สืบค้นงานวิจัย
ความสัมพันธ์ของความเข้มข้นเส้นใยและน้ำหนักของตัวอย่างอากาศที่เก็บด้วย Niosh method 7400 และ Niosh method 0600 ในโรงงานผ
Wipada Sangkaew - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ความสัมพันธ์ของความเข้มข้นเส้นใยและน้ำหนักของตัวอย่างอากาศที่เก็บด้วย Niosh method 7400 และ Niosh method 0600 ในโรงงานผ
ชื่อเรื่อง (EN): The correlation of fiber and mass concentrations sampling by Niosh method 7400 and Niosh method 0600 in a glasswool manufacturing plant
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Wipada Sangkaew
บทคัดย่อ: ไฟเบอร์กลาสเป็นวัสดุทางเลือกเพื่อทดแทนแร่ใยหิน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน และเป็น อันตรายต่อสุขภาพน้อยแต่อย่างไรก็ตาม IARC จัดไฟเบอร์กลาสไว้ในกลุ่ม A3 สารก่อมะเร็งในสัตว์ ดังนั้นการ ประเมินการสัมผัสไฟเบอร์กลาสของคนงานจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยวิธีการที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายคือการเก็บ ตัวอย่างอากาศและนับเส้นใยด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดเฟสคอนทรัส ซึ่งต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงเป็น ข้อจำกัดในการประเมินความเข้มข้นของไฟเบอร์กลาสโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ดังนั้นการศึกษานี้จึงมี วัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์ของหน่วยความเข้มข้นไฟเบอร์กลาสคือ mg/m3 และ f/cm3 โดยการเก็บตัวอย่าง แบบคู่ขนานด้วย NIOSH method 0600 และ NIOSH method 7400 ในโรงงานผลิตไฟเบอร์กลาสและวิเคราะห์ ตัวอย่างโดยการชั่งน้ำหนักหาความเข้มข้นโดยมวล และนับเส้นใยตาม NIOSH method 7400 กฎ B พร้อมทั้งวัด ขนาดเส้นใยที่พบในทุกตัวอย่างด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดเฟสคอนทรัสท์ ผลการศึกษาพบว่าความเข้มข้นของไฟเบอร์กลาสในอากาศมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.0019 f/cm3 และ 0.2007 mg/m3 และไม่พบความสัมพันธ์ของความเข้มข้นไฟเบอร์กลาสในหน่วย mg/m3 และ f/cm3 (r =-0.018) โดยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์คือความแตกต่างของกิจกรรมในกระบวนการผลิตเมื่อจัดกลุ่มกิจกรรม และวิเคราะห์ใหม่ พบความสัมพันธ์ดีขึ้นเล็กน้อย (r = 0.2391) นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นว่าอุปกรณ์การเก็บตัวอย่างมี อิทธิพลต่อขนาดของเส้นใย กล่าวคือเส้นใยจากการเก็บตัวอย่างด้วย NIOSH method 0600 มีขนาดเฉลี่ยเล็กกว่าคือ 2 x 65.5 ไมโครเมตร ขณะที่เส้นใยที่เก็บด้วย NIOSH method 7400 มีขนาดเฉลี่ยเท่ากับ 4 x 124.4 ไมโครเมตร ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าความเข้มข้นในหน่วย mg/m3 และ f/cm3 ซึ่งเก็บตัวอย่างอากาศด้วยวิธี NIOSH method 0600 และ NIOSH method 7400 ไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ จึงเสนอแนะการศึกษาในอนาคต โดยการสืบค้นการเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่าง NIOSH method 0600 รวมทั้งการทบทวนค่ามาตรฐานการสัมผัสไฟ เบอร์กลาสใหม่เพื่อให้สอดคล้องกัน
บทคัดย่อ (EN): Fiberglass has been used as alternative material for asbestos replacement due to its comparable properties and causing less serious health effects. However, the IARC classifies fiberglass as group A3: carcinogenic to animals. The fiberglass exposure assessment of these workers is thus necessary. The air sampling and subsequent analysis were performed by counting fibers using a phase contrast microscope. However, such analysis needs an experienced person, which is a limitation in some countries like Thailand. Therefore, this study has the objective of investigating the relationship of the fiberglass concentration units, i.e., mg/m3 and f/cm3. Air samples were collected by the parallel use of the NIOSH method 0600 and the NIOSH method 7400 in the production process of fiberglass manufacturing. The samples were analyzed by weight to obtain mass concentration and fiber count according to the NIOSH method 7400 rule B along with fiber size measurement by phase contrast microscope for all samples. The results showed that the average fiber concentrations in the air were 0.0019 f/cm3 and 0.2007 mg/m3 and the correlation of the two units, mg/m3 and f/cm3, does not exist (r=-0.018). A major factor that affected the result was the variation of activities in production process. Thus, similar works were grouped and re-analyzed. It was found that the two units had a slightly better correlation in low activities (r = 0.2391). Moreover, it has been observed that the sampling equipment affected the fiber size. The average fiber dimension obtained from the NIOSH method 0600 was a diameter of 2 micrometers and a length of 65.5 micrometers while that obtained from the NIOSH method 7400 was a diameter of 4 micrometers and a length of 124.5 micrometers. Thus, it is concluded that there is no correlation between the two units of fiberglass concentrations collected by NIOSH method 7400 and NIOSH method 0600. Further study should be conducted to investigate NIOSH method 0600 for fiberglass and appropriate exposure standards.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=5446&obj_id=4612
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Fiberglass boats
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: ไฟเบอร์กลาสเป็นวัสดุทางเลือกเพื่อทดแทนแร่ใยหิน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน และเป็น อันตรายต่อสุขภาพน้อยแต่อย่างไรก็ตาม IARC จัดไฟเบอร์กลาสไว้ในกลุ่ม A3 สารก่อมะเร็งในสัตว์ ดังนั้นการ ประเมินการสัมผัสไฟเบอร์กลาสของคนงานจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยวิธีการที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายคือการเก็บ ตัวอย่างอากาศและนับเส้นใยด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดเฟสคอนทรัส ซึ่งต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงเป็น ข้อจำกัดในการประเมินความเข้มข้นของไฟเบอร์กลาสโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ดังนั้นการศึกษานี้จึงมี วัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์ของหน่วยความเข้มข้นไฟเบอร์กลาสคือ mg/m3 และ f/cm3 โดยการเก็บตัวอย่าง แบบคู่ขนานด้วย NIOSH method 0600 และ NIOSH method 7400 ในโรงงานผลิตไฟเบอร์กลาสและวิเคราะห์ ตัวอย่างโดยการชั่งน้ำหนักหาความเข้มข้นโดยมวล และนับเส้นใยตาม NIOSH method 7400 กฎ B พร้อมทั้งวัด ขนาดเส้นใยที่พบในทุกตัวอย่างด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดเฟสคอนทรัสท์ ผลการศึกษาพบว่าความเข้มข้นของไฟเบอร์กลาสในอากาศมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.0019 f/cm3 และ 0.2007 mg/m3 และไม่พบความสัมพันธ์ของความเข้มข้นไฟเบอร์กลาสในหน่วย mg/m3 และ f/cm3 (r =-0.018) โดยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์คือความแตกต่างของกิจกรรมในกระบวนการผลิตเมื่อจัดกลุ่มกิจกรรม และวิเคราะห์ใหม่ พบความสัมพันธ์ดีขึ้นเล็กน้อย (r = 0.2391) นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นว่าอุปกรณ์การเก็บตัวอย่างมี อิทธิพลต่อขนาดของเส้นใย กล่าวคือเส้นใยจากการเก็บตัวอย่างด้วย NIOSH method 0600 มีขนาดเฉลี่ยเล็กกว่าคือ 2 x 65.5 ไมโครเมตร ขณะที่เส้นใยที่เก็บด้วย NIOSH method 7400 มีขนาดเฉลี่ยเท่ากับ 4 x 124.4 ไมโครเมตร ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าความเข้มข้นในหน่วย mg/m3 และ f/cm3 ซึ่งเก็บตัวอย่างอากาศด้วยวิธี NIOSH method 0600 และ NIOSH method 7400 ไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ จึงเสนอแนะการศึกษาในอนาคต โดยการสืบค้นการเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่าง NIOSH method 0600 รวมทั้งการทบทวนค่ามาตรฐานการสัมผัสไฟ เบอร์กลาสใหม่เพื่อให้สอดคล้องกัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความสัมพันธ์ของความเข้มข้นเส้นใยและน้ำหนักของตัวอย่างอากาศที่เก็บด้วย Niosh method 7400 และ Niosh method 0600 ในโรงงานผ
Wipada Sangkaew
มหาวิทยาลัยมหิดล
2552
การศึกษาผลกระทบของความชื้นสัมพัทธ์ต่อปริมาตรอากาศการเก็บตัวอย่างอากาศด้วยหลอดชาร์โคล การพัฒนาวิธีเก็บตัวอย่างสาร 4-ไวนิล-1-ไซโคลเฮกซีนในอากาศ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการสำรวจระยะไกลเพื่อศึกษาความเข้มข้นของมลสารทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร Factors influencing contraceptive method choice in Pathein Township of Myanmar ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะภายนอกกับน้ำหนักตัวและความสมบูรณ์พันธุ์ของโดพื้นเมืองในลำปาง การผลิตน้ำผลไม้ผสมเข้มข้นโดยใช้เทคนิคการทำเข้มข้นแบบแช่เยือกแข็ง การเปรียบเทียบวิธีเก็บตัวอย่างน้ำฝนและการวิเคราะห์การตกสะสมของกรดโดยไอออนโครมาโทกราฟี การกำจัดตัวรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของสารตัวอย่างก่อนการตรวจวัดด้วย อินดัคทิ ประสิทธิภาพการทำงานของถังปฏิกรณ์ไร้อากาศแบบลูกผสมในการบำบัดน้ำเสียที่มีความเข้มข้นของเกลือ NaCl สูง การศึกษาสภาวะการใช้งานที่เหมาะสมของฟิลเตอร์แพคที่ออกแบบเพื่อการเก็บตัวอย่างสารกรดในบรรยากาศ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก