สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาระบบการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่ (พรีเมี่ยม) เพื่อการเพิ่มมูลค่าและการสร้างศักยภาพการส่งออก
นางสาวสุรัษี ทัพพะสี - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาระบบการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่ (พรีเมี่ยม) เพื่อการเพิ่มมูลค่าและการสร้างศักยภาพการส่งออก
ชื่อเรื่อง (EN): Premium freshwater prawn (Macrobrachium rosenbergii) productivity development for value added and export potential improvement
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นางสาวสุรัษี ทัพพะสี
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดราชบุรี
บทคัดย่อ: การพัฒนาระบบการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่ (พรีเมี่ยม) เพื่อการเพิ่มมูลค่าและเสริมสร้าง ศักยภาพการส่งออก ดำเนินการวิจัยที่ศุวิมิตรฟาร์ม อ.บางแพ จ.ราชบุรี และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยง สัตว์น้ำจืดราชบุรี มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามเพื่อเป็นต้นแบบ BCG Model จังหวัดราชบุรี โดยการพัฒนารูปแบบการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามได้แก่ การเพิ่มการจัดการระหว่างการเลี้ยงด้วยระบบ การย้ายบ่อ และการคัดขนาด โดยแบ่งการเลี้ยงเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 อนุบาลลูกกุ้งคว่ำเป็นระยะเวลา 60 วัน จนได้ขนาด 200-300 ตัว/กิโลกรัม ระยะที่ 2 เลี้ยงอนุบาลลูกกุ้งจากขนาด 200-300 ตัว/กิโลกรัม เป็น ระยะเวลา 30 วัน ให้ได้ขนาด 70-100 ตัว/กิโลกรัม ระยะที่ 3 เลี้ยงกุ้งจากขนาด 70-100 ตัว/กิโลกรัมเป็น ระยะเวลา 90 วัน ให้ได้ขนาด 10-20 ตัว/กิโลกรัม ผลการอนุบาลลูกกุ้งก้ามกราม 2 ระยะ รวม 90 วัน พบว่ากุ้งก้ามกรามที่อนุบาลแบบรวมเพศ, Macro 1 และ MU 1 มีการเจริญเติบโต และอัตรารอดไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) ได้ลูกกุ้งก้ามกรามขนาด 70-80 ตัว/กก. โดยมีอัตรารอด เมื่อนำไปเลี้ยงต่อเป็นระยะเวลา 90 วัน พบว่ากุ้งก้ามกรามรวมเพศ และ MU 1 มีน้ำหนัก สุดท้ายไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) และสูงกว่า Macro 1 อย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) โดยกุ้งก้ามกรามรวม เพศ และ เพศผู้ล้วน MU 1 มีน้ำหนักสุดท้ายเฉลี่ย 56.22±30.37 และ 67.34±21.82 กรัม/ตัว ตามลำดับ ได้ ผลผลิตกุ้งก้ามกรามขนาด 14-17 ตัว/กิโลกรัม ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยผลผลิตที่ได้จากการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม รวมเพศ และ เพศผู้ล้วน MU 1 มีปริมาณไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) เฉลี่ย 200.52±28.81 และ 179.94±31.24 กิโลกรัม/ไร่ ผลการศึกษาการเกิดโรคไวรัส DIV1, YHV, WSSV, MrNV และ XSV ในระหว่างการอนุบาลและการเลี้ยง พบว่า ลูกกุ้งก้ามกรามรวมเพศระยะคว่ำที่เริ่มต้นใช้ในการศึกษามีสถานะปลอดโรค และไม่พบการปนเปื้อนของ เชื้อไวรัสทั้ง 5 ชนิด ตลอดระยะเวลาการศึกษา ส่วนกุ้งก้ามกราม Macro 1 พบการปนเปื้อนของเชื้อไวรัส DIV1 ใน ระดับต่ำในช่วงแรกของการอนุบาลระยะที่ 1 เท่านั้น และหลังจากนั้นไม่พบการปนเปื้อนของเชื้อไวรัส DIV1 อีก จนกระทั่งจับกุ้ง สำหรับลูกกุ้งก้ามกรามสายพันธุ์ MU1 ระยะคว่ำไม่พบการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสทั้ง 5 ชนิดใน ตัวอย่างที่ตรวจ ตลอดจนสิ้นสุดการเลี้ยง ผลการตรวจวิเคราะห์สารตกค้างพบว่าตรวจไม่พบสารตกค้าง Chloramphenicol และ Nitrofuran Metabolites ได้แก่ 3-amino-2-oxazolidinone (AOZ), 3-amino-5-morpholinomethyl-2-oxazolodinone (AMOZ), 1-aminohydantoin (AHD) ในกุ้งก้ามกรามรวมเพศ Macro1 MU1 ระยะกุ้งคว่ำ และหลังการอนุบาล ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 และกุ้งก้ามกรามที่ได้จากการเลี้ยง แต่มีการตรวจพบ semicarbazide (SEM) ในผลผลิต กุ้งก้ามกรามจากการเลี้ยงทุกตัวอย่างโดยวิธีตรวจวิเคราะห์ทั้งตัวกุ้ง อย่างไรก็ตามผลตรวจการวิเคราะห์เฉพาะเนื้อ ไม่พบสารตกค้าง SEM ในทุกตัวอย่าง การอนุบาลลูกกุ้งรวมเพศระยะที่ 1 และ 2 มีต้นทุน 0.34 และ 1.39 บาท/ตัว ตามลำดับ และมีต้นทุนการ เลี้ยงเฉลี่ย 194.12±43.65 บาท/กิโลกรัม ส่วนการอนุบาลลูกกุ้ง Macro1 ระยะที่ 1 และ 2 มีต้นทุน 0.33 และ 1.71 บาท/ตัว ตามลำดับ และมีต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ย 479.93±311.32 บาท/กิโลกรัม สำหรับการอนุบาลลูกกุ้ง MU1 ระยะที่ 1 และ 2 มีต้นทุน 0.42 และ 1.16 บาท/ตัว ตามลำดับ และมีต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ย 164.48±60.45 บาท/กิโลกรัม
บทคัดย่อ (EN): Research and development of Premium freshwater prawn (Macrobrachium rosenbergii) production system to increase value and strengthen export potential. The research was conducted at Suwimit Farm, Bang Phae District, Ratchaburi Province and Ratchaburi Freshwater Aquaculture Research and Development Center. The objective was to develop giant prawn farming technology to serve as a prototype for the BCG Model in Ratchaburi Province. The developing prawn farming model, including increasing management during farming with shrimp pond relocation and grading system by dividing the farming system into 3 phases, namely, Phase 1, nursing prawn larvae for 60 days to size of 200-300/kg; Phase 2 nursing prawn size of 200-300 prawns/kg, for 30 days, to size of 70-100 prawns/kg. Phase 3: culturing prawn size of 70-100 prawns/kg for 90 days to size of 10-20 prawns/kg by experimenting with mixed-sex prawns, Macro 1 (mixed-breeding) and MU 1 (all males). The results of 2 Phases of 90-day prawn nursing showed that mixed-sex prawns, Macro 1 and MU 1 had no statistical difference in growth and survival rates (p>0.05). The larvae grew to a size of 70-80 prawns/kg. After cultured for 90 days, it was found that both mixed-sex prawns and MU 1 had final weights that were not statistically different (p>0 . 0 5 ) , but significantly higher than Macro 1 (p<0.05). Mixed-sex prawns and all males MU 1 had an average final weight of 56.22±30.37 and 67.34±21.82 grams/each, respectively, resulting in a yield of 14-17 giant prawns/kg. The product obtained from mixed-sex and all-male MU 1 culturing were not statistically different in quantity (p>0.05), averaging 200.52±28.81 and 179.94±31.24 kilograms/rai. The results of the analysis of DIV1, YHV, WSSV, MrNV and XSV viruses during nursing and culturing revealed that the prawn larvae initially used in the study were disease-free. There was no contamination of any of the 5 viruses throughout the study period. However, Macro 1 were found to have low levels of DIV1 contamination only during the first stage of nursing. After that, no further DIV1 contamination was found until the prawn were harvested. MU1 larvae were not contaminated by any of the five virus species in the samples examined until the prawn were harvested. The results of the analysis of residues in mixed-sex prawns, Macro1 and MU1 revealed that no residues were detected, including Chloramphenicol and Nitrofuran metabolites, i.e. 3-amino-2- oxazolidinone (AOZ), 3-amino-5-morpholinomethyl-2-oxazolodinone (AMOZ), 1-aminohydantoin (AHD) in larvae, after nursing phases 1, 2 and harvested prawn. But it has been detected semicarbazide (SEM) in prawn production from all cultured samples by total residues assay. However, the tissue bound residues analysis results SEM residues were not detected in all samples. Nursing of mixed-sex prawn, phases 1 and 2, had cost of 0.34 and 1.39 baht/each, respectively, and had average culturing cost of 194.12±43.65 baht/kilogram. Nursing of Macro1 larvae, phases 1 and 2, had cost of 0.33 and 1.71 baht/each, respectively, and had average culturing cost of 479.93±311.32 baht/kg. Nursing of MU1 larvae, phases 1 and 2, had costs of 0.42 and 1.16 baht/each, respectively, and an average culturing cost of 164.48±60.45 baht/kg.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: สารตกค้าง
เจ้าของลิขสิทธิ์: ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดราชบุรี
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นางสาวสุรัษี ทัพพะสี . "การพัฒนาระบบการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่ (พรีเมี่ยม) เพื่อการเพิ่มมูลค่าและการสร้างศักยภาพการส่งออกPremium freshwater prawn (Macrobrachium rosenbergii) productivity development for value added and export potential improvement". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) . 2565

นางสาวสุรัษี ทัพพะสี . "การพัฒนาระบบการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่ (พรีเมี่ยม) เพื่อการเพิ่มมูลค่าและการสร้างศักยภาพการส่งออกPremium freshwater prawn (Macrobrachium rosenbergii) productivity development for value added and export potential improvement". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) . 2565. Print.



TARR Wordcloud:
การพัฒนาระบบการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามขนาดใหญ่ (พรีเมี่ยม) เพื่อการเพิ่มมูลค่าและการสร้างศักยภาพการส่งออก
นางสาวสุรัษี ทัพพะสี
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2565
การพัฒนาเทคนิคการอนุบาลลูกปลานวลจันทร์ทะเล (Chanos chanos Forsskal, 1775) เพื่อการเพิ่มผลผลิต การเพิ่มศักยภาพการผลิตบัวบกคุณภาพเพื่อเป็นพืชสมุนไพรปลอดสารพิษและโลหะหนัก การพัฒนาระบบอาหาร (Food system) ของประเทศไทย : ระบบการผลิตสินค้าเกษตรและการแปรรูปอาหาร การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นต่อยอดการขยายพันธุ์ปะการังอ่อนเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพผลผลิตสำหรับการใช้ประโยชน์ในเชิงการค้าและการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลของประเทศไทย การพัฒนาการเพาะพันธุ์ปลาซิวกระโดงแดงด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์ ในระบบน้ำหมุนเวียนแบบปิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเชิงพาณิชย์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีการเพิ่มคุณภาพผลผลิตและมูลค่าน้ํานมดิบของฟาร์มโคนมในประเทศไทย การเสริมอาหารกุ้งด้วยสารสกัด sulfated galactans จากสาหร่ายผมนางเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและต้านเชื้อแบคทีเรียตายด่วนในกุ้ง โครงการพัฒนาระบบอาหารของประเทศไทย: การวางภาพกรอบระบบอาหารและการวิเคราะห์และพัฒนาระบบอาหารส่วน “การค้า การกระจายและการบริการอาหาร” ต้นแบบถังปฏิกรณ์ชีวภาพผลิตแพลงก์ตอนระดับอุตสาหกรรมแบบต่อเนื่อง เพื่อผลิตอาหารคุณภาพสาหรับบ่ออนุบาลลูกกุ้ง ลูกปลา และผลิตสารสกัดออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยามูลค่าสูง การปรับปรุงพันธุ์ข้าวลูกผสมเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพสำหรับการแปรรูปเชิงอุตสาหกรรม ระยะที่ 2 ปีที่ 2
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair