็นตัวเข้าร่วมทำนาย นอกจากนี้พบว่าประสิทธิผลของกลุ่มแปรปรวนไปตามการปฏิสัมพันธ์ของตัวแปรลักษณะกลุ่ม-ผู้นำที่เหมาะสมกับการเปิดรับข่าวสาร (F = 12.15, p .001) ซึ่งทำนายประสิทธิผลกลุ่มได้ 29 เปอร์เซ็นต์ และยังพบว่าประสิทธิผลของกลุ่มแปรปรวนไปตามการปฏิสัมพันธ์ของตัวแปรลักษณะกลุ่ม-ผู้นำที่เหมาะสมกับการเชื่ออำนาจภายในตน (F = 4.53, p .01) และทำนายกลุ่มได้ 28 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้พบว่าระยะเวลาการเป็นผู้นำกลุ่มนานมิได้เป็นปัจจัยทำให้กลุ่มมีประสิทธิผลมากขึ้น แต่กลับมีผลในทางตรงกันข้าม
บทคัดย่อ (EN): BHANTHUMNAVIN, NATH. University of the Philippines at Los Banos. July 1985. Leadership and Organizational Effectiveness in Rice Farmers' Associations:The Case of Central Region, Thailand. Major Advisor: Dr.Jaime B. Valera The main objective of the study was to determine the characteristics of leaders and groups which affect organizational effectiveness, and the interrelationship among these variables. Respondents in the study were the chairmen of 40 highly effective (HE) and 40 less effective (LE) randomly selected rice farmers' associations in four provinces of the Central Region, Thailand. Data were gathered through an interview schedule and were analyzed with the use of the t-test, correlation coefficient, multiple regression; analysis of variance and Cronbach's internal consistency formula for testing reliability. The independent variables were grouped under 1) leaders' socioeconomic background, 2) group characteristics and group situations, and 3) leaders' personality traits. The dependent variable, group effectiveness, was expressed in terms of the group evaluation scores (GES) as measured by DAE. Findings revealed that the HE and LE groups were similar in almost all socioeconomic variables, they significantly differed only in land size and communication exposure. In group characteristics, the HE groups were significantly superior to the LE groups in present group size, frequency of member, committee and total group meetings, Leader-member relation, task structure and leader's position power. In personality traits, the HE group leaders had higher internal control and were more task-oriented, while the LE groups were more inclined toward external control and were more interpersonal-oriented. The following independent variables were found to be significantly related to GES: leader's communication exposure (COMEX), leader-member relation (LMR), task structure (TS), leader's position power (P0P), group size, total group meetings, internal-external control and least preferred co-worker. The variables were found to be negative significantly related to LPC:internal-external control (IC), leader-member relations (LMR), task structure (TS), position power (PoP), total group meetings (TGM), and communication exposure (COMEX). COMEX was significantly related to several other independent variables, namely: leader-member relation, task structure, leader's position power, present group size, frequency of group meetings, least preferred co-worker and internal-external control. Taken together, three variables of leadership (LPC,IE,and COMEX) could predict 56 percent fo variance in GES, while three combined variables of group characteristics (TS, TGM and PoP) could predict 64 percent. Of the total seventeen predictors, four variables (TS, LPC, IE and COMM) in combination could predict 74 percent of group effectiveness. It may be concluded that rice farmers' associations will likely be effective organizations if relations between the leader and members are harmonious, tasks are more planned, group situations are favorable, and they are headed by chairmen who have high communication exposure and believe in self-performance, self-confidence, ability to improve discipline and are more task-oriented.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: เกษตรกรภาคกลาง
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นาถ พันธุมนาวิน. "ผู้นำและประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาในเขตภาคกลางของประเทศไทย". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2540

นาถ พันธุมนาวิน. "ผู้นำและประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาในเขตภาคกลางของประเทศไทย". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2540. Print.



TARR Wordcloud:
ผู้นำและประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาในเขตภาคกลางของประเทศไทย
นาถ พันธุมนาวิน
กรมส่งเสริมการเกษตร
2540
การวิเคราะห์ประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาตาม Contingency Model ในเขตภาคกลาง อนุกรมวิธานของฟิล์มมี่เฟิร์นสกุล Hymenophyllum s.l. (Hymenophyllaceae) ในประเทศไทย ความชุกของแอนติบอดีต่อการติดเชื้อ Neospora caninum ในสุนัขทางภาคกลางของประเทศไทย การใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวของเกษตรกรภาคกลาง ภาวะการใช้เครื่องจักรกลและอุปกรณ์การเกษตรของเกษตรกรผู้ทำนาในตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ปัจจัยที่สนับสนุนและที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ของผู้นำกลุ่มเกษตรกรทำนาในจังหวัดภาคกลางของประเทศไทย ปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการเลือกซื้อปุ๋ยของเกษตรกรภาคกลาง ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเกษตกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ความสนใจของเกษตรกรภาคกลางต่อรายการส่งเสริมการเกษตรทางสถานีวิทยุ ม.ก. บางเขน เกษตรอินทรีย์และมาตรฐานการส่งออกของประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair