สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาปัจจัยส่งเสริมต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของแมลงพาหะนำโรคใบขาวอ้อยเพื่อใช้ในการป้องกันกำจัด
ยุพา หาญบุญทรง - สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
ชื่อเรื่อง: การศึกษาปัจจัยส่งเสริมต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของแมลงพาหะนำโรคใบขาวอ้อยเพื่อใช้ในการป้องกันกำจัด
ชื่อเรื่อง (EN): Studies on the factors enhancing sugarcane white leaf diease vector growth and fecunity for its control strategies
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ยุพา หาญบุญทรง
บทคัดย่อ: ผลของปัจจัยทางชีวภาพและกายภาพต่อการเจริญเติบโตและการแพร่ขยายพันธุ์ของแมลงพาหะ Matsumuratettix hiroglyphicus (Matsumura) ได้แก่ 1) สัณฐานวิทยาของพืชอาหาร 2) ชนิดพืชของอาหาร 3) เชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคใบขาวอ้อย 4) ความหนาแน่นของแมลงพาหะและ 5) ลักษณะดินต่อการวางไข่และการฟักไข่ของแมลงพาหะผล 1)การศึกษาสัณฐานวิทยาของอ้อยพืชอาหารที่ลักษณะทรงพุ่มและอ้อยลำต้นเดี่ยวต่อการ เจริญเติบโตของแมลงพาหะ พบว่าแมลงพาหะที่ดูดกินต้นอ้อยทรงพุ่มและลำต้นเดี่ยวของอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 ไม่มีผลความแตกต่างต่อการเจริญเติบโต มีระยะเวลาการพัฒนาจากระยะไข่จนถึงตัวเต็มวัย 68 - 69 วัน และมีอัตราการรอดชีวิตสูง คือ 80 - 82.5 เปอร์เซ็นต์ 2).การศึกษาชนิดพืชอาหารต่อการเจริญเติบโตของแมลงพาหะ บนวัชพืชชนิดต่างๆจากแปลงอ้อย ให้แมลงดูดกินและวัดการเจริญเติบโต การรอดชีวิต และวัดการดูดกินของแมลงด้วยเครื่องตรวจวัดการดูดกินด้วยกระแสไฟฟ้าพบว่า ตัวเต็มวัยมีระยะเวลาอยู่รอดนานที่สุดในต้นอ้อยเฉลี่ย 45.66 วัน และใช้เวลาสั้นๆในการดูดกินชั้นเนื้อเยื่ออื่นที่ไม่ใช่ท่อลำเลียงอาหาร (non-phloem) แตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่งกับพืชชนิดอื่นที่แมลงสามารถอยู่รอดได้มากสุด 4 - 7 วัน และแมลงใช้ระยะ เวลาในการดูดกินชั้นเนื้อเยื่ออื่นที่ไม่ใช่ท่อลำเลียงอาหาร (non-phloem) นาน ดังนั้นยังไม่พบพืชอาหารชนิดอื่นที่แมลงพาหะสามารถอยู่รอดได้จนครบวงจรชีวิตนอกจากอ้อยซึ่งเป็นพืชอาหารหลัก 3).การศึกษาผลของเชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคใบขาวอ้อยต่อการเจริญเติบโตของแมลงพาหะ โดยเลี้ยงแมลงในอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 ที่มีเชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคใบขาวอ้อยที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการใบขาว และอ้อยปลอดเชื้อไฟโตพลาสมา พบว่าการพัฒนาการเจริญเติบโตของตัวอ่อนเป็นตัวเต็มวัยบนต้นอ้อยที่มีเชื้อไฟโตพลาสมาใช้ระยะเวลาเร็วกว่าอ้อยปลอดเชื้อ คือ 13 - 14 วัน ในขณะที่อ้อยปลอดเชื้อใช้เวลา 16 วัน และผลการดูดกินของแมลง พบว่าแมลงมีระยะเวลาที่ดูดกินในชั้นท่อลำเลียงอาหาร (phloem) ในอ้อยมีเชื้อไฟโตพลาสมาที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการใบขาว และต้นอ้อยปลอดเชื้อ ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติเช่นกัน 4)การศึกษาความสัมพันธ์ของความหนาแน่นของแมลงพาหะต่อความรุนแรงของการเกิดโรคใบขาวของอ้อย โดยนำแมลงรับเชื้อไฟโตพลาสมาบนต้นอ้อยที่เป็นโรคใบขาว 24 ชั่วโมง บ่มเชื้อในตัวแมลงบนต้นอ้อยปลอดเชื้อ 21 วัน และถ่ายทอดเชื้อบนอ้อยปลอดเชื้อ 24 ชั่วโมง ทดสอบความหนาแน่นของแมลงจำนวน 1,5, 10 และ 20 ตัวต่อต้น วัดปริมาณเชื้อไฟโตพลาสมาด้วยวิธี real-time PCR หลังการถ่ายทอดเชื้อ 30, 60 และ 90 วัน พบว่า ต้นอ้อยที่มีความหนาแน่นของแมลงพาหะจำนวน 20 ตัวต่อต้น มีจำนวนเชื้อมากที่สุดทั้ง 30, 60 และ 90 วัน คือ 1137.38, 3,216.63, และ 3942.75เซลล์ของเชื้อไฟโตพลาสมาต่อไมโครกรัมของดีเอ็นเอพืช ตามลำดับ ดังนั้นความหนาแน่นของประชากรแมลงพาหะมีผลโดยตรงที่ทำให้จำนวนเชื้อไฟโตพลาสมาเพิ่มขึ้นและเกิดโรคมากขึ้น และ5) การศึกษาผลของลักษณะดินต่างๆได้แก่ดินทราย ดินร่วน ดินเหนียวและดินปลูกต่อการวางไข่และการฟักไข่ของแมลงพาหะ พบว่า แมลงวางไข่ในดินทรายมากที่สุด 51.42 ฟองต่อตัว แตกต่างทางสถิติจากดินชนิดอื่น ระยะเวลาวางไข่ 14.68 วัน อัตราการฟัก 94.73 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในดินเหนียวแมลงวางไข่น้อยที่สุด 34.70ฟองต่อตัว อัตราการฟักของไข่คือ 84.50 เปอร์เซ็นต์ และมีระยะก่อนวางไข่ที่ยาวนานที่สุดแตกต่างทางสถิติกับทุกชนิดดิน คือ 10.05 วัน ดังนั้นดินเหนียวไม่มีความเหมาะสมต่อการวางไข่ของแมลงพาหะ การศึกษาผลของปัจจัยทางชีวภาพและกายภาพต่อการเจริญเติบโตและการแพร่ขยายพันธุ์ ของแมลงพาหะสามารถใช้เป็นข้อมูลในการจัดการสภาพแวดล้อมให้ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการแพร่ระบาดของแมลงพาหะเพื่อลดการเกิดโรคใบขาวต่อไป
บทคัดย่อ (EN): This study was to investigate biotic and abiotic factors affecting the growth rate and development of leafhopper vector Matsumuratettix hiroglyphicus (Matsumura) including 1) The effect of different sugarcane morphological characters on the growth rate of the leafhopper vector 2) Investigation the host plant species for the leafhopper vector 3) The effect of phytoplasma on the growth rate of the leafhopper vector 4) Density of the leafhopper vector on the severity of white leaf symptom and 5) Soil condition on egg laying and hatching of insect vector. The results of theses studies as 1) The morphological characters both of bushy and single shapes from the same sugarcane variety have no effect on the growth rate and development stage of the leafhopper vector. The results showed that development time from eggs to adults was about 68 - 69 days. The insect has high survival rates at 80 - 82.5 %. 2). Variety of plant species which collected from sugarcane field were tested for growth and survival rate of leafhopper vector compared with sugarcane plant (positive control) and no plant (negative control). The results found that the leafhopper vector can complete their life cycle on sugarcane plant at 45.66 days. While, the leafhopper vector can survival only very short time about 4-7 days on a few plant species. The feeding behavior of leafhopper vector on other plant species was tested by using the Electropenetrography compared with the sugarcane. The results showed that leafhopper vector spent long feeding duration on the non-phloem cells of other plant speies while insect spent long feeding duration on the phloem of sugarcane plant. 3).The effect of SCWL phytoplasma on growth rate and development of leafhopper vector, the results showed that the infected sugarcane, show and not show symptom was effected to the development of nymph stage leafhopper faster than healthy sugarcane. Moreover, the leafhoppers were reared on a healthy plant or disease-free sugarcane has the highest reproductive rate at 21.83 more than infected SCWL disease plants. This consistent with the study of leafhopper feeding behavior with EPG technique was also not significantly different. 4). The effect of leafhopper vector density on the severity of white leaf symptom was investigated by feeding insect 1,5, 10 and 20 insects per plant. All test plants were tested at 30 60 and 90 days after transmitted for sugarcane white leaf (SCWL) phytoplasma by using real-time PCR. The numbers of SCWL phytoplasma cells were highest in sugarcane plants that were transmitted by 20 adult leafhoppers per plant after transmitted at 30 60 and 90 days (1137.38, 3,216.63 and 3942.75 cells/?g of plant DNA, respectively). Thus, the high density of leafhopper vector was directly effect to the number of SCWL phytoplasma cells and severity of white leaf symptom and disease. 5). Different soil condition has effected on egg laying and hatching of leafhopper vector. The leafhopper laid eggs highest significantly different on sandy soil about 51.42 per one female than other soil condition while lower on clay soil was 34.70 per one female. Therefore, the clay soil is suitable for growing the sugarcane will help to reduce the egg laying of the leafhopper vector. Therefore, affecting of the biological and physical factors to the growth and development of insect vector can be used as guideline for management insect vectors population to reduce the prevalence of insect vectors and the white leaf disease epidemic
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://elibrary.trf.or.th/project_content.asp?PJID=RDG60T0159
เผยแพร่โดย: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
คำสำคัญ: เชื้อไฟโตพลาสมา
คำสำคัญ (EN): phytoplsama
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาปัจจัยส่งเสริมต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของแมลงพาหะนำโรคใบขาวอ้อยเพื่อใช้ในการป้องกันกำจัด
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
2562
เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การส่งเสริมการเจริญเติบโตของอ้อยด้วยแบคทีเรียละลายฟอสเฟต ในสภาพเรือนทดลอง ผลของปุ๋ยยูเรียทางใบต่อการเจริญเติบโตของมะกรูด ผลของการเก็บรักษาไรแดงต่อการเจริญเติบโตของปลา ผลของปุ๋ยยูเรียทางใบต่อการเจริญเติบโตของดอกชมจันทร์ การตอบสนองของพันธุ์ถั่วเขียวต่อการให้น้ำต่างระดับ : การเจริญเติบโตของต้น แนวทางการควบคุมโรคใบขาวอ้อยโดยการใช้เชื้อแบคทีเรียร่วมอาศัย ในแมลงพาหะ ผลการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตข้าว ผลของไคโตซานต่อการเจริญเติบโตของปลาหมอ ผลของวัสดุปลูกต่อการเจริญเติบโตของข่า
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก