สืบค้นงานวิจัย
อิทธิพลของอัตราปล่อยต่อการอนุบาลลูกปลาโมง
องอาจ คำประเสริฐ - กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
ชื่อเรื่อง: อิทธิพลของอัตราปล่อยต่อการอนุบาลลูกปลาโมง
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of Stocking Densities on Nursing of Pangasius bocourti (Sauvage, 1880)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: องอาจ คำประเสริฐ
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. สถานีประมงน้ำจืดจังหวัดนครพนม
บทคัดย่อ: การทดลองอนุบาล ลูกปลาโมง ในตู้กระจก แบ่งการทดลองเป็น 3 ช่วง โดยช่วงที่ 1 ปล่อยลูกปลาโมง อายุ 2 วัน น้ําหนักเฉลี่ย 0.0026+0.0003 กรัม ความยาวเฉลี่ย 6.72+0.21 มิลลิเมตร อนุบาลที่ระดับความหนาแน่น 10,20, 30 และ 40 ตัวต่อลิตร เป็นระยะเวลา 14 วัน ช่วงที่ 2 ปล่อยลูกปลาโมงอายุ 15วัน น้ําหนักเฉลี่ย 0.15+0.03 กรัม ความยาวเฉลี่ย 19.48+1.95 มิลลิเมตร อนุบาลที่ความหนาแน่น 5, 10, 15 และ 20 ตัวต่อลิตร เป็นระยะเวลา 21 วัน ช่วงที่3 ปล่อยลูกปลาโมงอายุ 35วัน น้ําหนักเฉลี่ย 0.69+0.17 กรัม ความยาวเฉลี่ย 42.12+4.16 มิลลิเมตร อนุบาลที่ความหนาแน่น 1, 2, 3 และ 4 ตัวต่อลิตร เป็นระยะเวลา 25 วัน ทุกช่วงประกอบด้วย 3 ชุดการทดลอง ชุดการทดลองละ 3 ซ้ํา อนุบาลในตู้กระจกขนาด 45x90x40 เซนติเมตร ปริมาตรน้ํา 100ลิตร ดําเนินการที่สถานีประมงน้ําจืดจังหวัดนครพนม ระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายน 2550 ผลการทดลองช่วงที่ 1 พบว่า ลูกปลาโมงที่ อนุบาลด้วยระดับ ความหนาแน่น 10, 20, 30 และ 40 ตัวต่อลิตร มีน้ําหนักสุดท้ายเฉลี่ย 0.13+0.03, 0.10+0.03, 0.05+0.03 และ 0.03+0.00กรัม และมีความยาวสุดท้ายเฉลี่ย21.38+0.47, 20.41+1.59, 16.66+2.74และ 14.11+0.17 มิลลิเมตร ตามลําดับ ซึ่งทั้งน้้าหนักสุดท้ายเฉลี่ยและความยาวสุดท้ายเฉลี่ยที่ระดับความหนาแน่น 10 และ 20 ตัวต่อลิตรแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยส้าคัญทางสถิติ (p>0.05) แต่แตกต่างกับที่ระดับความหนาแน่น 30 และ 40 ตัวต่อลิตรอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ (p<0.05) อัตรารอด เฉลี่ย50.93+4.95, 69.13+7.23, 85.93+3.88 และ 50.49+3.62 เปอร์เซ็นต์ตามลําดับ ชุดความหนาแน่น 30 ตัวต่อลิตร มีอัตรารอดเฉลี่ย สูงสุดและสูงกว่าทุกชุดการทดลองอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ(p<0.05) ต้นทุนการผลิตเท่ากับ 0.43,0.27, 0.20 และ 0.38 บาทต่อตัวเมื่อพิจารณาจากอัตรารอดและต้นทุนการผลิต พบว่า ระดับความหนาแน่น 30 ตัวต่อลิตร เป็นระดับความหนาแน่นที่เหมาะสมในการอนุบาลลูกปลาโมงอายุ 2-15วัน ผลการทดลองช่วง ที่ 2 พบว่า ลูกปลาโมงที่อนุบาลด้วยระดับความหนาแน่น 5, 10, 15 และ 20 ตัวต่อลิตร มีน้ําหนัก สุดท้ายเฉลี่ย 0.77+0.08, 0.67+0.05, 0.75+0.05 และ 0.69+0.10 กรัม มีความยาว สุดท้ายเฉลี่ย42.24+2.53, 41.00+2.28, 41.28+1.03 และ 40.20+2.84 มิลลิเมตร อัตรารอดเฉลี่ย 67.47+9.56, 41.33+4.28,29.13+4.54 และ 24.23+3.95 เปอร์เซ็นต์ตามลําดับ โดยน้ําหนักสุดท้ายเฉลี่ยและความยาวสุดท้ายเฉลี่ยของทุกชุดความหนาแน่นมีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสําคัญทางสถิติ(p>0.05)อัตรารอดเฉลี่ยของชุดความหนาแน่น 5 ตัวต่อลิตร มีค่าสูงสุดและแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ(p<0.05) กับทุกชุดการทดลอง ต้นทุนการผลิตเท่ากับ 1.09,1.22, 1.49 และ 1.59 บาทต่อตัว ตามลําดับ เมื่อพิจารณาจากอัตรารอดและต้นทุนการผลิต พบว่า ระดับความหนาแน่น 5 ตัวต่อลิตร เป็นระดับความหนาแน่นที่เหมาะสมในการอนุบาลลูกปลาโมงอายุ 15-35วันผลการทดลองช่วงที่ 3 พบว่า ลูกปลาโมงที่อนุบาลด้วยระดับความหนาแน่น 1, 2, 3 และ 4 ตัวต่อลิตรมีน้ําหนักสุดท้ายเฉลี่ย 6.63+1.08, 6.18+1.03, 5.06+0.83 และ 4.04+0.72กรัม มีความยาวสุดท้ายเฉลี่ย 84.19+4.62,79.28+4.84, 75.83+3.82และ 68.76+3.25 มิลลิเมตร และอัตรารอดเฉลี่ย 94.67+4.72, 81.33+3.01, 24.11+5.74 และ22.83+2.27 เปอร์เซ็นต์ ตามลําดับ โดยน้ําหนักสุดท้า ยเฉลี่ยที่ระดับความหนาแน่น 1, 2 และ 3 ตัวต่อลิตรมีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสําคัญทางสถิติ (p>0.05)ความยาวสุดท้ายเฉลี่ยที่ระดับความหนาแน่น 1 ตัวต่อลิตร มีความแตกต่างอย่างไม่มีนัยสําคัญทางสถิติ (p>0.05) กับที่ระดับความหนาแน่น 2 ตัวต่อลิตร แต่แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ(p<0.05) กับที่ระดับความหนาแน่น 3 และ 4 ตัวต่อลิตรอัตรารอดเฉลี่ยของชุดความหนาแน่น 1 ตัวต่อลิตรมีค่าสูงสุดและแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05) กับทุกชุดการทดลอง ต้นทุนการผลิตเท่ากับ 2.59, 2.42,6.55 และ 6.31 บาทต่อตัว ตามลําดับ เมื่อพิจารณาจากอัตรารอดและต้นทุนการผลิต พบว่า ระดับความหนาแน่น 2 ตัวต่อลิตร เป็นระดับความหนาแน่นที่เหมาะสมในการอนุบาลลูกปลาโมงอายุ 35-60วัน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.inlandfisheries.go.th/research/details.php?id=114
เผยแพร่โดย: กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
คำสำคัญ: การอนุบาล
คำสำคัญ (EN): Pangasius bocourti, stocking density, nursing
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมประมง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

องอาจ คำประเสริฐ. "อิทธิพลของอัตราปล่อยต่อการอนุบาลลูกปลาโมงEffect of Stocking Densities on Nursing of Pangasius bocourti (Sauvage, 1880)". กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง. 2551

องอาจ คำประเสริฐ. "อิทธิพลของอัตราปล่อยต่อการอนุบาลลูกปลาโมงEffect of Stocking Densities on Nursing of Pangasius bocourti (Sauvage, 1880)". กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง. 2551. Print.



TARR Wordcloud:
อิทธิพลของอัตราปล่อยต่อการอนุบาลลูกปลาโมง
องอาจ คำประเสริฐ
กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
2551
การอนุบาลปลาสร้อยเกล็ดถี่ในอัตราความหนาแน่นต่างกัน การเลี้ยงปลาโมงในกระชังด้วยอัตราปล่อยต่างกัน ผลของระดับความหนาแน่นต่อการเจริญเติบโต และอัตรารอดในการอนุบาลลูกปลาตะกรับ (Scatophagus argus Linnaeus, 1766) อิทธิพลของอาหารธรรมชาติในบ่อที่มีต่อการเจริญเติบโตและอัตราการรอดของลูกปลาโมงในการอนุบาลด้วยอาหารเสริมและอาหารสำเร็จรูป การอนุบาลลูกปลากดหินวัยอ่อนด้วยอัตราความหนาแน่นต่างระดับ การเลี้ยงปลาชะโดในกระชังด้วยอัตราปล่อยต่างกัน ผลของความเค็มต่อการอนุบาลลูกปลาหนวดพราหมณ์ (ชื่อเดิม ผลของความเค็มต่อการอนุบาลลูกปลาหนวดพราหมณ์ในระบบน้ำหมุนเวียน) การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามแบบพัฒนาโดยใช้อัตราปล่อยต่างๆกัน การอนุบาลลูกกุ้งก้ามกรามในอัตราความหนาแน่น 3 อัตรา อาหารที่เหมาะสมในการอนุบาลลูกปลาจาด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair