สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาหาความเร็วในการตกและยกตัวขึ้นของฝุ่นไม้ยางพาราภายในท่อแนวนอน
Patsiri Srivieng - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาหาความเร็วในการตกและยกตัวขึ้นของฝุ่นไม้ยางพาราภายในท่อแนวนอน
ชื่อเรื่อง (EN): Determination of saltation and pickup velocities of rubber wood dust in horizontal duct
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Patsiri Srivieng
บทคัดย่อ: การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาความเร็วลมในการตกและยกตัว (Saltation และ Picup velocities) ที่ใช้ในการเคลื่อนที่ในท่อแนวนอนของฝุ่นไม้ยางพารา จาก 3 กระบวนการ คือ การเลื่อย การขัด และการไส โดยใช้เทคนิคทางด้านการขนถ่ายวัสดุด้วยลม ฝุ่นไม้ยางพาราที่ใช้ในการทดลองมีความหนาแน่นเฉลี่ย 1548 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร ฝุ่นไม้จากกระบวนการไสมีขนาดใหญ่ที่สุด คือ 1453 ไมโครเมตร (ในช่วงน้อยกว่า 500 จนถึงมากกว่า 2360 ไมโครเมตร) ฝุ่นกระบวนการเลื่อยมีขนาด 260 ไมโครเมตร (ในช่วง 0 ถึง 878.7 ไมโครเมตร) และฝุ่นจากกระบวนการขัดมีขนาด 35 ไมโครเมตร (ในช่วง 0 ถึง 140.6 ไมโครเมตร) ผลการศึกษาพบว่า ความเร็วที่มีฝุ่นไม้ยางพาราตกค้างอยู่บริเวณด้านล่างของท่อ คือ ฝุ่นไม้ยางพาราจากระบวนการไส, เลื่อย และขัด มีค่า 7.9, 6.8 และ 14.3 เมตร/วินาที ตามลำดับ และความเร็วที่ทำให้ฝุ่นไม้ที่กองอยู่บริเวณด้านล่างของท่อเคลื่อนที่ออกจากผนังท่อมีค่า 8.6, 7.3 และ 9.3 เมตร/วินาที ตามลำดับ เมื่อนำผลของ Saltation และ Picup velocitiues ทั้งสองชนิดมาเปรียบเทียบกันพบว่าในกระบวนการเลื่อย และไสมีค่าความเร็วที่ทำให้ฝุ่นตกค้างน้อยกว่า ซึ่งตรงกันข้ามกับในกระบวนการขัดที่มีแรงเสียดทานและไฟฟ้าสถิตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้การศึกษายังได้เสนอสมการที่ใช้ในการทำนาย Picup velocitiues จากความสัมพันธ์ระหว่าง Reynolds number กับ Archimedes number ได้สัมประสิทธิ์ a และ b 8nv 1.865 และ 0.221 ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): m), respectively. The results of saltation velocities for the three processes of planning, sawing and sanding dust were 7.9, 6.8 and 14.3 m/s, respectively, and the pickup velocities of planning, sawing and sanding dust were 8.6, 7.3 and 9.3 m/s, respectively. It can be concluded that the saltation velocities were lower than the pickup velocities for both sawing and planning rubber wood dust. On the other hand, the saltation velocity of sanding dust was higher than the pickup velocity. Furthermore, this study constructed an equation to explore the relationship between the Reynolds number and the Archimedes number, to predict the pickup velocity of wood dust. The two coefficients, a and b, in the equation were found to be 1.865 and 0.221.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4745&obj_id=4527
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Analysis
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาความเร็วลมในการตกและยกตัว (Saltation และ Picup velocities) ที่ใช้ในการเคลื่อนที่ในท่อแนวนอนของฝุ่นไม้ยางพารา จาก 3 กระบวนการ คือ การเลื่อย การขัด และการไส โดยใช้เทคนิคทางด้านการขนถ่ายวัสดุด้วยลม ฝุ่นไม้ยางพาราที่ใช้ในการทดลองมีความหนาแน่นเฉลี่ย 1548 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร ฝุ่นไม้จากกระบวนการไสมีขนาดใหญ่ที่สุด คือ 1453 ไมโครเมตร (ในช่วงน้อยกว่า 500 จนถึงมากกว่า 2360 ไมโครเมตร) ฝุ่นกระบวนการเลื่อยมีขนาด 260 ไมโครเมตร (ในช่วง 0 ถึง 878.7 ไมโครเมตร) และฝุ่นจากกระบวนการขัดมีขนาด 35 ไมโครเมตร (ในช่วง 0 ถึง 140.6 ไมโครเมตร) ผลการศึกษาพบว่า ความเร็วที่มีฝุ่นไม้ยางพาราตกค้างอยู่บริเวณด้านล่างของท่อ คือ ฝุ่นไม้ยางพาราจากระบวนการไส, เลื่อย และขัด มีค่า 7.9, 6.8 และ 14.3 เมตร/วินาที ตามลำดับ และความเร็วที่ทำให้ฝุ่นไม้ที่กองอยู่บริเวณด้านล่างของท่อเคลื่อนที่ออกจากผนังท่อมีค่า 8.6, 7.3 และ 9.3 เมตร/วินาที ตามลำดับ เมื่อนำผลของ Saltation และ Picup velocitiues ทั้งสองชนิดมาเปรียบเทียบกันพบว่าในกระบวนการเลื่อย และไสมีค่าความเร็วที่ทำให้ฝุ่นตกค้างน้อยกว่า ซึ่งตรงกันข้ามกับในกระบวนการขัดที่มีแรงเสียดทานและไฟฟ้าสถิตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้การศึกษายังได้เสนอสมการที่ใช้ในการทำนาย Picup velocitiues จากความสัมพันธ์ระหว่าง Reynolds number กับ Archimedes number ได้สัมประสิทธิ์ a และ b 8nv 1.865 และ 0.221 ตามลำดับ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาหาความเร็วในการตกและยกตัวขึ้นของฝุ่นไม้ยางพาราภายในท่อแนวนอน
Patsiri Srivieng
มหาวิทยาลัยมหิดล
2551
การพัฒนาเครื่องวัดการแอ่นตัวแบบตกกระแทกต้นแบบเพื่อหาค่าความแข็งแรงของพื้นผิวต่างๆ ในสนาม การเก็บเกี่ยวสาหร่ายขนาดเล็กในการเพาะเลี้ยงแบบน้ำเขียวด้วยกระบวนการรวมตัวและตกตะกอนทางเคมี ตัวนำเนินการ Lk ที่สัมพันธ์กับตัวดำเนินการลาปลาซ คุณลักษณะของถ่านกัมมันต์ที่ได้จากกากของรำข้าวและการประยุกต์ใช้เป็นตัวรองรับของตัวเร่งปฏิกิริยา การตรวจหาและการหาลักษณะของพลาสมิดที่แยกจากเชื้อ Lactobacillus spp. การพัฒนาเส้นใยพอลิเอสเทอร์ที่สลายตัวได้ทางชีวภาพด้วยโครงสร้างย่อยโมเลกุลที่ถูกควบคุม เพื่อใช้เป็นไหมละลายเส้นใยเดี่ยวสลายตัวเร็วสาหรับงานศัลยกรรม การแยกตัวอักษรจากวิดีทัศน์ การศึกษาปรับปรุงคุณภาพของแคทอิออนิกแอสฟัลต์อิมัลชั่นชนิดแตกตัวช้าโดยใช้สารเติมแต่งพอลิเมอร์ การศึกษาความหลากรูปข การหาสภาวะที่เหมาะสมที่สุดของเทคนิค PCR-multiplex SSCP เพื่อค้นหาการกลายพันธุ์และความหลากหลายในยีน LDL receptor
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก