สืบค้นงานวิจัย
การกระตุ้นระบบความต้านทานขององุ่นให้ต่อต้านการเข้าทำลายของโรคที่เกิดจากเชื้อราด้วยสารไบโอแอคทีพอิลิซิเตอร์ระยะที่ 2
ณัฐธิญา เบือนสันเทียะ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ชื่อเรื่อง: การกระตุ้นระบบความต้านทานขององุ่นให้ต่อต้านการเข้าทำลายของโรคที่เกิดจากเชื้อราด้วยสารไบโอแอคทีพอิลิซิเตอร์ระยะที่ 2
ชื่อเรื่อง (EN): Induced resistance of grapevine against fungal disease infection using bioactive elicitors phase2
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ณัฐธิญา เบือนสันเทียะ
บทคัดย่อ: การควบคุมโรคสแคบในองุ่นที่เกิดจากเชื้อรา Sphaceloma ampeinum โตยใช้ความต้านทานหลังถูก กระตุ้นจากสิ่งกระตุ้น กระทำโดยแยกเชื้อ s. ampelinum จากองุ่นพันธุ์ Black queens จากฟาร์ม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี แล้วนำไปทตสอบความสามารถในการก่อโรค พบว่าไอโซเลต GB4 ให้จำนวน แผลมากที่สุด เฉลี่ย 12.5 แผลต่อชิ้นใบ การศึกษาความต้านทานที่เกิดจากการถูกกระตุ้นต่อเชื้อไอโซเลต GBA กระทำโดยฉีดพ่นสิ่งกระตุ้น 2 ชนิดคือ ไโตซานและ Benzo (1,2.3) - thiadiazole-7-carbothionic acid S-methyl ester (BTH) ที่ 3 ระดับความเข้มข้น บนใบกลางของกึ่งชำองุ่นพันธุ์ Black queens อายุ 2 เดือน ในสภาพเรือนทดลอง วางแผนการทตลองแบบ Randomized Complete Block Design (RCBD) โดยการ เก็บผลวิเคราะห์กิจกรรมเอนไซม์ Chitinase, B-1,3-glucanase และ polyphenoloxidase (PPO) การ ทดลองจัดสิ่งทดลองเป็น 4 ชุด โดย 3 ชุดเก็บผลเพื่อนำไปวิเคราะห์ SA และเอนไซม์ สุ่มเก็บตัวอย่างใบมา วิเคราะห์ 3 ช่วงเวลา คือหลังฉีดพ่นสิ่งกระตุ้นทันที หลังฉีดพ่นสิ่งกระตุ้น 7 วันและหลังฉีดพ่นสิ่งกระตุ้น 14 วันซึ่งเป็นครั้งที่โรคแสดงอาการและ 1 ชุด ใช้สำหรับประเมินคะแนนการเกิดโรคหลังฉีดพ่นสิ่งกระตุ้น 14 วัน หลังจากฉีดพ่นกิ่งองุ่นที่ได้รับการกระตุ้นด้วยสิ่งกระตุ้นแล้ว 7 วันโดยใช้สารแขวนลอยสปอร์ของเชื้อ S ampelinum GB4 ผลประเมินการเกิดโรคพบว่า การฉีดพ่นสิ่งกระตุ้นสารละลายไคโตชานเข้มข้น 5,000 มิลลิกรัม/ลิตร เกิตโรคสแคบต่ำที่สุดเฉลี่ย 1.33 คะแนน และเริ่มแสตงอาการของโรคในวันที่ 5 หลังปลูกเชื้อ ในขณะที่การใช้น้ำกลั่นนี่งฆ่าเชื้อเป็นชุดควบคุม เกิดรคสแคบสูงสุดเฉลี่ย 4.89 คะแนน และเริ่มปรากฏอาการ ของโรคในวันที่ 2 หลังการปลูกเชื้อ นอกจากนี้การวิเคราะห์กิจกรรมของเอนไซม์ Chitinase พบว่า BTH เข้มข้น 200 มิลลิกรัม/ลิตร ทำให้องุ่นมีกิจกรรมของเอนไซม์ chitinase เพิ่มสูงสุดคือ 0.765 Unit/mg protein รองลงมาคือ ไคโตซานทุกความเข้มข้นและ BTH ความเข้มข้นที่เหลือ ซึ่งเพิ่มกิจกรรมไต้ไม่แตกต่างกันทางสถิติ แต่แตกต่างจากกิจกรรมในชุดควบคุม การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมเอนไซม์ (-1,3-glucanase มีลักษณะคล้ายกัน กับการเพิ่มกิจกรรมของเอนไซม์ chitinase การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมเอนไซม์ PPO พบว่า BTH 200 มิลลิกรัม/ ลิตร สามารถเพิ่มกิจกรรมได้สูงสุดคือ 11.23 umol Quinone formed min" mg" protein รองลงมาคือ BTH 100 มิลลิรัม/ลิตร ผลการศึกษาแสดงห้เห็นว่า การใช้สารไคโตซาน และสาร BTH สามารถช่วยลตการ เกิดโรคสแคบที่เกิดจากเชื้อรา S. ampelinum ในองุ่นพันธุ์ Black queens ได้
บทคัดย่อ (EN): Control of scab disease in grape caused by Sphaceloma ampelinum by induced resistance was done by isolating S. ampelinum from Black queens grape in the Suranaree University of Technology Farm. After pathogenecity test, the GB4 which gave the highest averaged lesion number of 12.5 lesions per detached leaf was used as a representative isolate for the study. Resistance induction was done by spraying 2 activators, chitosan and Benzo (1,2,3)-thiadiazole-7-carbothionic acid S-methyl ester (BTH) at 3 different concentrations onto the middle leaf of Black queens grape cutting s using the Randomized Complete Block Design (RCBD), sample collection for enzyme activity analysis. The experiment was conducted under a greenhouse condition. The experimental units were divided into 4 sets in which 3 were used for leaf analysis of enzyme activities immediately, 7 and 14 days after spraying. The 4th set was used for disease scoring at 14 days after the induction. After the induced grapes were inoculated with suspension of S. ampelinum conidia, it was found that grape cuttings sprayed with 5,000 mg/l chitosan gave the lowest averaged disease score of 1.33 and the symptoms appeared at 5 days after inoculation compared to the score of 4.89 and 2 days latent period in the control treatment in which the sterile water was applied. Analysis of enzyme activities in induced grape leaves at 7 days found that chitosan and BTH at 3 concentrations could increase enzyme activities significantly while those induced the control treatment. For chitosan activities, 200 mg/l BTH could increase the highest activity of 0.765 Unit/mg protein seconded by all concentrations of chitosan and BTH at other concentrations. For the latter, they were statistically different from that of the control treatmen t but were not different among each other. For ?-1,3-glucanase, the increase was similar to that of the chitinase. For PPO, it was found that 200 mg/l BTH could increase the highest activity of 11.23 ?mol Quinone formed min-1 mg-1 protein seconded by 100 mg/l BTH and Frangipani rust spore. Results of this study indicated that chitosan and BTH could be used to reduce scab severity in Black queens grapes.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dric.nrct.go.th/Search/SearchDetail/292148
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ: อิลิซิเตอร์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การกระตุ้นระบบความต้านทานขององุ่นให้ต่อต้านการเข้าทำลายของโรคที่เกิดจากเชื้อราด้วยสารไบโอแอคทีพอิลิซิเตอร์ระยะที่ 2
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
30 กันยายน 2556
การกระตุ้นระบบความต้านทานขององุ่นให้ต่อต้านการเข้าทำลายของโรคที่เกิดจากเชื้อราด้วยสารไบโอแอคทีพอิลิซิเตอร์ การตรวจสอบการปนเปื้อนของเชื้อราในข้าวแบบรวดเร็วและไม่ทำลายตัวอย่าง โดยใช้ Near infrared spectroscopic-Chemical imaging ราที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมการย่อยสลายแป้งและวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรจากระบบนิเวศวิทยาป่าอุทยานสัตว์ป่าอุบลราชธานี โรคสแคปขององุ่น (Sphaceloma ampelinum de Bary) การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี ประสิทธิภาพของสารกำจัดเชื้อราประเภทดูดซึมบางชนิดต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา Phytophthora parasitica KK8 ซึ่งเป็นสาเหตุโรคโคนเน่าของพลู ผลของสารพิษที่ผลิตโดยเชื้อรา Cercospora canescens จากถั่วเขียว ประสิทธิภาพของการป้องกันกำจัดโรคพืชประเภทดูดซึมบางชนิดต่อเชื้อรา Phytophthora parasitica NK1 สาเหตุโรคโคนเน่าของพลู Physiologic Races ของเชื้อรา Hemileia uastatrix B. & Br การควบคุมโรคผลสตรอเบอรี่เน่าด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อราที่อุณภูมิห้องและที่ 10 องศาเซลเซียส
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก