สืบค้นงานวิจัย
พลวัตรของคาร์บอนในดินภายใต้ภายใต้ระบบการไถพรวนดินแบบต่างๆ
พิมพิลัย นวลละออง - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: พลวัตรของคาร์บอนในดินภายใต้ภายใต้ระบบการไถพรวนดินแบบต่างๆ
ชื่อเรื่อง (EN): Soil carbon dynamics in various tillage managements
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิมพิลัย นวลละออง
บทคัดย่อ: การศึกษาอิทธิพลของการเตรียมตินต่อการกักเก็บและการปลดปล่อยก๊าซในข้าวโพด ณ สถานี พัฒนาที่ดินชลบุรี ตำบลเหมือง อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ในชุดดินศรีราชา ดำเนินการโดยใช้แผนการ ทดลองแบบ Randomized Complete Block Desige จำนวน 5 ซ้ำ ประกอบด้วย 3 สิ่งทดลองวิธีการ เตรียมดิน คือ (1) ปลูกข้าวโพดโดยไมใถพรวน (2) ปลูกข้าวโพดโดยไถพรวนเชิงอนุรักษ์ และ (3) แปลง ปลูกข้าวโพดโดยไถพรวนแบบสมบูรณ์ พบว่า ปริมาณการปลดปล่อยก็ซคาร์บอนไดออกไซด์ ระหว่าง วิธีการไถพรวนดิน 3วิธี ไม่พบความแตกต่างของอัตราการปลดปล่อยก็ซคาร์บอนไดออกไซต์ แต่มี แนวโน้มว่าในแปลงที่มีการไถพรวแบบสมบูรณ์ และแปลงไถพรวนเชิงอนุรักษ์ มีการปลดปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซต์มากกว่าแปลงที่ไม่มีการไถพรวน โดยมีปริมาณการปลดปล่อยจากดิน 49287, 4.6764 และ 4.2059 ตันคาร์บอนต่อไร่ การเปลี่ยนแปลงสมบัติของตินโดยพิจารณาจากปริมาณอินทรียวัตถุ ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น ประโยชน์ในติน ปริมาณพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์นติน และ ค่าความป็นกรด -งของติน พบว่า ปริมาณอินทรียวัตถุ มีคำาเพิ่มขึ้น เมื่อสิ้นสุดปีที่ 1 และสิ้นสุดปีที่ 2 โดยพบว่า เมื่อสิ้นสุดการวิจัยปีที่ 1 และ 2ปริมาณอินทรีวัถุมีค่าเพิ่มขึ้น แต่คงอยู่ในระดับต่ำ จากก่อนทำการวิจัย 0.76 เปอร์เซ็นต์ เปลี่ยนเป็น 0.79 และ 0.96 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ และปริมาณอินทรียวัตถุมีค่าลดลงจากระดับต่ำเป็น ระดับต่ำมากเมื่อสิ้นสุดปีที่ 3 โดยพบว่า มีค่าเฉสี่ย 0.39 เปอร์เซ็น ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ ในตินมีคำเพิ่มขึ้น เมื่อสิ้นสุดปีที่ และสิ้นสุดปีที่ 2 โดยพบว่า เมื่อสิ้นสุดการวิจัยปีที่ 1 ปริมาณ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์นดินมีค่าเพิ่มขึ้นจากระดับปานกลาง เป็น ระดับสูง จากก่อนทำ 14.83 มิสิกรัมต่อกิโลกรัม เปลี่ยนเป็น 39.79 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และ เพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงมากเมื่อ สิ้นสุดการวิจัยปีที่ 2 โดยมีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในตินเฉสี่ยเท่ากับ 59.17 มิสลิกรัมต่อ กิโลกรัม และในปีที่ 3 ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในตินลดลงจากปีที่ 2 แต่สูงกว่าก่อนทำการ วิจัย โดยมีคำาเฉลี่ยเท่ากับ 37.80 มิลสิกรัมต่อกิโลกรัม ปริมาณปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชนใน ตินมีคำาลดลงจากก่อนทำการวิจัยทั้ง 3 ปี แต่คงอยู่ในระดับต่ำ โดยพบว่ามีค่าลดลงจาก 19.50 มิลสิกรัม ต่อกิโลกรัม เป็น 16.17 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เมื่อสิ้นสุดในปีที่ 1, 15.30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เมื่อสิ้นสุด ในปีที่ 2 และ 12.10 มิลสิกรัมต่อกิโลกรัม เมื่อสิ้นสุดในปีที่ 3 ค่าความเป็นกรด - ด่างของดิน มีค่าลดลง การวิจัยจากก่อนทำการวิจัยทั้ง 3 ปี โดยพบว่ามีค่าลดลงจาก 6.01 เป็น 5.43 เมื่อสิ้นสุดในปีที่ 1, 5.45 เมื่อ สิ้นสุดในปีที่ 2 และ 5.30 เมื่อสิ้นสุดในปีที่ 3 การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพด แสดงโดยความสูงของตันข้าวโพด น้ำหนักมวลชีวภาพ ของลำตัน ใบ ชัง เปลือก เมล็ด และราก พบว่า การเจริญเติบโตทางด้านความสูงตันข้าวโพดเมื่อโต เต็มที่ ที่อายุเก็บเกี่ยว ไม่พบความแตกต่างทางสถิติของวิธีการไถพรวนดิน แต่แปลงไมไถพรวนและแปลง ไถพรวนเชิงอนุรักษ์มีแนวโน้มความสูงตันข้าวโพดมากกว่าในแปลงไถพรวนแบบสมบูรณ์ โดยพบความสูง ตันเฉลี่ย 3 ปีเท่ากับ 142.96, 142.95 และ 140. 72 เซนติเมตรตามลำดับ ด้านน้ำหนักมวลชีวภาพของ ลำตัน ใบ ซัง เปลือก เมล็ด และราก ไม่พบความแตกต่างทางสถิติของวิธีการไถพรวนดินในปีที่ 1 และ ปี ที่ 2 ยกเว้นน้ำหนักมวลชีวภาพของรากข้าวโพดในปีที่ 3 โดยพบว่า การไถพรวนแบบสมบูรณ์ให้น้ำหนัก มวลชีวภาพของรากข้าวโพดสูงสุด รองมาคือ ไม่ไถพรวน และไถพรวนเชิงอนุรักษ์ โดยมีคำเฉลี่ยเท่ากั บ 65.68, 49.46 และ 48.66 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ปริมาณธาตุอาหารในแต่ละส่วนของข้าวโพดโดยทำการวิเคราะห์ในฤดูปลูกปีที่ 2 และ 3 โดยใน ปีที่ 2 พบความแตกต่างของปริมาณอินทรีย์วัตถุ ในส่วนของลำตัน และใบข้าวโพด ปริมาณไนโตรเจน ในส่วนของลำต้น ชัง เมล็ต และรากข้าวโพด ปริมาณฟอสฟอรัส ในส่วนของลำต้น ใบ เปลือก และราก ของข้าวโพด ปริมาณโพแทสเซียม ในส่วนของเปลือก เมล็ด และรากของข้าวโพด ในปีที่ 3 พบความ แตกต่างของปริมาณอินทรีย์วัตถุ ในส่วนของลำตัน ปริมาณนโตรเจน พบความแตกต่างในส่วนของลำ ตัน ชัง เปลือก เมล็ด และรากข้าวโพด ปริมาณฟ อสฟอรัส พบความแตกต่างในส่วนของลำต้น ใบ ซัง เปลือก และรากของข้าวโพด ปริมาณโพแทสเชียม พบความแตกต่างในส่วนของซัง และรากของข้าวโพด การปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิของปริมาณคาร์บอนที่ถูกกักเก็ลงตินเทียบกับปริมาณคาร์บอนที่ ปลดปล่อยสู่บรรยากาศ พบว่า ปริมาณคาร์บอนสุทธิจะถูปลดปล่อยออกจากระบบในแปลงไถพรวน แบบสมบูรณ์ และแปลงไถพรวนเชิงอนุรักษ์มากกว่าในแปลงไม่ไถพรวน โดยมีค่าเฉลี่ย 4.8627, 4.6119 และ 4.1421 ตันคาร์บอนต่อไร่ต่อปีตามลำดับ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: การปลดปล่อยสุทธิของคาร์บอนจากดิน
คำสำคัญ (EN): various tillage managements
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
พลวัตรของคาร์บอนในดินภายใต้ภายใต้ระบบการไถพรวนดินแบบต่างๆ
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2553
พลวัตรของคาร์บอนในดินภายใต้ระบบการไถพรวนดินแบบต่างๆ ของข้าวโพดในภาคเหนือของประเทศไทย พลวัตรของคาร์บอนในดินภายใต้การไถกลบตอซังข้าวโพดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย การใช้ระบบ Fisheries Map เพื่อการบริหารจัดการข้อมูลเชิงพื้นที่จับสัตว์น้ำ การศึกษาทัศนคติของชาวประมงต่อการใช้ระบบ Vessel Monitoring System (VMS) พลวัตรของคาร์บอนในดินจากการไถกลบตอซังข้าวในประเทศไทย การประยุกต์ใช้ระบบ Vessel Monitoring System (VMS) เพื่อวิเคราะห์สภาวะทรัพยากรและกิจกรรมทำประมงปลาผิวน้ำทางฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย การเลี้ยงปลานิลในกระชังด้วยระบบ LVHD (การเลี้ยงปลานิลแปลงเพศในกระชังด้วยอัตราความหนาแน่นสูง) ศึกษาระบบการไถพรวนดินต่อสมบัติทางกายภาพของดินปลูกอ้อย พลวัตรของคาร์บอนในดินจากการไถกลบตอซังข้าวโพดในภาคตะวันออกของประเทศไทย โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีลดการไถพรวนในระบบการปลูกข้าว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก