สืบค้นงานวิจัย
การเพิ่มผลิตภาพของดินเปรี้ยวจัดตามกลุ่มชุดดินเพื่อเพิ่มผลผลิตแลคุณภาพปาล์มน้ำมัน
ชูจิตต์ สงวนทรัพยากร - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มผลิตภาพของดินเปรี้ยวจัดตามกลุ่มชุดดินเพื่อเพิ่มผลผลิตแลคุณภาพปาล์มน้ำมัน
ชื่อเรื่อง (EN): Acid sulphate soil group management for oil palm quality and productivity
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ชูจิตต์ สงวนทรัพยากร
บทคัดย่อ: ทำการทดลอง ปลูกปาล์มน้ำมัน พันธุ์สุราษฎร์ธานี 2 กลุ่มชุดดินที่ 10 ชุดดินองครักษ์ จังหวัด นครนายก และจังหวัดปทุมธานี กลุ่มชุดดินที่ 11 ชุดดินรังสิต วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design 4 ตำรับๆ ละ 6 ซ้ำ ประกอบด้วย ตำรับที่ 1(T1) แปลง ควบคุม (ไม่ใส่ปูนและปุ๋ย) ตำรับที่ 2(72) ใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ (กรมวิชาการเกษตร) ตำรับที่ 3(T3) ใส่ปุ๋ย อัตราแนะนำ และใส่ปูนตามความต้องการปูน(LR) ตำรับที่ 4(T4) ใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ และใส่ปูนตาม ความต้องการปูน(LR) และน้ำหมักชีวภาพ พด.2 ดำเนินการในปีพ.ศ. 2548-2552 โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน ที่ระดับความลึก 0-15, 15-30 และ 30- 60 เซนติเมตร และศึกษาแนวทางการจัดการดินที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ปลูกในพื้น ที่ดินเปรี้ยวจัดภาคกลาง ผลการทูดลอง พบว่า กลุ่มชุดดินที่ 10 ชุดดินองครักษ์ (Ok) จังหวัดนครนายก ปฏิกิริยาของดินที่ระดับความลึก 0- 15 ซม. ทุกตำรับมีแนวโน้มสูงขึ้น พิสัย 4.3-4.7 เป็นกรดจัดมาก และสูงกว่าดินที่ระดับความลึก 15-30 และ 30-60 ซม. ปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีแนวโน้มสูงขึ้น พิสัย 1.92-2.15 % อยู่ในระดับปานกลาง มีปริมาณใกล้เคียงกับดินระดับล่าง ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ทุกระดับความลึกมีแนวโน้ม ลดลง อยู่ในระดับต่ำ ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ แมกนีเซียมที่สกัดได้ และซัลเฟอร์ที่สกัดๆ ได้ อยู่ในระดับสูงมาก ปริมาณแคลเซียมที่สกัดได้ จัดอยู่ในระดับต่ำ มีแนวโน้มลดลง ในตำรับที่ 1 ทำการทดลอง ปลูกปาล์มน้ำมัน พันธุ์สุราษฎร์ธานี 2 กลุ่มชุดดินที่ 10 ชุดดินองครักษ์ จังหวัด นครนายก และจังหวัดปทุมธานี กลุ่มชุดดินที่ 11 ชุดดินรังสิต วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design 4 ตำรับๆ ละ 6 ซ้ำ ประกอบด้วย ตำรับที่ 1(T1) แปลง ควบคุม (ไม่ใส่ปูนและปุ้ย) ตำรับที่ 2(72) ใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ (กรมวิชาการเกษตร) ตำรับที่ 3(T3) ใส่ปุ๋ย อัตราแนะนำ และใส่ปูนตามความต้องการปูน(LR) ตำรับที่ 4(T4) ใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ และใส่ปูนตาม ความต้องการปูน(LR) และน้ำหมักชีวภาพ พด.2 ดำเนินการในปีพ.ศ. 2548-2552 โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน ที่ระดับความลึก 0-15, 15-30 และ 30- 60 เซนติเมตร และศึกษาแนวทางการจัดการดินที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ปลูกในพื้น ที่ดินเปรี้ยวจัดภาคกลาง ผลการทูดลอง พบว่า กลุ่มชุดดินที่ 10 ชุดดินองครักษ์ (Ok) จังหวัดนครนายก ปฏิกิริยาของดินที่ระดับความลึก 0- 15 ซม. ทุกตำรับมีแนวโน้มสูงขึ้น พิสัย 4.3-4.7 เป็นกรดจัดมาก และสูงกว่าดินที่ระดับความลึก 15-30 และ 30-60 ซม. ปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีแนวโน้มสูงขึ้น พิสัย 1.92-2.15 % อยู่ในระดับปานกลาง มีปริมาณใกล้เคียงกับดินระดับล่าง ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ทุกระดับความลึกมีแนวโน้ม ลดลง อยู่ในระดับต่ำ ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ แมกนีเซียมที่สกัดได้ และซัลเฟอร์ที่สกัดๆ ได้ อยู่ในระดับสูงมาก ปริมาณแคลเซียมที่สกัดได้ จัดอยู่ในระดับต่ำ มีแนวโน้มลดลง ในตำรับที่ 1 ทำการทดลอง ปลูกปาล์มน้ำมัน พันธุ์สุราษฎร์ธานี 2 กลุ่มชุดดินที่ 10 ชุดดินองครักษ์ จังหวัด นครนายก และจังหวัดปทุมธานี กลุ่มชุดดินที่ 11 ชุดดินรังสิต วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design 4 ตำรับๆ ละ 6 ซ้ำ ประกอบด้วย ตำรับที่ 1(T1) แปลง ควบคุม (ไม่ใส่ปูนและปุ๋ย) ตำรับที่ 2(72) ใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ (กรมวิชาการเกษตร) ตำรับที่ 3(T3) ใส่ปุ๋ย อัตราแนะนำ และใส่ปูนตามความต้องการปูน(LR) ตำรับที่ 4(T4) ใส่ปียอัตราแนะนำ และใส่ปูนตาม ความต้องการปูน(LR) และน้ำหมักชีวภาพ พด.2 ดำเนินการในปีพ.ศ. 2548-2552 โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน ที่ระดับความลึก 0-15, 15-30 และ 30- 60 เซนติเมตร และศึกษาแนวทางการจัดการดินที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ปลูกในพื้น ที่ดินเปรี้ยวจัดภาคกลาง ผลการทูดลอง พบว่า กลุ่มชุดดินที่ 10 ชุดดินองครักษ์ (Ok) จังหวัดนครนายก ปฏิกิริยาของดินที่ระดับความลึก 0- 15 ซม. ทุกตำรับมีแนวโน้มสูงขึ้น พิสัย 4.3-4.7 เป็นกรดจัดมาก และสูงกว่าดินที่ระดับความลึก 15-30 และ 30-60 ซม. ปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีแนวโน้มสูงขึ้น พิสัย 1.92-2.15 % อยู่ในระดับปานกลาง มีปริมาณใกล้เคียงกับดินระดับล่าง ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ทุกระดับความลึกมีแนวโน้ม ลดลง อยู่ในระดับต่ำ ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ แมกนีเซียมที่สกัดได้ และซัลเฟอร์ที่สกัดๆ ได้ อยู่ในระดับสูงมาก ปริมาณแคลเซียมที่สกัดได้ จัดอยู่ในระดับต่ำ มีแนวโน้มลดลง ในตำรับที่ 1 และตำรับที่ 2 ที่ไม่มีการใส่ปูน ส่วนตำรับที่ 3 และตำรับที่ 4 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับปริมาณ อะลูมินัมแลกเปลี่ยนได้ จัดอยู่ในระดับสูงมาก วิเคราะห์ใบปาล์มน้ำมัน อายุ 30, 36 และ 42 เดือน ทางใบที่ 3, 7 และ 9 วิเคราะห์ปริมาณ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม และแมกนีเชียม พบว่า ปริมาณไนโตรเจนทั้งหมด มี เพียงพอ ยกเว้นตำรับที่ 1 ปริมาณฟอสฟอรัสและแคลเซียมทั้งหมดมีไม่เพียงพอ ปริมาณ โพแทสเชียมทั้งหมดในปาล์มน้ำมันอายุ 30 เดือน มีเพียงพอ เมื่ออายุมากขึ้นมีไม่เพียงพอ ส่วน ปริมาณแมกนีเซียมทั้งหมดมีเพียงพอแต่มีแนวโน้มจะลดลง ผลผลิตของปาล์มน้ำมันที่ปลูกในชุดดินองครักษ์ เริ่มเก็บผลผลิตได้ในปีที่ 4 มีจำนวนทะลาย ปาล์มอยู่ในพิสัย 11.70-16.40 ทะลายต้นน้ำหนักสด 2.00-3.50 กก.ทะลาย ตำรับที่ใส่ปูนให้ ผลผลิตสูงกว่าตำรับที่ไม่ใส่ปูน โดยที่ตำรับที่ใส่ปัยเคมี+ปูน+น้ำหมักชีวภาพ พด. 2 ให้ผลผลิตสูงสุด (1440 กิโลกรัม/ไร่) รองลงมา ได้แก่ ตำรับที่ใส่ปุ๋ยเคมี+ปูน (1160 กิโลกรัม/ไข่) ตำรับที่ใส่ปุ๋ยเคมี (960 กิโลกรัม/ไร่) และตำรับควบคุม (580 กิโลกรัม/ไร่) ตามลำดับ กลุ่มชุดดินที่ 11 ชุดดินรังสิต (Rs) จังหวัดปทุมธานี ปฏิกิริยาของดินที่ระดับความลึก 0-15 ซม. ก่อนการทดลอง เป็นกรดรุนแรงมากถึงกรดจัด pH 3.9-5.2 เมื่อมีการหว่านปูนมาร์ลอัตรา 950 กิโลกรัม/ไร่ ปฏิกิริยาดิน ทุกตำรับปรับยกสูงขึ้น พิสัย 4.6-6.5 เป็นกรดจัดมากถึงกรดจัด และปรับสูง กว่าดินที่ระดับความลึก 15-30 และ 30-60 ซม. ปริมาณอินทรียวัตถุในดินสูงขึ้น พิสัย 2.28-3.88 % อยู่ในระดับปานกลางถึงสูงใกล้เคียงกับดินระดับล่าง ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ก่อนการ ทดลองอยู่ในระดับสูงมาก (P 374-657) เปลี่ยนแปลงอยู่ในพิสัย 127-1638 และดินบนมีปริมาณสูง กว่าดินล่าง ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ แมกนีเซียมที่สกัดได้ และซัลเฟอร์ที่สกัดๆได้ อยู่ใน ระดับสูงมาก ปริมาณแคลเซียมที่สกัดได้ จัดอยู่ในระดับสูงในดินระดับบน และลดลงในระดับล่ง ตามลำดับ สำหรับปริมาณอะลูมินัมแลกเปลี่ยนได้ มีมากในดินระดับล่าง ผลวิเคราะห์ใบปาล์มน้ำมันที่ปลูกในชุดดินรังสิต พบว่ ปาล์มอายุ 30 เดือน มีปริมาณ ไนโตรเจนและแคลเชียมในระดับเหมะสม ส่วนปริมาณฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และแมกนีเชียมไม่ พอเพียง สำหรับปาล์มอายุ 36 และ 42 เดือน มีปริมาณนโตรเจนในระดับเหมาะสม ปาล์มน้ำมันที่ปลูกในชุดดินรังสิตเริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 3 พบว่ ตำรับที่ใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ+ ปูน+น้ำหมักชีวภาพ พด.2 ให้ผลผลิตสูงสุด (น้ำมันสด 847.68 กิโลกรัม/ไร่) รองลงมา ได้แก่ ตำรับใส่ ปุ๋ยอัตราแนะนำ+ปูน+ผัก (630.17 กิโลกรัมไข่ ตำรับที่ใส่ปูนอย่างเดียว (592.56 กิโลกรัม/ไข่) และ ตำรับที่ใส่ปุ้ยอัตราแนะนำของกรมวิชาการเกษตร+ปูน (532.84 กิโลกรัม/ไร่) ตามลำดับ อย่างไรก็ ตาม พบว่ในปีที่ 4 ผลผลิตของปาล์มน้ำมันสูงขึ้นจากปีที่ 3 ประมาณ 5-7 เท่า โดยตำรับที่ใส่ปุ้ยอัตรา แนะนำ+ปูน+น้ำหมักชีวภาพ พด.2 ให้ผลผลิตสูงสุด (4,692.00 กิโลกรัมไข่) รองลงมาได้แก่ ใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำของกรมวิชาการเกษตร+ปูน (3,947.00 กิโลกรัม/ไร่) ใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำของกรมวิชาการ เกษตร+ปูน+ผัก (3,615.00 กิโลกรัม/ไร่) และ ตำรับที่ใส่ปูนอย่างเดียว (2,892.00 กิโลกรัม/ไร่) ตามลำดับ แนวทางในการปรับปรุงผลิตภาพของดินเปรี้ยวจัดเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันให้ได้ผลผลิตสูง ในดิน เปรี้ยวจัดภาคกลาง จำเป็นต้องใช้ปูนโดโลไมท์เพื่อเพิ่มธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียม และช่วยปรับ ระดับปฏิกิริยาดินให้เหมาะสม เพื่อธาตุอาหารพืชโดยเฉพาะฟอสฟอรัสละลายออกมาเป็นประโยชน์ต่อ พืช และลดความเป็นพิษของเหล็ก อะลูมินัม และซัลเฟอร์ เพื่อไม่ให้เกิดการตรึงฟอสฟอรัสในดิน
บทคัดย่อ (EN): A study on increasing the quality of acid sulphate soils upon soil series groups oilpalm production (Suratthani No. 2) was carried out on the soil group No. 10 (Ok series) and soil group No. 11 (Rs series) during 2005-2009. The experimental plots were arranged on RCBD in four treatments with six replicates : which T1: control (no liming and no fertilization) T2: fertilizer from the recommendation of DOA T3: fertilizer and liming and T4: fertilizer + liming + liquid bio-fertilizer (LDD-2). The objectives of this study are to examine the changes of chemical properties at 0- 15 , 15-30 and 30-60 cm. and to evaluate the management obtaining the optimum yield of oil-palm production in acid sulphate soils in central region. Soil reaction for the soil group No. 10 was extremely acid with pH ranging from 4.3- 4.7 whereas the surface soil had more acid than sub soils. The soils of all treatments have organic matter content ranging from 1.92-2.15 % which were consistent in all depths. Available P content was low and decreased with depth whereas the available K, extractable Mg, extractable S and exchangeable Al contents were very high. The plant analysis was done for N, P, K, Ca and Mg on oil-palm leaves at the age of 30 , 36 and 42 months where the leaves were collected at the position of 3 , 7 and 9. The results shored that total amount of N was sufficient for all treatment except treatment 1 whereas the P and Ca contents were not enough for oil-palm growth. Total amount of K for the 30 month oil palm was sufficient but not for the elder oil palms. However , total amount of Mg was sufficient but tended to decrease at the fourth year. The oil-palm yield at the forth year growing on Ok series , rouged from 11.70-16.40 bunch / tree with the fresh weight at 2.00-3.50 kg/bunch . The treatments with liming gave higher yield compare to these without liming. The treatment of chemical fertilizer + lime + liquid bio-fertilizer gave the highest yield (1440 kg/rai) following by the treatment of chemical fertilizer + lime (1160 kg/rai) , chemical fertilizer (960 kg/rai) and control (580 kg/rai) , respectively. The sulphate soil of Rangsit series (soil group No. 11) was very extremely acid to story acid (pH 3.9-5.2). According to the acid condition , the application of lime was done at the rate of 950 kg/rai for the all treatments of oil-palm plantation in order to in increase the soil pH to 4.6-6.5 organic matter content of surface soil was high (2.28-3.88 %) whereas 5 content the available P content was very high (127-1638 mg/kg). The amounts of available K, extractable Mg and extractable S were very high. Whereas extractable Ca was high only in surface soil . Exchangeable Al content was high in sub soil. The leaves of the oil palm growing on Rangsit series at 30 months contained sufficient amounts of N and Ca whereas the P, K and Mg were not enough. The oil palms at the age of 36 and 42 months have sufficient N. The yield of the oil palm growing on Rangsit soil series at the third year was highest for the treatment of chemical fertilizer + lime + liquid bio-fertilizer (847.68 kg/rai) following by the treatment of chemical fertilizer + lime + vegetation (630.17 kg/rai) , control (592.56 kg/rai) and chemical fertilizer + lime (532.84 kg/rai) , respectively. However , the yields at the forth year was higher than these of the third year about 5-7 times. The highest yield for the forth year was found in the treatment of chemical fertilizer + lime + liquid bio-fertilizer (4692 kg/rai) following by those of chemical fertilizer + lime (3947 kg/rai) , chemical fertilizer + lime + vegetation (3615 kg/rai) and the control (2892 kg/rai) , respectively. The managements of increasing the quality of acid sulphate soils for oil palm production were liming in order to in crease the available of nutrients (Ca , Mg , P) , soil pH whereas decreasing the toxicity of Al and S.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: กายภาพของดิน
คำสำคัญ (EN): oil palm quality and productivity
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเพิ่มผลิตภาพของดินเปรี้ยวจัดตามกลุ่มชุดดินเพื่อเพิ่มผลผลิตแลคุณภาพปาล์มน้ำมัน
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2552
การขยายพันธุ์ของต้นแม่พันธุ์และพ่อพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อการผลิตเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันลูกผสมเทอเนอร่า (clonal seeds) ในอนาคต ผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการผลิตปาล์มน้ำมันในจังหวัดนครศรีธรรมราช เสถียรภาพของพันธุ์ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันต่อการให้ผลผลิตปาล์มน้ำมัน การเปรียบเทียบปริมาณผลผลิตเอธานอลจากกระบวนการหมักน้ำตาลที่มีคาร์บอน 5 และ 6 โมเลกุลในส่วนเหลือทิ้งปาล์มน้ำมัน ปาล์มน้ำมัน พืชเศรษฐกิจของโลก การพัฒนาดัชนีคุณภาพและผลิตภาพของดินเพื่อการผลิตอ้อยในภาคตะวันออกของประเทศไทย การปรับปรุงผลผลิตปาล์มน้ำมันในจังหวัดนครศรีธรรมราช ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิตลองกอง ผลของชนิดน้ำหมักชีวภาพที่มีต่อผลผลิต และคุณภาพของชา ในกลุ่มชุดดินที่ 29 การพัฒนากระบวนการผลิตข้าวไร่พันธุ์พื้นเมือง ในเขตพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง จังหวัดนครราชสีมา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก