สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับและความยั่งยืนของการผลิตผักสดที่ผ่านมาตรฐานการผลิตทางการเกษตรดีที่เหมาะสมในเขตภาคเหนือตอนบน
จำเนียร บุญมาก - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับและความยั่งยืนของการผลิตผักสดที่ผ่านมาตรฐานการผลิตทางการเกษตรดีที่เหมาะสมในเขตภาคเหนือตอนบน
ชื่อเรื่อง (EN): Factor Affecting on Adoption and Sustainability Analysis of Fresh Vegetable Meeting Good Agricultural Practice (GAP) Standard in the Upper Northern of Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จำเนียร บุญมาก
ผู้ร่วมงาน / ผู้ร่วมวิจัย: พัชรินทร์ สุภาพันธ์
คำสำคัญ:
บทคัดย่อ: การศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับมาตรฐานการรับรองตามการผลิตทางการเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ของเกษตรกรผู้ผลิตผักในเขตภาคเหนือตอนบน ด้วยแบบจำลองทางเลือกตามลำดับ (Ordered probit model) และวิเคราะห์ความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ของเกษตรกรผู้ผลิตผักตามมาตรฐานการรับรองการผลิตทางการเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) โดยใช้ดัชนีความยั่งยืน กลุ่มเกษตรกรตัวอย่างถูกสุ่มโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบลำดับชั้นจากอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน และครัวเรือนเกษตรกร ตามฐานข้อมูลของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 และข้อมูลถูกเก็บรวบรวมโดยการสัมภาษณ์ด้วยแบบสอบถามจากเกษตรกรผู้ผลิตผัก GAP 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกะเพรา โหระพา กลุ่มผักพริกหวาน และกลุ่มมะเขือม่วง จำนวน 58 ครัวเรือน ส่วนกลุ่มผัก GAP อื่นๆ (มะเขือยาว มะเขือเปราะ มะระจีน มะระขี้นก ผักชีฝรั่ง ถั่วฝักยาว และผักตระกูลกะหล่ำ) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 138 ครัวเรือน เชียงราย จำนวน 50 ครัวเรือน ลำพูน จำนวน 95 ครัวเรือน และลำปาง 100 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 383 ครัวเรือน ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยสัดส่วนการใช้เงินทุนตนเองในการผลิตผัก GAP สัดส่วนการใช้เงินกู้ยืมในการผลิตผักฯ ความหลากหลายของชนิดผักฯ ราคาเหมาะสมต่อปริมาณผักฯ การให้ความรู้ความปลอดภัยของการบริโภคผักฯ ของหน่วยงานภาคเอกชน ทัศนคติที่มีต่อการผลิตผักตามมาตรฐาน GAP การเป็นสมาชิกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร การเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกร การเป็นสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจ และการเป็นสมาชิกกลุ่มอื่นๆ ส่งผลให้การยอมรับมาตรฐานการรับรองตามการผลิตทางการเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ในระดับมากมีโอกาสความน่าจะเป็นเพิ่มขึ้น ขณะที่อายุ ระดับการศึกษาของเกษตรกร ความสดใหม่ของผลผลิตผักฯ การให้ความรู้ความปลอดภัยของการบริโภคผักฯ ของหน่วยงานภาครัฐ การเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน และระดับความ พึงพอใจของการเข้ารับการอบรมความรู้มาตรฐาน GAP มีผลให้การยอมรับการปฏิบัติฯ ระดับมากลดลง จากการพิจารณาค่าผลกระทบส่วนเพิ่ม (Marginal effect) นอกจากนี้ระดับการยอมรับการปฏิบัติการผลิตผักตามข้อกำหนด GAP มาจาก 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการสุขลักษณะแปลงผัก การจัดการเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตร การจัดการปัจจัยการผลิต การปฏิบัติและการควบคุม และการบันทึกและควบคุมเอกสาร ซึ่งอยู่ในระดับเหมาะสมมาก ด้วยคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 1.70 โดยการใช้มาตรวัดของลิเคิร์ท โดยเฉพาะด้านการจัดการสุขลักษณะแปลงผัก มีระดับคะแนนมากที่สุด สำหรับการสร้างตัวชี้วัดความยั่งยืน (CIAS) ด้านเศรษฐศาสตร์ สังคม และสิ่งแวดล้อม จากการพิจารณาปัจจัยร่วม พบว่า ตัวชี้วัดแต่ละด้าน ประกอบด้วย 2 2 และ 1 ด้าน ได้แก่ การจำหน่ายผลผลิตผัก GAP ความหลากหลายแหล่งรายได้ของเกษตรกรผู้ผลิตผัก GAP ความมั่นคงการประกอบอาชีพการเกษตร และชั่วโมงทำงานของแรงงานผลิตผัก GAP และดัชนีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตามลำดับ อยู่ในเกณฑ์น้อยควรทำการปรับปรุง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเกษตรกรยังมีการผลิตผักตามมาตรฐาน GAP ไม่แพร่หลาย และมีการปฏิบัติตามมาตรฐานฯ ไม่เข้มงวดมากนัก อีกทั้งการผลิตผัก GAP เป็นเพียงการปลูกเป็นพืชรองจากการปลูกพืชหลัก อย่างไรก็ตามควรมีการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาขยายการผลิตผักตามมาตรฐานการรับรอง GAP ให้กว้างขวางอันนำสู่การตอบสนองต่อความต้องการของตลาด
บทคัดย่อ (EN): The objectives of this study were to analyze factor affecting on adoption related to Good Agricultural Practices (GAP) standard of farmers who produced GAP vegetables in the upper north by means of ordered probit model and to analyze Composite Indicators of Agricultural Sustainability (CIAS) from economic, social, and environmental indexes. The samples of this study were randomized by means of stratified random sampling from districts, sub-districts, communities to GAP farmer households according to database of the Office of Agricultural Research and Development Region 1 (OARD 1). Data were collected in the form of interviews with questionnaires from farmers who produced basil and sweet basil group, bell-pepper group, purple eggplant group, and other GAP vegetable group (long and small eggplants, bitter gourd, parsley, cowpea, cabbage, and cauliflower) divided into 138 households in Chiang Mai, 50 households in Chiang Rai, 95 households in Lamphun, and 100 households in Lampang provinces. It could be concluded that the proportion between own and loan to produce GAP vegetables, variety of GAP vegetables, suitable prices on quantities, safety knowledge of GAP vegetable consumption by private agencies, attitude on GAP vegetable production, members of Bank for Agriculture and Agricultural Cooperatives, members of farmer groups, members of community enterprises, and members of other groups had influence on adoption in a very suitable level with the high probability of occurrence while age, education of the farmers, freshness of GAP vegetables, safety knowledge of GAP vegetable consumption by government agencies, members of village funds, and adoption level of practices according to GAP requirements had influence on decreased adoption in a very suitable level with the probability of occurrence from marginal effect values. Furthermore, the practices related to GAP vegetable production of farmers was consistent at a very suitable level of the average of 1.70 according to likert scales in 5 practices which were hygienic practice management in the fields, agricultural tool management, input management, practice and control, and recording and controlling documents. According to the creation of CIAS, CIAS consisted of economic, social, and environmental indexes. Each index was analyzed by the component factors. It was found that the component factors were divided into 2, 2, and 1, respectively. It indicated that the component factors of economic index were sales of GAP vegetables and variety of income sources of the farmers and that of social index were agricultural career security and working hours of labors to produce GAP vegetables. Moreover, the component factor of environmental index was environmental conservation index. These indexes led to the CIAS index that was less value. It indicated that although the farmers remained GAP vegetable production, the production was not widespread and was not strict according to GAP standard. After, the farmers have already produced the based cropping system, the GAP vegetable production was produced as the minor cropping system. However, the GAP vegetable production should be improved to develop expansion path of GAP vegetable production broadly, resulting in demand correspondence
แผนยุทธศาสตร์งานวิจัย – ระดับกระทรวง: คณะบริหารธุรกิจ
เลขทะเบียนวิจัยกรม: มจ.1-59-063
ชื่อแหล่งทุน: งบประมาณแผ่นดินมหาวิทยาลัยแม่โจ้
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2559
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2559
เอกสารแนบ: http://researchex.rae.mju.ac.th/research60/library/ab/MJU1-59-063.pdf
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับและความยั่งยืนของการผลิตผักสดที่ผ่านมาตรฐานการผลิตทางการเกษตรดีที่เหมาะสมในเขตภาคเหนือตอนบน
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2559
เอกสารแนบ 1
การศึกษาระบบการผลิตและความยั่งยืนของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ในเขตภาคเหนือตอนบน สถานการณ์เชื้อจุลินทรีย์อีโคไลและซัลโมเนลลาในผักจากแปลง เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน การวิเคราะห์มูลค่าทางเศรษฐกิจและระบบการผลิตที่เหมาะสมของผักที่ผ่านมาตรฐานการรับรองตามระบบการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) สู่เกษตรอินทรีย์ในภาคเหนือตอนบน การยอมรับเทคโนโลยีการผลิตกระเจี๊ยบเขียวเพื่อการส่งออกของเกษตรกรในเขตภาคเหนือตอนบน แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรเพื่อให้เกิดความยั่งยืนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยเกษตรอินทรีย์กรณีศึกษา เกษตรกรผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ในจังหวัดเชียงใหม่ ประสิทธิภาพการผลิตลำไยของเกษตรกรในเขตภาคเหนือตอนบน การวิเคราะห์ระบบตลาดผักที่ผ่านมาตรฐานการรับรองตามระบบการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) สู่เกษตรอินทรีย์ในภาคเหนือตอนบน ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคต่อผักที่ผ่านมาตรฐานการรับรองตามระบบปฏิบัติ การทางการเกษตรที่ดี (GAP) สู่เกษตรอินทรีย์ในภาคเหนือตอนบน การวิเคราะห์ความยั่งยืนของระบบเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่: การปลูกยางพาราเป็นพืชหนึ่งในระบบ การศึกษาเปรียบเทียบการปลูกกัญชงทดแทนข้าวโพดในเขตพื้นที่สูงของภาคเหนือตอนบน

แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก