สืบค้นงานวิจัย
การวางแผนชลประทานฤดูแล้งโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง
พรรณพร สุวรรณ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การวางแผนชลประทานฤดูแล้งโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง
ชื่อเรื่อง (EN): Dry season irrigation planning of Lampraplerng irrigation project
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พรรณพร สุวรรณ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Panporn Suwan
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางในการวางแผนปลูกพืชฤดูแล้งตามปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำหลังสิ้นสุดฤดูฝน ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการจัดสรรน้ำของโครงการฯ ในอดีต โดยได้ทำการศึกษา 2 แนวทาง ประกอบด้วย การสร้างกฎเกณฑ์ในการกำหนดพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้งด้วยกราฟ กำหนดพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้ง และการสร้างแบบจำลอง DSIP (Dry Season Irrigation Planning) เพื่อวางแผนการปลูกพืชฤดูแล้งล่วงหน้าจากผลการพยากรณ์ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำจากแนวทางแรก ได้สร้างกราฟกำหนดพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้ง (Dry Season Area Reduction Curve, DSAR) โดยยอมให้มีการขาดแคลนน้ำ 10% 20% และ 30% ของช่วงเวลาในการศึกษา 30 ปี (พ.ศ.2512-2541) ด้วยแบบจำลอง WUSMO 5.0 ผลการศึกษาพบว่าโครงการฯ ลำพระเพลิงมีพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้งเฉลี่ย (เทียบเท่าข้าว) 2,207 ไร่ 3,605 ไร่ และ 4,385 ไร่ ตามลำดับ โครงการลำสำลายมีพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้งเฉลี่ย (เทียบเท่าข้าว) 1,018 ไร่ 2,823 ไร่ และ 3,974 ไร่ ตามลำดับ สำหรับแนวทางที่สองในการสร้างแบบจำลอง ซึ่งได้ทำการพยากรณ์ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำรายเดือนด้วย วิธีทางสโตแคสติก (Box และ Jenkins ในรูปแบบ AR1xSMA1) พร้อมทั้งพยากรณ์ตามสภาวการณ์ปีน้ำมาก ปีน้ำปกติ และปีน้ำน้อย จากวิธีการวิเคราะห์แจกแจงความถี่ของข้อมูลปริมาณน้ำท่ารายปีด้วยฟังก์ชันการแจกแจงความน่าจะเป็นแบบ Log Pearson Tpye III จากนั้นนำมาประกอบการทำนายพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสมซึ่งไม่ทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำสุดท้ายได้ทำการเปรียบเทียบการวิเคราะห์ทั้งสองแนวทางด้วยกันกับข้อมูลจริงในอดีต 5 ปี (พ.ศ.2537-2541) จากวิธีการใช้กราฟกำหนดพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้ง พบว่า ให้สอดคล้องกบการเพาะปลูกฤดูแล้งสำหรับปีที่มีปริมาณน้ำเก็บกักหลังสิ้นฤดูฝนต่ำ สำหรับวิธีการใช้แบบจำลอง DSIP ให้ค่าพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้งที่เหมาะสมสำหรับปีที่มีปริมาณน้ำเก็บกักหลังสิ้นสุดฤดูฝนมาก แต่ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่าพฤติกรรมการเพาะปลูกของเกษตรกรจะยอมมีความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำสูง ในปีที่มีปริมาณน้ำเก็บกักหลังสิ้นสุดฤดูฝนต่ำมากกว่าปีที่มีปริมาณน้ำเก็บกักหลังสิ้นสุดฤดูฝนมากรวมทั้งยังคำนึงถึงราคาผลผลิตเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจด้วย จากการศึกษาสรุปได้ว่าทั้ง 2 แนวทาง สามารถใช้สำหรับการวางแผนการชลประทานฤดูแล้งของโครงการฯ ลำพระเพลิงได้โดยเลือกใช้ให้เหมาะสมตามสถานการณ์This objective of this study was to determine the dry season irrigation plan depending on the reservoir storage at the end of wet season and the water allocation practice of the project. Two methods used to determine the dry season irrigation area in this study are the DSAR curve (Dry Season Area Reduction Curve) and the simulation model for dry season irrigation planning (DSIP) based on the forecasted inflow.Form the first approach, DSAR curve were developed by WUSMO 5.0 for the shortage allowance of 10 percent, 20 percent and 30 percent of 30 years interval (1969-1988). The DSAR curve indicates that the average dry season irrigation areas for 10 percent, 20 percent and 30 percent shortage allowance are 2,207 rai 3,605 rai and 4,385 rai of rice equivalent in Lampraplerng Project and 1,018 ria 2,823 rai and 3,974 rai of rice equivalent in Lamsamlai Project, respectively, by the second approach, the stochastic method (AR1xSMa1 of Box and Jenkins) was selected for forecasting the monthly inflow to the reservoir. The inflow of wet, normal and dry year were also identified using Log Pearson Type III probability distribution function. The model then determine the dry season irrigation area which has no water shortage.Finally, the results of two approach were compared with the historical data of 1994-1988. Its indicates that the DSAR is suitable for dry season irrigation are planning in case of low storage year but the DSIP is suitable for dry season irrigation area planning in case of high storage year. However, in the low storage year the farmers trend to take more risk than in the high storage year. Also the price of products are important for farmer's decision. Thus, DSAR and DSIP are two alternative approaches which can be applied for the dry season irrigation planning of Lampraplerng Project depending on the reservoir storage at the end of wet season.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/PanpornSuw/index.html
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
รายละเอียด: การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางในการวางแผนปลูกพืชฤดูแล้งตามปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำหลังสิ้นสุดฤดูฝน ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการจัดสรรน้ำของโครงการฯ ในอดีต โดยได้ทำการศึกษา 2 แนวทาง ประกอบด้วย การสร้างกฎเกณฑ์ในการกำหนดพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้งด้วยกราฟ กำหนดพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้ง และการสร้างแบบจำลอง DSIP (Dry Season Irrigation Planning) เพื่อวางแผนการปลูกพืชฤดูแล้งล่วงหน้าจากผลการพยากรณ์ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำจากแนวทางแรก ได้สร้างกราฟกำหนดพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้ง (Dry Season Area Reduction Curve, DSAR) โดยยอมให้มีการขาดแคลนน้ำ 10% 20% และ 30% ของช่วงเวลาในการศึกษา 30 ปี (พ.ศ.2512-2541) ด้วยแบบจำลอง WUSMO 5.0 ผลการศึกษาพบว่าโครงการฯ ลำพระเพลิงมีพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้งเฉลี่ย (เทียบเท่าข้าว) 2,207 ไร่ 3,605 ไร่ และ 4,385 ไร่ ตามลำดับ โครงการลำสำลายมีพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้งเฉลี่ย (เทียบเท่าข้าว) 1,018 ไร่ 2,823 ไร่ และ 3,974 ไร่ ตามลำดับ สำหรับแนวทางที่สองในการสร้างแบบจำลอง ซึ่งได้ทำการพยากรณ์ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำรายเดือนด้วย วิธีทางสโตแคสติก (Box และ Jenkins ในรูปแบบ AR1xSMA1) พร้อมทั้งพยากรณ์ตามสภาวการณ์ปีน้ำมาก ปีน้ำปกติ และปีน้ำน้อย จากวิธีการวิเคราะห์แจกแจงความถี่ของข้อมูลปริมาณน้ำท่ารายปีด้วยฟังก์ชันการแจกแจงความน่าจะเป็นแบบ Log Pearson Tpye III จากนั้นนำมาประกอบการทำนายพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสมซึ่งไม่ทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำสุดท้ายได้ทำการเปรียบเทียบการวิเคราะห์ทั้งสองแนวทางด้วยกันกับข้อมูลจริงในอดีต 5 ปี (พ.ศ.2537-2541) จากวิธีการใช้กราฟกำหนดพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้ง พบว่า ให้สอดคล้องกบการเพาะปลูกฤดูแล้งสำหรับปีที่มีปริมาณน้ำเก็บกักหลังสิ้นฤดูฝนต่ำ สำหรับวิธีการใช้แบบจำลอง DSIP ให้ค่าพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้งที่เหมาะสมสำหรับปีที่มีปริมาณน้ำเก็บกักหลังสิ้นสุดฤดูฝนมาก แต่ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่าพฤติกรรมการเพาะปลูกของเกษตรกรจะยอมมีความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำสูง ในปีที่มีปริมาณน้ำเก็บกักหลังสิ้นสุดฤดูฝนต่ำมากกว่าปีที่มีปริมาณน้ำเก็บกักหลังสิ้นสุดฤดูฝนมากรวมทั้งยังคำนึงถึงราคาผลผลิตเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจด้วย จากการศึกษาสรุปได้ว่าทั้ง 2 แนวทาง สามารถใช้สำหรับการวางแผนการชลประทานฤดูแล้งของโครงการฯ ลำพระเพลิงได้โดยเลือกใช้ให้เหมาะสมตามสถานการณ์This objective of this study was to determine the dry season irrigation plan depending on the reservoir storage at the end of wet season and the water allocation practice of the project. Two methods used to determine the dry season irrigation area in this study are the DSAR curve (Dry Season Area Reduction Curve) and the simulation model for dry season irrigation planning (DSIP) based on the forecasted inflow.Form the first approach, DSAR curve were developed by WUSMO 5.0 for the shortage allowance of 10 percent, 20 percent and 30 percent of 30 years interval (1969-1988). The DSAR curve indicates that the average dry season irrigation areas for 10 percent, 20 percent and 30 percent shortage allowance are 2,207 rai 3,605 rai and 4,385 rai of rice equivalent in Lampraplerng Project and 1,018 ria 2,823 rai and 3,974 rai of rice equivalent in Lamsamlai Project, respectively, by the second approach, the stochastic method (AR1xSMa1 of Box and Jenkins) was selected for forecasting the monthly inflow to the reservoir. The inflow of wet, normal and dry year were also identified using Log Pearson Type III probability distribution function. The model then determine the dry season irrigation area which has no water shortage.Finally, the results of two approach were compared with the historical data of 1994-1988. Its indicates that the DSAR is suitable for dry season irrigation are planning in case of low storage year but the DSIP is suitable for dry season irrigation area planning in case of high storage year. However, in the low storage year the farmers trend to take more risk than in the high storage year. Also the price of products are important for farmer's decision. Thus, DSAR and DSIP are two alternative approaches which can be applied for the dry season irrigation planning of Lampraplerng Project depending on the reservoir storage at the end of wet season.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวางแผนชลประทานฤดูแล้งโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2544
การติดตามและประเมินผลการส่งน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครปฐม ปัญหาและอุปสรรคในการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อการชลประทาน : กรณีศึกษาโครงการคลองสียัด การพัฒนาการมีส่วนร่วมและการสร้างความเข้มแข็งองค์กรผู้ใช้น้ำในการบริหารจัดการชลประทานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัด อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ การวิเคราะห์การจัดสรรน้ำและการจัดการน้ำในลุ่มน้ำแม่วาง การกระจายน้ำในลุ่มน้ำแม่กลองจำลองแบบด้วย Planning distribution model (PDM) การติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาหอผึ่งน้ำ การบริหารความขัดแย้งในงานก่อสร้างโครงการชลประทานกรณีศึกษา : โครงการชลประทาน จ.เชียงใหม่ และจ.ลำพูน ความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ใช้น้ำต่อการบริหารจัดการชลประทานของโครงการชลประทานบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ การหาพื้นที่ปลูกลำไยที่เหมาะสมสภาพการชลประทานรูปแบบต่างๆในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน การประเมินความยั่งยืนของระบบการชลประทานแบบปล่อยน้ำบนผิวดินและแบบน้ำหยดสำหรับการปลูกกล้วยในเขตแห้งแล้งของประเทศศรีลังกา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก