สืบค้นงานวิจัย
ปริมาณเชื้อแบคทีเรียในเนื้อฟันผุที่เปลี่ยนแปลงภายหลังการบูรณะฟันกรามน้ำนมด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ 1 ปี
Montha Nithichaiyo - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ปริมาณเชื้อแบคทีเรียในเนื้อฟันผุที่เปลี่ยนแปลงภายหลังการบูรณะฟันกรามน้ำนมด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ 1 ปี
ชื่อเรื่อง (EN): Changes in bacterial counts in carious dentine of primary teeth following glass-ionomer restoration in 1 year
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Montha Nithichaiyo
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน ความส้าเร็จทางคลินิกรวมทั้ง ปริมาณเชื้อแบคทีเรีย ก่อนและหลังการบูรณะด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยเปรียบเทียบการ เปลี่ยนแปลงตามการก้าจัดเนื้อฟันผุ 3 วิธี วิธีการทดลองท้าการสุ่มฟันกรามน้านมที่ผุลึกทั้งหมด 59 ซี่ จากอาสาสมัคร 40 คน (อายุระหว่าง 8-10 ปี) แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 ก้าจัดเนื้อฟันผุถึงระดับ รอยต่อระหว่างเคลือบฟันและเนื้อฟันจ้านวน 20 ซี่ กลุ่มที่ 2 ก้าจัดเนื้อฟันผุจนเนื้อฟันมีลักษณะแข็ง ไม่สามารถตักด้วย ช้อนขูดโพรงผุ ต่อได้อีกจ้านวน 19 ซี่ และกลุ่มที่ 3 ก้าจัดเนื้อฟันผุด้วยหัวกรอ ความเร็วช้าจนหมด(กลุ่มควบคุม) จ้านวน 20 ซี่ จากนั้นท้าการบูรณะด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ ท้าการเก็บตัวอย่างเนื้อฟันผุก่อนและหลังการบูรณะเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อน้ามาวิเคราะห์ปริมาณเชื้อ แบคทีเรียทั้งหมดในสภาวะปราศจากออกซิเจน เชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค และแลคโตบาซิลไล ผลการวิจัยพบว่า ความส้าเร็จทางคลินิกภายหลังการบูรณะเป็นระยะเวลา 1 ปีของทั้ง 3 กลุ่มนั้นไม่ แตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญ (p=0.962) ปริมาณเชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค แลคโตบาซิลไล และ แบคทีเรียทั้งหมด ของทั้ง 3 กลุ่มลดลงอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ โดยกลุ่มที่ 3 มีการลดลงของปริมาณ เชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค และแบคทีเรียทั้งหมดมากกว่ากลุ่มที่ 1 และ 2 อย่างมีนัยส้าคัญ (p<0.05) แต่การลดลงของปริมาณเชื้อเหล่านี้ระหว่างกลุ่มที่ 1 และ 2 นั้นไม่แตกต่างกัน (p>0.05) นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ตัวอย่างเนื้อฟันผุภายหลังการบูรณะทั้งหมด ไม่สามารถตรวจพบเชื้อแลค โตบาซิลไล ดังนั้นการลดลงของปริมาณเชื้อแลคโตบาซิลไลทั้ง 3 กลุ่มจึงไม่แตกต่างกัน (p=0.721) จากผลการศึกษาสรุปว่าไม่มีความแตกต่างของการลดลงของเชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค แลคโต บาซิลไล และแบคทีเรียทั้งหมด ภายหลังการบูรณะด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ เป็นระยะเวลา 1 ปี ระหว่างกลุ่มที่ก้าจัดเนื้อฟันผุถึงระดับรอยต่อระหว่างเคลือบฟันและเนื้อฟัน และกลุ่มที่ก้าจัดเนื้อฟันผุ จนเนื้อฟันมีลักษณะแข็งไม่สามารถตักด้วย ช้อนขูดโพรงผุ ต่อได้อีก ในขณะที่กลุ่มที่ก้าจัดเนื้อฟันผุ ด้วยหัวกรอความเร็วช้าจนหมด จะพบการลดลงของปริมาณเชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค และ แบคทีเรียทั้งหมด มากกว่าอีก 2 กลุ่มข้างต้นอย่างมีนัยส้าคัญ
บทคัดย่อ (EN): 3) conventional treatment (control group, n=20). The carious dentine of each group was then removed by different excavation methods and restored with glass-ionomer cement. The carious dentine was collected by aseptic technique before excavation (initial sample) and after filling with glass-ionomer cement for 1 year (final sample). The samples were processed for microbiological determination of total viable counts (TVC) in anaerobic condition, mutans streptococci (MS) and lactobacilli (LB). The clinical success rates after glass-ionomer restoration by the three methods of caries removal were not different. (p=0.962). All three methods of carious dentine removal significantly reduced the numbers of MS, LB and TVC after filling with glassionomer cement for 1 year (p<0.05). The decreases of MS and TVC in the conventional treatment group were more pronounced than in the others (p<0.05). The decreases of these microorganisms in the carious dentine removal at DEJ level group and ART group were not different (p>0.05). Lactobacilli were not detected in any final sample. Therefore, the decreases of lactobacilli among three groups were not different (p=0.721). There was no significant difference in the decreases of MS, LB and TVC between the carious dentine removal at DEJ level group and the ART group. However, the conventional treatment group showed a significantly larger decrease in counts of MS and TVC than the others, but not for LB.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4393&obj_id=3639
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Tooth Deciduous
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน ความส้าเร็จทางคลินิกรวมทั้ง ปริมาณเชื้อแบคทีเรีย ก่อนและหลังการบูรณะด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยเปรียบเทียบการ เปลี่ยนแปลงตามการก้าจัดเนื้อฟันผุ 3 วิธี วิธีการทดลองท้าการสุ่มฟันกรามน้านมที่ผุลึกทั้งหมด 59 ซี่ จากอาสาสมัคร 40 คน (อายุระหว่าง 8-10 ปี) แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 ก้าจัดเนื้อฟันผุถึงระดับ รอยต่อระหว่างเคลือบฟันและเนื้อฟันจ้านวน 20 ซี่ กลุ่มที่ 2 ก้าจัดเนื้อฟันผุจนเนื้อฟันมีลักษณะแข็ง ไม่สามารถตักด้วย ช้อนขูดโพรงผุ ต่อได้อีกจ้านวน 19 ซี่ และกลุ่มที่ 3 ก้าจัดเนื้อฟันผุด้วยหัวกรอ ความเร็วช้าจนหมด(กลุ่มควบคุม) จ้านวน 20 ซี่ จากนั้นท้าการบูรณะด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ ท้าการเก็บตัวอย่างเนื้อฟันผุก่อนและหลังการบูรณะเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อน้ามาวิเคราะห์ปริมาณเชื้อ แบคทีเรียทั้งหมดในสภาวะปราศจากออกซิเจน เชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค และแลคโตบาซิลไล ผลการวิจัยพบว่า ความส้าเร็จทางคลินิกภายหลังการบูรณะเป็นระยะเวลา 1 ปีของทั้ง 3 กลุ่มนั้นไม่ แตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญ (p=0.962) ปริมาณเชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค แลคโตบาซิลไล และ แบคทีเรียทั้งหมด ของทั้ง 3 กลุ่มลดลงอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ โดยกลุ่มที่ 3 มีการลดลงของปริมาณ เชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค และแบคทีเรียทั้งหมดมากกว่ากลุ่มที่ 1 และ 2 อย่างมีนัยส้าคัญ (p0.05) นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ตัวอย่างเนื้อฟันผุภายหลังการบูรณะทั้งหมด ไม่สามารถตรวจพบเชื้อแลค โตบาซิลไล ดังนั้นการลดลงของปริมาณเชื้อแลคโตบาซิลไลทั้ง 3 กลุ่มจึงไม่แตกต่างกัน (p=0.721) จากผลการศึกษาสรุปว่าไม่มีความแตกต่างของการลดลงของเชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค แลคโต บาซิลไล และแบคทีเรียทั้งหมด ภายหลังการบูรณะด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ เป็นระยะเวลา 1 ปี ระหว่างกลุ่มที่ก้าจัดเนื้อฟันผุถึงระดับรอยต่อระหว่างเคลือบฟันและเนื้อฟัน และกลุ่มที่ก้าจัดเนื้อฟันผุ จนเนื้อฟันมีลักษณะแข็งไม่สามารถตักด้วย ช้อนขูดโพรงผุ ต่อได้อีก ในขณะที่กลุ่มที่ก้าจัดเนื้อฟันผุ ด้วยหัวกรอความเร็วช้าจนหมด จะพบการลดลงของปริมาณเชื้อมิวแทนส์ สเตร็ปโตคอคไค และ แบคทีเรียทั้งหมด มากกว่าอีก 2 กลุ่มข้างต้นอย่างมีนัยส้าคัญ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ปริมาณเชื้อแบคทีเรียในเนื้อฟันผุที่เปลี่ยนแปลงภายหลังการบูรณะฟันกรามน้ำนมด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ซีเมนต์ 1 ปี
Montha Nithichaiyo
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
ชั้นที่ต้านทานต่อกรดและปริมาณฟลูออไรด์ในเนื้อฟันภายหลังการบูรณะด้วยวัสดุที่ปลดปล่อยฟลูออไรด์ชนิดต่าง ๆ ผลของการเคลือบฟันกรามแท้ซี่ที่สองที่ขึ้นเพียงบางส่วนด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ต่อเชื้อมิวแทนส์ สเตรปโตคอคไค และฟลูออไรด์ในแผ่นคราบจุลินทรีย์ การศึกษาทางโครงสร้างจุลภาคและองค์ประกอบทางเคมีของเนื้อฟันที่ผุในฟันน้ำนม การพัฒนายาเม็ดเคี้ยวจากสารสกัดใบฝรั่งในการยับยั้งฟันผุสาเหตุจากเชื้อ streptococcus mutans และแบคทีเรียในช่องปาก อาการปวดฟันจากความดันของของเหลวในฟันที่มีเนื้อเยื่อในที่ปกติและอักเสบ การศึกษาความเท่าเทียมทางคลินิคระหว่างวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันที่ผลิตในประเทศและวัสดุเคลือบหลุ่มร่องฟันที่นำเข้านนฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่งในภาวะภาคสนาม เชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร และสเตร็ปโตคอคคัส ไพโอจีน ในคราบจุลินทรีย์ของเด็กที่มีฟันผุลุกลาม การใช้เทคนิคการจาลองแบบเพื่อศึกษาสภาพซึมผ่านได้ของเนื้อฟันในฟันน้ำนม การตรวจสอบปริมาณไซยาโนแบคทีเรียไมโครซิสติส แอรูจิโนซาและสารชีวพิษขอ ความแตกต่างของขนาดของฟันระหว่างขากรรไกรบนและขากรรไกรล่างกับลักษณะการสบฟันแบบที่ 1, 2, 3 ในคนไทยกลุ่มหนึ่ง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก