สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมของสหกรณ์การเกษตร เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในพื้นที่แนวชายแดน ไทย - ลาว
สุกัลยา กาเซ็ม - สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมของสหกรณ์การเกษตร เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในพื้นที่แนวชายแดน ไทย - ลาว
บทคัดย่อ: ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian Nations: ASEAN) มีการลงนามเพื่อจัดตั้ง “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 2558 ซึ่งการเปิดเสรีการค้าอาจมีผลกระทบต่อการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรในพื้นที่แนวชายแดน ในขณะเดียวกัน เป็นโอกาสที่ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านจะสร้างความร่วมมือในการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีใกล้เคียงกัน มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สหกรณ์การเกษตร เป็นสถาบันเกษตรกร ที่ได้รับการคาดหวังว่าจะช่วยขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจสินค้าเกษตรของเกษตรกร การศึกษานี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ การผลิตและการค้าสินค้าเกษตรของสหกรณ์การเกษตร และศึกษาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจสินค้าเกษตรกับ สปป.ลาว ภายใต้เขตการค้าเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยทำการศึกษาพื้นที่จังหวัดเขตติดต่อกับ สปป.ลาว ที่มีจุดผ่านแดนถาวร 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี โดยเก็บข้อมูลจากสหกรณ์การเกษตรกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ศึกษา ที่มีการรวบรวมผลผลิตสินค้าเกษตร ด้วยการกำหนดขนาดตัวอย่างของ Krejcie R.V. and Morgan D.W. การสัมภาษณ์ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึง การจัดสัมมนาระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า ในปี 2557 สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ศึกษา 8 จังหวัด มีจานวน 520 แห่ง เป็นสหกรณ์การเกษตรในเขตพัฒนาหรือสหกรณ์การเกษตรรูปแบบพิเศษอื่น ร้อยละ 42.31 สหกรณ์ผู้ใช้น้ำ ซึ่งไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการรวบรวมและแปรรูปสินค้าเกษตรถึงร้อยละ 21.15 และเป็นสหกรณ์กองทุนสวนยาง ที่ส่วนใหญ่ยังขาดโครงสร้างพื้นฐาน ไม่มีอาคารสานักงาน และทำธุรกิจเฉพาะสินค้ายางพารา ร้อยละ 18.46 และสหกรณ์การเกษตรระดับอำเภอ ซึ่งส่วนใหญ่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน สถานที่ เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ต่าง ๆ ร้อยละ 16.54 ในส่วนของปริมาณธุรกิจ พบว่า ดำเนินธุรกิจให้กู้เงินมากที่สุด ร้อยละ 58.15 ธุรกิจรับฝากเงิน ร้อยละ 31.71 ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ร้อยละ 6.37 ในขณะที่ ธุรกิจรวบรวมผลผลิตสินค้าเกษตรมีเพียงร้อยละ 3.31 และธุรกิจแปรรูปผลผลิตสินค้าเกษตรมีเพียง 0.28 เท่านั้น โดยมีสหกรณ์การเกษตรที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตสินค้าเกษตรจำนวน 191 แห่ง หรือร้อยละ 36.73 ของสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ศึกษา 8 จังหวัด สำหรับสินค้าที่มีจำนวนสหกรณ์การเกษตรที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมมากที่สุดคือ ยางพารา รองลงมาคือข้าว และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่วนสินค้าอื่น ๆ เช่น ผัก ผลไม้ น้ำนมดิบ ถั่วต่าง ๆ มันสาปะหลัง อ้อย ปาล์มน้ามัน และกาแฟ มีสหกรณ์การเกษตรเพียงไม่กี่แห่งที่ดำเนินการรวบรวม ในส่วนของการสร้างความร่วมมือกับ สปป.ลาว พบว่า สหกรณ์การเกษตรส่วนใหญ่ยังไม่มีศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจสินค้าเกษตร ทำให้ยังไม่มีศักยภาพในการสร้างความร่วมมือกับ สปป.ลาว อย่างไรก็ตาม มีนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนการดำเนินงาน และมีสหกรณ์การเกษตรระดับอำเภอหลายแห่ง ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน สถานที่ ไซโล และอยู่ในพื้นที่เขตติดต่อกับ สปป.ลาว ที่เอื้ออำนวย จึงมีโอกาสสร้างความร่วมมือกันได้ และจากการศึกษาความเห็นของสหกรณ์การเกษตรกลุ่มตัวอย่าง เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจสินค้าเกษตรร่วมกับ สปป.ลาว พบว่า ร้อยละ 40.16 มีความเห็นว่า หากมีโอกาส ในการส่งสินค้าออกไปยัง สปป.ลาว ก็จะส่งออก ในส่วนของการนำเข้า ร้อยละ 44.88 มีความเห็นว่าการนำเข้าสินค้าจาก สปป.ลาว จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยจะทาให้สินค้าของเกษตรกร มีราคาต่ำลง อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 30.71 เห็นด้วยที่จะนำเข้าสินค้าต้นทุนต่ำจาก สปป.ลาว เข้ามาแปรรูป เพื่อลดต้นทุนการผลิต และทดแทนในช่วงที่ขาดแคลน แต่ต้องนำเข้าในช่วงที่ไม่มีผลกระทบต่อเกษตรกรของไทย ดังนั้น เพื่อให้สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ชายแดนเขตติดต่อกับ สปป.ลาว มีศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจสินค้าเกษตรและมีความสามารถในการสร้างความร่วมมือในการผลิต และการค้า สินค้าเกษตรกับ สปป.ลาว จึงควรเร่งแก้ปัญหาจุดอ่อนและแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เช่น พัฒนาศักยภาพของสหกรณ์การเกษตรให้มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน สถานที่ โกดัง ลานตาก พาหนะ และเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ต่าง ๆ พัฒนาเครือข่ายการตลาดรองรับผลผลิต การสร้างศูนย์กระจายสินค้า ฟื้นฟูสหกรณ์การเกษตรที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง สนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรที่มีความพร้อมให้แปรรูปผลผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น ทบทวนศักยภาพของสหกรณ์การเกษตร โดยยุบรวมหรือยกเลิกสหกรณ์การเกษตรที่ไม่มีผลการดำเนินงาน ไม่ได้เป็นที่พึ่งให้แก่เกษตรกรสมาชิก ยกเลิกระบบการบริหารจัดการรวบรวมผลผลิตสินค้าที่เป็นเพียงการเปิดจุดประมูล ไม่มีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน และไม่มีอำนาจต่อรองให้แก่เกษตรกรสมาชิก และสนับสนุนการสร้างเครือข่ายการตลาดเพื่อรองรับผลผลิตสินค้าเกษตรของสหกรณ์การเกษตร ในส่วนของการสร้างความร่วมมือกับ สปป.ลาว ควรมีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนโครงการความร่วมมือไทย-สปป.ลาว ในการพัฒนาธุรกิจสินค้าเกษตรของสหกรณ์การเกษตร โดยให้หน่วยงานภาครัฐเป็นองค์กรนำและเชื่อมโยงการผลิตและการค้า สนับสนุนสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพ มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อขับเคลื่อนการผลิต การรวบรวม และการแปรรูป สินค้าเกษตร ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและพื้นที่ชายแดน เชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพ ในการรวบรวมผลผลิต แต่ไม่มีศักยภาพในการแปรรูป ให้เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจสินค้าเกษตรไทยในพื้นที่ชายแดน สนับสนุนสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายสินค้าสหกรณ์เพื่อส่งออกไปยัง สปป.ลาว และประชาสัมพันธ์สินค้าเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรของไทยใน สปป.ลาว ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
คำสำคัญ: อาเซียน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สุกัลยา กาเซ็ม. "การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมของสหกรณ์การเกษตร เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในพื้นที่แนวชายแดน ไทย - ลาว". สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร. 2558

สุกัลยา กาเซ็ม. "การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมของสหกรณ์การเกษตร เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในพื้นที่แนวชายแดน ไทย - ลาว". สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร. 2558. Print.



TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมของสหกรณ์การเกษตร เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในพื้นที่แนวชายแดน ไทย - ลาว
สุกัลยา กาเซ็ม
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
30 กันยายน 2558
การศึกษาแนวทางการพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงโคเนื้อของเกษตรกรตามแนวชายแดน เพื่อรองรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา : สินค้าข้าว ของ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา (7 ต.ค. 2557) ศักยภาพการดำเนินงานของ Smart Farmer ข้าวที่ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันเพื่อก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนประเทศไทย การปรับตัวอุตสาหกรรมชาไทยเพื่อการแข่งขันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา : สินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (7 ต.ค. 2557) การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกรณีศึกษา : สินค้าประมงในประเทศราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (7 ต.ค. 2557) การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ กรณีศึกษา: สินค้าปศุสัตว์ (7 ต.ค. 2557) การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษาสินค้าประมง (5 พ.ย. 2558) การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา : สินค้าถั่วเขียว ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (7 ต.ค. 2557) การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา: สินค้ามันสำปะหลัง ของราชอาณาจักรกัมพูชา (7 ต.ค. 2557)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair