สืบค้นงานวิจัย
การทำประมงเบ็ดราวทูน่าของเรือประมงไทยบริเวณมหาสมุทรอินเดียระหว่างปี 2550-2554
นฤพน ดรุมาศ - กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล
ชื่อเรื่อง: การทำประมงเบ็ดราวทูน่าของเรือประมงไทยบริเวณมหาสมุทรอินเดียระหว่างปี 2550-2554
ชื่อเรื่อง (EN): Tuna Longline Fishery by Thai Vessels in the Indian Ocean during 2007-2011
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นฤพน ดรุมาศ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Narupon Darumas
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. กลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีประมง
ชุดเอกสาร: -
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลการทำประมงจากสมุดปูมเรือของเรือประมงเบ็ดราวทูน่าไทยจำนวน 3 ลำ ที่ทำประมงในมหาสมุทรอินเดียระหว่างปี 2550-2554 และการทำประมงทั้งหมด 2,252 ครั้ง โดยมีการทำประมง ใน 4 เขตทำประมงของมหาสมุทรอินเดีย คือ พื้นที่มหาสมุทรอินเดียฝั่งตะวันตก บริเวณนอกชายฝั่งของประเทศ โซมาเลีย (R2) พื้นที่บริเวณรอบเกาะมาดากัสการ์และนอกชายฝั่งของประเทศแอฟริกาใต้ (R3) พื้นที่มหาสมุทร อินเดียตอนล่าง ตั้งแต่ละติจูดที่ 15 ถึง 40 องศาใต้ (R4) และพื้นที่มหาสมุทรอินเดียฝั่งตะวันออก รวมไปถึงพื้นที่ บริเวณอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน (R5) และใน 4 ช่วงเวลาทำประมง (ไตรมาส) คือ มกราคม-มีนาคม เมษายน-มิถุนายน กรกฎาคม-กันยายน และ ตุลาคม-ธันวาคม โดยเขตที่มีการทำประมงมากที่สุด คือ เขต R4 สำหรับช่วงเวลาที่มีการทำประมงมากที่สุด คือ ช่วงไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้ จากการทำประมงทั้งหมดสามารถจับสัตว์น้ำ ได้ 56,045 ตัว น้ำหนัก 1,993,855 กิโลกรัม ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มปลาทูน่า กลุ่มปลากระโทงแทง กลุ่มปลาฉลาม และกลุ่มปลาอื่นๆ โดยแต่ละกลุ่มมีองค์ประกอบในรูปของจำนวนตัวร้อยละ 91.59 7.37 0.61 และ 0.43 ตามลำดับ และมีองค์ประกอบในรูปของน้ำหนักร้อยละ 88.69 10.95 0.31 และ 0.05 ตามลำดับ สำหรับผลจับ ของกลุ่มปลาทูน่าในรูปของจำนวน พบว่า มีสัดส่วนของปลาทูน่าครีบยาวมากที่สุด รองลงมา คือ ปลาทูน่าตาโต และปลาทูน่าครีบเหลือง ขณะที่ผลจับของกลุ่มปลาทูน่าในรูปของน้ำหนัก พบว่า มีสัดส่วนของปลาทูน่าตาโต มากที่สุด รองลงมา คือ ปลาทูน่าครีบเหลืองและปลาทูน่าครีบยาว ทั้งนี้ อัตราการจับเฉลี่ยของกลุ่มปลาทูน่ามีค่า เท่ากับ 8.22 ตัวต่อเบ็ด 1,000 ตัว หรือ 282.28 กิโลกรัมต่อเบ็ด 1,000 ตัว การเปรียบเทียบอัตราการจับระหว่าง เขตทำประมง พบว่า ในเขต R3 มีอัตราการจับในรูปของจำนวนมากที่สุด ส่วนในเขต R2 มีอัตราการจับในรูป ของน้ำหนักมากที่สุด และการเปรียบเทียบอัตราการจับระหว่างช่วงเวลาทำประมง พบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 มี อัตราการจับทั้งในรูปของจำนวนและในรูปของน้ำหนักมากที่สุด
บทคัดย่อ (EN): This study used fishing data from logbooks of three Thai tuna longliners which operated in the Indian Ocean during 2007-2011. The total number of fishing operations was 2,252. The fishing operations were performed in four fishing zones in the Indian Ocean, i.e., the Eastern Indian Ocean off the coast of Somalia (R2), around Madagascar Island and off the coast of South Africa (R3), the Central Indian Ocean from 15º S to 40º S (R4) and the Eastern Indian Ocean including the Bay of Bengal and the Andaman Sea (R5) in four periods (quarterly), i.e., January-March, April-June, July-September and October-December. Fishing zones with high fishing efforts were R3 and R4; moreover, fishing period with high fishing efforts was during the 3rd quarter. From all fishing operations, fishes caught were 56,045 individuals or 1,993,855 kilograms, composed of tuna group, billfish group, shark group and other group. The composition of each group in number was 91.59%, 7.37%, 0.61% and 0.43%, respectively, and the composition of each group in weight was 88.69%, 10.95%, 0.31% and 0.05%, respectively. Catch of tunas in number was found that proportion of albacore tuna was the highest followed by bigeye tuna and yellowfin tuna, while catch of tunas in weight was found that proportion of bigeye tuna was the highest followed by yellowfin tuna and albacore tuna. An average catch per unit effort (CPUE) of tuna group was 8.22 individuals/1,000 hooks or 282.28 kilograms/1,000 hooks. Comparison of CPUE of tuna group between fishing zones found that R3 had the highest CPUE in number, and R2 had the highest CPUE in weight. Comparison of CPUE of tuna group between fishing periods found that the 3rd quarter had the highest CPUE both in number and in weight.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://www.fisheries.go.th/marine/research/files/th/122561.pdf
เผยแพร่โดย: กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล
คำสำคัญ: อัตราการจับ
คำสำคัญ (EN): Indian Ocean
หมวดหมู่: ประมง หรือ สัตว์น้ำ
หมวดหมู่ AGRIS: M การประมงและการเพาะเลี้ยงพืชและเลี้ยงสัตว์น้ำ (Aquatic sciences and fisheries)
เจ้าของลิขสิทธิ์: กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล
รายละเอียด: Submitted by จิดาภา ตะเวทีกุล กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล (epinny@gmail.com) on 2020-06-25T09:59:13Z No. of bitstreams: 1 12-61 การทำประมงเบ็ดราวทูน่าของเรือประมงไทยบริเวณมหาสมุทรอินเดีย ระหว่างปี 2550-2554.pdf: 336803 bytes, checksum: 3676211c992cbefae87ef29bc7be9ba8 (MD5)
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นฤพน ดรุมาศ. "การทำประมงเบ็ดราวทูน่าของเรือประมงไทยบริเวณมหาสมุทรอินเดียระหว่างปี 2550-2554Tuna Longline Fishery by Thai Vessels in the Indian Ocean during 2007-2011". กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล. 2555

นฤพน ดรุมาศ. "การทำประมงเบ็ดราวทูน่าของเรือประมงไทยบริเวณมหาสมุทรอินเดียระหว่างปี 2550-2554Tuna Longline Fishery by Thai Vessels in the Indian Ocean during 2007-2011". กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล. 2555. Print.



TARR Wordcloud:
การทำประมงเบ็ดราวทูน่าของเรือประมงไทยบริเวณมหาสมุทรอินเดียระหว่างปี 2550-2554
นฤพน ดรุมาศ
กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล
2555
ปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาข้าราชการกรมประมง องค์ประกอบชนิดและอัตราการติดเบ็ดของสัตว์น้ำจากเครื่องมือเบ็ดราวปลาทูน่าบริเวณ Ninety East Ridge ในมหาสมุทรอินเดีย ผลจับปลาทูน่าจากเรืออวนล้อมจับของไทยบริเวณมหาสมุทรอินเดียระหว่างปี 2548-2550 Ninety East Ridge แหล่งประมงทางเลือกของการประมงไทยในมหาสมุทรอินเดีย ระดับความลึกของเบ็ดที่เหมาะสมในการทำประมงเบ็ดราวปลาผิวน้ำบริเวณ Ninety East Ridge ในมหาสมุทรอินเดีย การประมงเบ็ดราวปลาทูน่าในมหาสมุทรอินเดียโดยเรือประมงต่างชาติ ที่ขึ้นท่าจังหวัดภูเก็ตของประเทศไทย ผลจับปลาทูน่าของเรือประมงอวนล้อมจับของไทยในมหาสมุทรอินเดีย สภาวะการประมงทะเลของเรือประมงที่เทียบท่าในจังหวัดตราด ปี 2559-2561 การสำรวจทรพยากรสัตว์น้ำด้วยเครื่องมือเบ็ดราวปลาทูน่าบริเวณไหล่ทวีปในทะเลอันดามัน ปริมาณโลหะหนักบางชนิดในปลาเศรษฐกิจที่จับด้วยอวนล้อมปลาทูน่าบริเวณมหาสมุทรอินเดียตะวันออก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair