สืบค้นงานวิจัย
รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาผลของการพรางแสงต่อปริมาณคลอโรฟิลลืและโครงสร้างภายในของใบผักกาดเขียวกวางตุ้ง
สุพรรษา ติดโสม - มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
ชื่อเรื่อง: รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาผลของการพรางแสงต่อปริมาณคลอโรฟิลลืและโครงสร้างภายในของใบผักกาดเขียวกวางตุ้ง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุพรรษา ติดโสม
บทคัดย่อ: "การศึกษาผลของการพรางแสงต่อปริมาณคลอโรฟิลล์และโครงสร้างภายในของใบผักกาดเขียวกวางตุ้ง ซึ่งปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงแตกต่างกัน โดยวัดปริมาณคลอโรฟิลล์ด้วย chlorophyll meter และ spectrophotometer แล้วศึกษาโครงสร้างภายในใบด้วยวิธีการพาราฟิน พบว่า ในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีดำชนิดพรางแสง 50 เปอร์เซ็นต์, 70 เปอร์เซ็นต์ และ ตาข่ายสีฟ้า ทำให้ความเข้มของแสงลดลงเหลือ 27.84, 22.21 และ 20.59 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ การวัดปริมาณคลอโรฟิลล์ด้วยเครื่อง chlorophyll meter ที่ระยะเวลา 53 วัน พบว่า เมื่อความเข้มของแสงลดลงปริมาณคลอโรฟิลล์เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เมื่อทำการวิเคราะห์ปริมาณคลอโรฟิลล์ a คลอดโรฟิลล์ b และ total chlorophyll ด้วยเครื่อง spectrophotometer พบว่า ใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ระยะเวลา 53 วัน มีปริมาณคลอโรฟิลล์ a ของใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีฟ้ามีปริมาณมากกว่าปลูกในสภาพกลางแจ้งอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 ส่วนปริมาณคลอโรฟิลล์ b ของใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีดำชนิดพรางแสง 50 เปอร์เซ็นต์, 70 เปอร์เซ็นต์ และปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีฟ้ามีปริมาณคลอโรฟิลล์ b เพิ่มมากกว่าใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกในสภาพกลางแจ้งอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 และปริมาณ total chlorophyll ของใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีดำชนิดพรางแสง 70 เปอร์เซ็นต์ และปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีฟ้ามีปริมาณมากกว่าที่ปลูกกลางแจ้งอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 และเมื่อศึกษาโครงสร้างภายในใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ระยะเวลา 53 วัน ด้วยวิธีการพาราฟิน พบว่า ให้ผลสอดคล้องกับการวิเคราะห์ด้วยเครื่อง spectrophotometer โดยพบว่า ในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีฟ้ามีปริมาณคลอโรฟิลล์มากที่สุด A study of the effect of shading on the quantity of chlorophyll and internal structure of Brassica chinensis leaves by shading was measued by chlorophyll meter and specrophotomenter and leaf internal structure was determined through paraffin method. It was found that 50% and 70% to shading through black nets and by blue net decreased light intensity into 27.84%, 22.21% and 20.59%, respectively. When light intensity decreased, quantity of chlorophyll increased as measured at day 53 by chlorophyll meter. When chlorophyll a, chlorophyll b and total chlorophyll analysed by spectrophotometer at day 53, The quantity of chlorophyll a in leaves of Brassica chinensis in the condition of shading by blue net was higher than that of Brassica chinensis outdoor without light control at level of 0.01 statistical significance. The quantity of chlorophyll b in leaves of Brassica chinensis in the condition of 50%, 70% to shading was under the condition of 70% and blue net to shading was higher than that of 0.01 statistical significance. When internal structure of leaves at day 53 by paraffin method, it was found that the results were in consistent with measurement by spectrophotometer. Thus, in the condition of blue net has the highest chlorophyll.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=3&RecId=205&obj_id=1719
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
คำสำคัญ: วิจัย
คำสำคัญ (EN): 635.52
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
รายละเอียด: "การศึกษาผลของการพรางแสงต่อปริมาณคลอโรฟิลล์และโครงสร้างภายในของใบผักกาดเขียวกวางตุ้ง ซึ่งปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงแตกต่างกัน โดยวัดปริมาณคลอโรฟิลล์ด้วย chlorophyll meter และ spectrophotometer แล้วศึกษาโครงสร้างภายในใบด้วยวิธีการพาราฟิน พบว่า ในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีดำชนิดพรางแสง 50 เปอร์เซ็นต์, 70 เปอร์เซ็นต์ และ ตาข่ายสีฟ้า ทำให้ความเข้มของแสงลดลงเหลือ 27.84, 22.21 และ 20.59 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ การวัดปริมาณคลอโรฟิลล์ด้วยเครื่อง chlorophyll meter ที่ระยะเวลา 53 วัน พบว่า เมื่อความเข้มของแสงลดลงปริมาณคลอโรฟิลล์เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เมื่อทำการวิเคราะห์ปริมาณคลอโรฟิลล์ a คลอดโรฟิลล์ b และ total chlorophyll ด้วยเครื่อง spectrophotometer พบว่า ใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ระยะเวลา 53 วัน มีปริมาณคลอโรฟิลล์ a ของใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีฟ้ามีปริมาณมากกว่าปลูกในสภาพกลางแจ้งอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 ส่วนปริมาณคลอโรฟิลล์ b ของใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีดำชนิดพรางแสง 50 เปอร์เซ็นต์, 70 เปอร์เซ็นต์ และปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีฟ้ามีปริมาณคลอโรฟิลล์ b เพิ่มมากกว่าใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกในสภาพกลางแจ้งอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 และปริมาณ total chlorophyll ของใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีดำชนิดพรางแสง 70 เปอร์เซ็นต์ และปลูกในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีฟ้ามีปริมาณมากกว่าที่ปลูกกลางแจ้งอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 และเมื่อศึกษาโครงสร้างภายในใบผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ระยะเวลา 53 วัน ด้วยวิธีการพาราฟิน พบว่า ให้ผลสอดคล้องกับการวิเคราะห์ด้วยเครื่อง spectrophotometer โดยพบว่า ในสภาพที่มีการพรางแสงด้วยตาข่ายสีฟ้ามีปริมาณคลอโรฟิลล์มากที่สุด A study of the effect of shading on the quantity of chlorophyll and internal structure of Brassica chinensis leaves by shading was measued by chlorophyll meter and specrophotomenter and leaf internal structure was determined through paraffin method. It was found that 50% and 70% to shading through black nets and by blue net decreased light intensity into 27.84%, 22.21% and 20.59%, respectively. When light intensity decreased, quantity of chlorophyll increased as measured at day 53 by chlorophyll meter. When chlorophyll a, chlorophyll b and total chlorophyll analysed by spectrophotometer at day 53, The quantity of chlorophyll a in leaves of Brassica chinensis in the condition of shading by blue net was higher than that of Brassica chinensis outdoor without light control at level of 0.01 statistical significance. The quantity of chlorophyll b in leaves of Brassica chinensis in the condition of 50%, 70% to shading was under the condition of 70% and blue net to shading was higher than that of 0.01 statistical significance. When internal structure of leaves at day 53 by paraffin method, it was found that the results were in consistent with measurement by spectrophotometer. Thus, in the condition of blue net has the highest chlorophyll.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาผลของการพรางแสงต่อปริมาณคลอโรฟิลลืและโครงสร้างภายในของใบผักกาดเขียวกวางตุ้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
2547
การสำรวจจำนวนประชากรของแมลงศัตรูสำคัญทางเศรษฐกิจของผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกทดลองในสถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง การศึกษาอัตราและระยะเวลาการฉีดพ่นสารกำจัดวัชพืชอลาคลอร์ในแปลงปลูกผักกาดเขียวกวางตุ้ง การพัฒนาความบริสุทธิ์ของผักกาดเขียวกวางตุ้งสายพันธุ์ราชมงคล 1 และปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่ การพัฒนาพันธุ์ความบริสุทธิ์ของผักกาดเขียวกวางตุ้งสายพันธุ์ราชมงคล 1 และปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่ การคัดเลือกแบบรวมรอบที่ 1 ของผักกาดหัวพันธุ์เบา อุณหภูมิและพลังงานแสง ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วเขียว การทดสอบประสิทธิภาพของสารฮิวมิคแอซิคในผักกาดหัว รายงานการวิจัยเรื่อง การวิจัยและพัฒนาการผลิตพืชผักปลอดภัยสารพิษ รายงานการวิจัย อิทธิพลของน้ำสกัดชีวภาพจากหอยเชอรี่ต่อการเจริญเติบโตของผักกาดเขียวกวางตุ้ง รายงานการวิจัย ประสิทธิภาพของเชื้อราTrichoderma harzianum ในการควบคุมเชื้อรา Pythium SP สาเหตุโรคเน่าระดับดินของผักกาดเขียวกวางตุ้ง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก