สืบค้นงานวิจัย
นิเวศวิทยา ประชากร และแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่า (Elephas maximus) และชาวบ้าน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย
รัตนวัฒน์ ไชยรัตน์ - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: นิเวศวิทยา ประชากร และแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่า (Elephas maximus) และชาวบ้าน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย
ชื่อเรื่อง (EN): Ecology, Population, and Conflict Management Between Elephant (Elephas maximus) and Local People in Phu Laung Wildlife Sanctuary, Loei Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รัตนวัฒน์ ไชยรัตน์
บทคัดย่อ: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งระหว่างช้างป่าและกิจกรรมมนุษย์ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประชากร นิเวศวิทยาของช้างป่าและรูปแบบของกิจกรรมของชาวบ้านเพื่อใช้ในการวางแผน จัดการ การอนุรักษ์ และเสนอแนะแผนการจัดการในการลดผลกระทบให้น้อยที่สุด การศึกษาโดยการตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า 107 จุด ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2557 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 ได้ภาพจากกล้องจริง 96 จุด ถ่ายภาพสัตว์ป่าได้ทั้งหมด 33 ชนิด พบกิจกรรมมนุษย์ ได้แก่ การทำการเกษตร การล่าสัตว์ป่า การเก็บหาของป่า และการเลี้ยงปศุสัตว์ พบการกระจายของช้างป่าในพื้นที่ป่าชั้นใน 66.7% (n = 3 จุด) ป่าชั้นกลาง 75% (n = 16 จุด) และป่าชั้นนอก 31.9% (n = 47 จุด) และบริเวณแนวเขตป่าสมบูรณ์จำนวน 31.3% (n = 30 จุด) ของจำนวนกล้องทั้งหมด ปัจจัยคุกคามพบตั้งแต่แนวเขตป่าสมบูรณ์จนถึงป่าชั้นกลางคิดเป็น 50% ของจำนวนกล้องทั้งหมด พบพรานบริเวณแนวเขตป่าสมบูรณ์มากที่สุด 60% พื้นที่ป่าชั้นนอก 31.9% ป่าชั้นกลาง 6.3% พบช้างป่าทำกิจกรรมมากที่สุดช่วงเวลา 15.00–19.00 น. ส่วนกิจกรรมมนุษย์พบมากช่วงเวลา 8.00–16.00 น. ช่วงเวลา 15.00-16.00 น. เป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดความขัดแย้งมากที่สุด เมื่อนำตำแหน่งหมู่บ้านและพื้นที่เกษตรมาซ้อนทับกับพื้นที่อาศัยของช้างป่าพบพื้นที่มีความเสี่ยงมาก 12.82% เสี่ยงปานกลาง 20.51% และเสี่ยงน้อย 66.67% ของกล้องทั้งหมด พบดัชนีความมากมายสัมพัทธ์ของช้างป่าเท่ากับ 36.8 ภาพต่อคืน สามารถจำแนกช้างป่าได้ 186 ตัว จากจำนวนภาพถ่ายที่สมบูรณ์ 1,490 ภาพ พบว่าช้างป่ามีความหนาแน่น 0.21 ตัวต่อตารางกิโลเมตร (พื้นที่ทั้งหมด 897 ตารางกิโลเมตร) โครงสร้างประชากรของช้างป่า เพศผู้เต็มวัย:เพศเมียเต็มวัย:เพศผู้ไม่เต็มวัย:เพศเมียไม่เต็มวัย:ลูกช้าง:ลูกช้างเกิดใหม่ เท่ากับ 1:0.9:0.54:0.36:0.66:0.26 การวิเคราะห์ความเหมาะสมด้วยวิธี Multiple logistic regression พบว่า ช้างป่าต้องการอาศัยใกล้แหล่งน้ำ ใกล้พื้นที่เกษตรกรรม ห่างจากหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่สูงที่เป็นที่ราบบนภูเขา ความลาดชันต่ำ ซึ่งเสี่ยงต่อภัยคุกคาม คิดเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด 169.58 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่อยู่บริเวณที่ราบบนเทือกเขา เหมาะสมมากมีพื้นที่ 425.26 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่มีความลาดชันสลับพื้นที่ราบ เหมาะสมปานกลาง 279.57 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่เนินเขาสลับพื้นที่ราบ เหมาะสมน้อย 34.29 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่เนินเขาที่มีการทำการเกษตร และพื้นที่ไม่เหมาะสม 2.14 ตารางกิโลเมตร บริเวณพื้นที่เกษตรเชิงเขา เมื่อคำนวณพื้นที่หากินของช้างป่าที่ความหนาแน่น 95% ด้วยวิธี Kernel density estimates พบว่า ช้างป่าใช้พื้นที่หนาแน่นจำนวน 84.57 ตารางกิโลเมตร พบพืชอาหารในกองมูลช้างป่าและควายบ้านจำนวน 44 ชนิด คิดเป็นการซ้อนทับ 82.2% ทั้งนี้ช้างป่ามีแนวโน้มออกมาหากินพืชเกษตรมากขึ้นเนื่องจากพืชเกษตรมีพลังงานและปริมาณไนโตรเจนสูงกว่าพืชป่า
บทคัดย่อ (EN): Phu Laung Wildlife Sanctuary is a conflict area between human activities and wild elephant. The aim of this study is to identify population, ecology of elephant and human activity patterns for planning, management, conservation and recommend a management plan to minimize the impacts. One hundred and seven camera traps were setup between October 2014 and February 2018. Thirty-three wildlife photos were taken in 96 camera locations. The human activities are agriculture, poaching, minor product harvesting, and husbandry. Elephant were found in core area 66.7% (n = 3 locations), transition zone 75% (n = 16 locations) and buffer zone 31.9% (n = 47 locations) and in forest boundary 31.3% (n = 30 locations) Disturbance activities found between forest boundary and transition zone 50% of all locations. Poachers were highest found in the forest boundary 60%, buffer zone 31.9%, transition zone 6.3%. Elephant activities were highest between 3 pm and 7 pm, while human activities were highest between 8 am and 4 pm. The potential risk impacts were highest between 3 pm and 4 pm. After overlaid among village locations, agricultural areas and home habitat use of elephant, the high risk was 12.82%, moderate risk 20.51% and low risk 66.67%. Elephant relative abundance index was 36.8 photos/trap-night. From 1,490 photos of elephant, 186 individuals were identified. Density was 0.21 individuals/km2 (total area = 897 km2). Population structure of elephant between adult male: adult female: subadult male: subadult female: juvenile: infant was 1:0.9:0.54:0.36:0.66:0.26. Multiple logistic regression was applied, elephant mostly live near water sources and agricultural areas, far from villages, their habitat are limiting on the flat area on top of mountains, lower slope that was high risk in disturbances. Most suitable habitat use was 169.58 km2 on top of mountains; suitable habitat use was 425.26 km2 in lower terrain, moderate suitable habitat use was 279.57 km2 in higher terrain, low suitable habitat use was 34.29 km2 in agricultural areas in the higher terrain and not suitable was 2.14 km2 in agricultural areas in the foot hill. Kernel density estimates at 95% density was used to calculate the habitat use was 84.57 km2. Elephant and buffalo forage species in dungs was 44 species. Forage species overlapped was 82.2%. The reasons of increasing potential of crop riding by elephant were higher in energy and nitrogen in crop plants than wild plants.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
คำสำคัญ (EN): Elephas maximus
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
นิเวศวิทยา ประชากร และแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่า (Elephas maximus) และชาวบ้าน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย
มหาวิทยาลัยมหิดล
30 กันยายน 2560
ดินโป่งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี การศึกษานิเวศวิทยาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า บริเวณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา ผลกระทบทางนิเวศวิทยาของกิจกรรมมนุษย์ต่อการกระจายและนิเวศวิทยาของวัวแดง (Bos javanicus) กระทิง (Bos gaurus) และช้างป่า (Elephant maximus) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ การวิจัยและพัฒนาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ป่าฝืนสุดท้ายของภาคกลาง โครงการจัดตั้งแปลงศึกษาวิจัยนิเวศวิทยาป่าไม้เพื่อการติดตามการเปลี่ยนแปลงประชากรนกป่าอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง (ระยะที่ 2) ความหลากหลายของเฟิร์นในป่าธรรมชาติเขต อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย การสำรวจสัตว์ป่าในบริเวณโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเขื่อนจุฬาภรณ์ การศึกษาสภาพปัญหาการปลูกฝ้ายในเขตจังหวัดเลย การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของโรคแท้งติดต่อในสัตว์เคี้ยวเอื้องที่เลี้ยงบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ. กาญจนบุรี การศึกษานิเวศวิทยาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า บริเวณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก