สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาเบื้องต้นเพื่อเปรียบเทียบปริมาณไอโอดีนรังสีและผลการรักษาในผู้ป่วยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษชนิดเกรฟส์
Jirachai Reongsiri - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาเบื้องต้นเพื่อเปรียบเทียบปริมาณไอโอดีนรังสีและผลการรักษาในผู้ป่วยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษชนิดเกรฟส์
ชื่อเรื่อง (EN): Comparison of radioiodine doses and clinical result in Graves' hyperthyroidism : a preliminary study
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Jirachai Reongsiri
บทคัดย่อ: 40g) จากนั้นทำ การสุ่มเข้าสู่กลุ่มย่อยของปริมาณไอโอดีนรังสีต่ำ (low) และสูง (high) ติดตามผลหลังการรักษาที่ 3 เดือน พบว่า ในกลุ่ม non-ablative ผู้ป่วย 28 ราย เข้าสู่ภาวะ euthyroid 12 ราย (42.8%), 1 ราย (3.6%) เป็น hypothyroid และ 15 ราย (53.6%) ยังคงเป็น hyperthyroid รวมผู้ป่วยหายจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ 13 ราย (46.4%) สำหรับกลุ่ม ablative ผู้ป่วยจำนวน 46 ราย เข้าสู่ภาวะ euthyroid 19 ราย (41.3%), 2 ราย (4.4%) เป็น hypothyroid และ 25 ราย (54.3%) ยังคงเป็น hyperthyroid รวมผู้ป่วยหายจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ 21 ราย (45.7%) พบว่า ไม่มีความแตกต่างอย่างเป็นนัยสำคัญ ระหว่างการรักษา แบบ non-ablative และ ablative ในการเปรียบเทียบผลระหว่างปริมาณรังสีต่ำและสูง โดยในกลุ่มรังสีปริมาณต่ำ ผู้ป่วย 38 ราย เข้าสู่ภาวะ euthyroid 13 ราย (34.2%), ไม่พบ hypothyroid และ 25 ราย (65.8%) ยังคงเป็น hyperthyroid สำหรับกลุ่มปริมาณรังสีสูง ผู้ป่วย 36 ราย เข้าสู่ภาวะ euthyroid 18 ราย (50.0%), 3 ราย (8.3%) เป็น hypothyroid และ 15 ราย (41.7%) ยังคงเป็น hyperthyroid พบว่า มีความแตกต่างอย่างเป็นนัยสำคัญ (p=0.044) ระหว่างผลที่ได้รับหลังการรักษา (outcomes) ในขณะที่ผลตอบสนอง การรักษา (หาย/ไม่หาย) ระหว่างปริมาณรังสีต่ำและสูง พบว่า ไม่มีนัยสำคัญ (p=0.065) ที่แสดงข้อได้เปรียบในการใช้รังสี ปริมาณสูงว่าเหนือกว่ารังสีปริมาณต่ำ สรุปได้ว่า ไม่พบภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนในคนไข้ที่รักษาด้วยไอโอดีนรังสีปริมาณรังสีต่ำ พบเพียงไม่กี่รายใน คนไข้ที่รักษาด้วยไอโอดีนรังสีปริมาณสูง อย่างไรก็ตาม การศึกษาและติดตามผลภายใน 3 เดือน ยังไม่สามารถแสดงข้อ ได้เปรียบของการใช้ไอโอดีนรังสีปริมาณสูงในการรักษาไทรอยด์เป็นพิษ เพื่อให้ผู้ป่วยหายจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ โดยเร็ว โดยถือว่าภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นผลประสบความสำเร็จในการรักษา สำหรับผู้ป่วยที่ต่อมไทรอยด์มีขนาด ใหญ่ ควรได้รับการรักษาด้วยไอโอดีนรังสีปริมาณสูง
บทคัดย่อ (EN): Ci/g, 19 patients (41.3%) were euthyroid, 2 patients (4.4%) were hypothyroid and 25 patients (54.3%) remained hyperthyroid (hyperthyroid was eliminated in 45.6% and 54.3% remained uncured). No significant difference was found between non-ablative and ablative doses in 3-month follow up. By comparison between low and high dose regimens, 38 patients who received a low dose, euthyroid was achieved in 13 patients (34.2%), none were hypothyroid and 25 patients (65.8%) remained hyperthyroid. Of the 36 patients who received a high dose, 18 patients (50%) were euthyroid, 3 patients (8.3%) were hypothyroid and 15 patients (41.7%) remained hyperthyroid. A significant difference in the treatment outcomes was found (p=0.044). When responders and non responders to treatment in the low and the high dose groups were compared, no-significant advantage in response rate was gained by using a high dose (p=0.065). In conclusion, when low 131I dose is used, no hypothyroid case was observed while few cases of early hypothyroidism were induced by the high doses. However, we could not demonstrate any advantage to using an adjusted high dose in the 3-month follow up. For more rapid therapeutic effect at the expense of an increased rate of hypothyroidism (as a success outcome), high doses of 131I may be required in patients with larger thyroid glands.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4123&obj_id=3221
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Radiation Dosage
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: 40g) จากนั้นทำ การสุ่มเข้าสู่กลุ่มย่อยของปริมาณไอโอดีนรังสีต่ำ (low) และสูง (high) ติดตามผลหลังการรักษาที่ 3 เดือน พบว่า ในกลุ่ม non-ablative ผู้ป่วย 28 ราย เข้าสู่ภาวะ euthyroid 12 ราย (42.8%), 1 ราย (3.6%) เป็น hypothyroid และ 15 ราย (53.6%) ยังคงเป็น hyperthyroid รวมผู้ป่วยหายจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ 13 ราย (46.4%) สำหรับกลุ่ม ablative ผู้ป่วยจำนวน 46 ราย เข้าสู่ภาวะ euthyroid 19 ราย (41.3%), 2 ราย (4.4%) เป็น hypothyroid และ 25 ราย (54.3%) ยังคงเป็น hyperthyroid รวมผู้ป่วยหายจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ 21 ราย (45.7%) พบว่า ไม่มีความแตกต่างอย่างเป็นนัยสำคัญ ระหว่างการรักษา แบบ non-ablative และ ablative ในการเปรียบเทียบผลระหว่างปริมาณรังสีต่ำและสูง โดยในกลุ่มรังสีปริมาณต่ำ ผู้ป่วย 38 ราย เข้าสู่ภาวะ euthyroid 13 ราย (34.2%), ไม่พบ hypothyroid และ 25 ราย (65.8%) ยังคงเป็น hyperthyroid สำหรับกลุ่มปริมาณรังสีสูง ผู้ป่วย 36 ราย เข้าสู่ภาวะ euthyroid 18 ราย (50.0%), 3 ราย (8.3%) เป็น hypothyroid และ 15 ราย (41.7%) ยังคงเป็น hyperthyroid พบว่า มีความแตกต่างอย่างเป็นนัยสำคัญ (p=0.044) ระหว่างผลที่ได้รับหลังการรักษา (outcomes) ในขณะที่ผลตอบสนอง การรักษา (หาย/ไม่หาย) ระหว่างปริมาณรังสีต่ำและสูง พบว่า ไม่มีนัยสำคัญ (p=0.065) ที่แสดงข้อได้เปรียบในการใช้รังสี ปริมาณสูงว่าเหนือกว่ารังสีปริมาณต่ำ สรุปได้ว่า ไม่พบภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนในคนไข้ที่รักษาด้วยไอโอดีนรังสีปริมาณรังสีต่ำ พบเพียงไม่กี่รายใน คนไข้ที่รักษาด้วยไอโอดีนรังสีปริมาณสูง อย่างไรก็ตาม การศึกษาและติดตามผลภายใน 3 เดือน ยังไม่สามารถแสดงข้อ ได้เปรียบของการใช้ไอโอดีนรังสีปริมาณสูงในการรักษาไทรอยด์เป็นพิษ เพื่อให้ผู้ป่วยหายจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ โดยเร็ว โดยถือว่าภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นผลประสบความสำเร็จในการรักษา สำหรับผู้ป่วยที่ต่อมไทรอยด์มีขนาด ใหญ่ ควรได้รับการรักษาด้วยไอโอดีนรังสีปริมาณสูง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Jirachai Reongsiri. "การศึกษาเบื้องต้นเพื่อเปรียบเทียบปริมาณไอโอดีนรังสีและผลการรักษาในผู้ป่วยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษชนิดเกรฟส์Comparison of radioiodine doses and clinical result in Graves' hyperthyroidism : a preliminary study". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2550

Jirachai Reongsiri. "การศึกษาเบื้องต้นเพื่อเปรียบเทียบปริมาณไอโอดีนรังสีและผลการรักษาในผู้ป่วยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษชนิดเกรฟส์Comparison of radioiodine doses and clinical result in Graves' hyperthyroidism : a preliminary study". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2550. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาเบื้องต้นเพื่อเปรียบเทียบปริมาณไอโอดีนรังสีและผลการรักษาในผู้ป่วยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษชนิดเกรฟส์
Jirachai Reongsiri
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
การเปรียบเทียบอัตราส่วนความเสี่ยง (Risk Ratio) ของผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวารที่รักษาด้วยการใช้สมุนไพรเพชรสังฆาตกับการรักษาแบบปกติ การเปรียบเทียบประโยชน์ทางคลินิกและเศรษฐศาสตร์ก่อนและหลังการแนะนำการให้ยาต้านจุลชีพชนิดฉีดตามด้วยชนิดรับประทาน การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความแปรผันของยีน CTLA-4. TAB2 และโรคเบาหวานชนิดชนิดที่ 1 ในประชากรไทย การเปรียบเทียบดัชนีชี้วัด 4 ชนิดในการประเมินกลุ่มผู้สัมผัสแมงกานีสชนิดเรื้อรัง ผลของน้ำสกัดจากหอยสองฝาชนิดมีพิษ และไม่มีพิษต่อการสร้างเทโทรโดทอกซิน และพิษอัมพาตจากหอยโดยแบคทีเรีย การเปรียบเทียบทางอิมมูโนเคมีและชีวเคมีของเซรุ่มแก้พิษงูชนิด monovalent และ polyvalent และกระบวนการใหม่ในกา การศึกษาชนิดและปริมาณของน้ำตาลและกรดอินทรีย์บางชนิดในสารที่หลั่งจากราก (root exudate) ของข้าว 5 พันธุ์ การพัฒนาระบบโฟลอินเจคชันเพื่อใช้ในการหาปริมาณไอโอดีนในเกลือเสริมไอโอดีน ความหลากหลายทางพันธุกรรมของ cyclin D1 และการแสดงออกทางคลิกนิกของผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมโฟบลาสต์ การศึกษากลไกลการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคเริมชนิดที่ 1 และ 2 ในหลอดทดลอง โดยสมุนไพรบนที่สูงบางชนิด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair