สืบค้นงานวิจัย
การผลิตถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการใช้พลังงานในชุมชน
เชิดตระกูล หอมจำปา - มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
ชื่อเรื่อง: การผลิตถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการใช้พลังงานในชุมชน
ชื่อเรื่อง (EN): ProducingCharcoal fromAgriculturalWasteMaterialstoReduce EnergyinCommunities
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เชิดตระกูล หอมจำปา
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองในการผลิตถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อ ลดใช้พลังงานในชุมชน มีวัตถุประสงค์เพื่อ !) เปรียบเทียบคุณสมบัติทางกายภาพของถ่านไม้จาก วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 3 ชนิด 2) วิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถ่านไม้จากวัส เหลือใช้ทางการเกษตร และ 3) เปรียบเทียบความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการใช้ถ่านไม้จาก วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 3 ชนิด โดยแบ่งขอบเขตของการศึกษาวิจัยออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) วิเตราะห์คุณสมบัติทางกายภาพของถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทงการเกษตร 3 ชนิด ได้แก่ ถ่านไม้ ยางพารา ถ่านไม้รวม และถ่านจากกะลามะพร้าว ด้านค่พลังานความร้อน ระยะเวลาการให้ความ ร้อน ระยะเวลาการจุดติดไฟ และปริมาณขี้ถ้า 2) วิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตถ่าน ไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดขศึกษาต้นทุนการผลิตเตาและการผลิตถ่าน ศึกษา ผลตอบแทนในการจำหน่ายถ่าน วิเคราะห์จุดคุ้มทุน และวิเคราะห์การลงทุน และ 3) สำรวจความ พึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการใช้ถ่านไม้ากวัสตุเหลือใช้ทางการเกษตร 3 ชนิต โดยการนำถ่าน ไม้ที่ได้จากการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิด ๆ ละ 2 กิโลกรัม ไปให้ประชาชนที่ใช้ถ่าน ไม้ในการหุงต้มอาหารในชุมชนทุ่งพลา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จำนวน 101 คน ทดลองใช้ จากนั้นให้ตอบคำถามในแบบสอบถามวัดระดับความพึงพอใจที่พัฒนาขึ้น แล้วนำข้อมูลที่ได้มา วิเกราะห์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อเปรียบเทียบระดับความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการใช้ ถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 3 ชนิด โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวผลการวิจัย พบว่า 1. ผลการตรวจวิเคราะห์และเปรียบเทียบคุณสมบัติทางกายภาพของถ่านไม้ 3 ชนิด พบว่า คุณสมบัติด้านด่พลังงานความร้อนของถ่านไม้ต่างชนิดกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง ทางสถิติ โดยถ่านจากกะลามะพร้าวมีค่าพลังานความร้อนสูงที่สุด เฉลี่ย 32,634.3 จูลต่อกรัม รองลงม่าคือถ่านไม้รวม เละถ่านไม้ยางพารา ตามลำดับ ด้านระยะเวลาการให้ความร้อน ถ่านไม้ ยางพารา ถ่านไม้รวม และถ่านจากกะลามะพร้าว มีคุณสมบัติไม่แตกต่างกัน โดยที่ถ่านจาก กะลามะพร้าวมีระยะเวลาการให้ความร้อนนานที่สุด เฉถี่ย 37.100 นาที รองลงมาคือถ่านไม้รวม และถ่านไม้ยางพารา ตามลำดับ ด้านระยะเวลาการจุดติดไฟของถ่านไม้ต่างชนิดกัน แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยที่ถ่านจากกะลามะพร้าว มีระยะเวลาการจุดติดไฟน้อยที่สุด เฉลี่ย 4.0 นาที รองลงมาคือถ่านไม้รวม และถ่านไม้ยางพารา ตามลำดับ ด้านปริมาณขี้เถ้าของถ่านไม้ต่าง ชนิดกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ โดยถ่านจากกะลามะพร้าวมีปริมาณขี้เถ้าน้อยที่สุด เฉลี่ย 10.067 กรัม รองลงมาคือถ่านไม้รวม และถ่านไม้ยางพารา ตามลำดับ 2. ต้นทุนในการผลิตถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ดเป็นเงินเฉถี่ย J 6.37 บาทต่อกิโลกรัม และเมื่อวิเคราะห์จุคคุ้มทุน พบว่า ปีจจัยที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของจุคคุ้มทุน คือ อัตรากำไรส่วนเกิน และต้นทุนคงที่ สำหรับการวิเคราะห์การลงทุนผลิตถ่าน พบว่า มีความ เหมาะสมในการลงทุน เนื่องจากมีระยะเวลาคืนทุนที่ด่อนช้างสั้นคือ ร.52 เดือน 3. ผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้ถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ชนิด พบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจต่อการใช้ถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 3 ชนิด ไม่ แตกต่างกัน
บทคัดย่อ (EN): The objectives of this experimental research of producing wood charcoal from agricultural scraps to decrease community energy consumption were: 1) to compare physical properties wood charcoal produced from of 3 agricultural scraps, 2) to analyze costs and yiclds on production of wood charcoal from agricultural scraps, and 3) to compare peoples satisfaction on using wood charcoal produced from 3 agricultural scraps. Scope of this study was divided into 3 parts, including: 1) physical properties analysis of wood charcoal produced from 3 agricultural scraps - rubber-wood charcoal, omni-wood charcoal, and coconut shell charcoal - in aspects of calorific value, burning time, ignition time, and ash content, 2) analysis of costs and yields on production of wood charcoal from agricultural scraps, concerning the study of kiln manufacture and charcoal production costs, yields on charcoal distribution, breakeven analysis, and investment analysis, and, 3) survey of peoples satisfaction on using wood charcoal produced from 3 agricultural scraps, by dispensing 2 kilograms of each wood charcoal derived from the 3 agricultural scraps to 101 residents of Toongpla community in Khok Pho district, Pattani province for test use in cooking. The users were then asked to answer satisfaction measuring questionnaire developed by researchers. Collected data was analyzed with readymade software to compare peoples satisfaction levels on using wood charcoal produced from 3 agricultural scraps, with one-way analysis of variance.Results of the research are as followings: 1) Physical properties analysis and comparison of the 3 kinds of wood charcoal indicated that calorific value properties of different wood charcoal extremnely differed, with statistically significant level of p S01. The highest calorific value was of coconut shell charcoal, 32,634.3 joule per gram, following with that of omni-wood and rubber-wood charcoal, respectively. In aspect of bumning time, properties of rubber-wood charcoal, omni-wood charcoal, and coconut shell charcoal were not significantly different, with coconut shell charcoal lasted longest, average of 37.100 minutes, following with omni-wood and rubber-wood charcoal, respectively. For ignition time, properties of different kinds of wood charcoal were statistically different, with significant level of p <.05; shortest average ignition time was of coconut shell charcoal, 4.0 minutes, following with omni-wood and rubber-wood charcoal, respectively. And, ash content properties of different kinds of wood charcoal were extremely different, with statistically significant level of p .01, lowest average ash content was of coconut shell charcoal, 10.067 grams, following with omni-wood and rubber-wood charcoal, respectively. 2) The figure of production costs of wood charcoal from agricultural scraps was averaged at 6.37 Baht per kilogram. In breakeven analysis, it was found that factors that made breakeven point vary included contribution margin ratio and fixed costs. Investment analysis on production of wood charcoal from agricultural scraps indicated that it was appropriate for investment because it took a rather short pay-back period of 5.52 months. 3) Survey of peoples satisfaction on using wood charcoal produced from the 3 agricultural scraps indicated no different satisfaction of people using wood charcoal produced from all the 3 agricultural scraps.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
คำสำคัญ: ความพึงพอใจ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

เชิดตระกูล หอมจำปา. "การผลิตถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการใช้พลังงานในชุมชนProducingCharcoal fromAgriculturalWasteMaterialstoReduce EnergyinCommunities". มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. 2552

เชิดตระกูล หอมจำปา. "การผลิตถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการใช้พลังงานในชุมชนProducingCharcoal fromAgriculturalWasteMaterialstoReduce EnergyinCommunities". มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. 2552. Print.



TARR Wordcloud:
การผลิตถ่านไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการใช้พลังงานในชุมชน
เชิดตระกูล หอมจำปา
มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
30 กันยายน 2552
การศึกษาความเหมาะสมของการแปรรูปวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การศึกษาและออกแบบเครื่องจักรกล สำหรับการขึ้นรูปถ่านแฟนซี จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ตามแนว เศรษฐกิจพอเพียง การใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อการผลิตเห็ด การผลิตไบโอเอทานอลจากวัชพืชน้ำด้วยกระบวนการ soild-state fermentation (ชื่อข้อเสนอการวิจัยเดิม : การผลิตไบโอเอทานอลจากวัสดุเหลือใช้จากทางการเกษตรโดยชุมชนมีส่วนร่วมในตำบลบางนางลี่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุ การพัฒนาโรงเรือนและห้องอบข้าวแคบแบบประหยัดโดยใช้พลังงานความร้อนจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์ การลดการใช้พลังงานและการนำกลับพลังงานที่สูญเสียมาใช้ในการผลิตถุงมือยาง เพื่อลดต้นทุนการผลิต การศึกษาคุณสมบัติของถ่านขาวและน้ำส้มควันไม้ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร การใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในการเลี้ยงโค-กระบือ การประยุกต์ใช้เซลลูโลไลติกเอนไซม์จากราและยีสต์เพื่อใช้ในการผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair