สืบค้นงานวิจัย
การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากกากมันสำปะหลังเพื่อเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกสำหรับไก่ไข่
สุทิศา เข็มผะกา - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากกากมันสำปะหลังเพื่อเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกสำหรับไก่ไข่
ชื่อเรื่อง (EN): Enhancing the utilization of cassava pulp as alternative energy source for laying hens
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุทิศา เข็มผะกา
บทคัดย่อ: อุตสาหกรรมแป้งมันสําปะหลังก่อให้เกิดเศษเหลือ คือ กากมันสําปะหลังจาก กระบวนการผลิตเป็นจํานวนมากในแต่ละปี กากมันสําปะหลังมีแป้งเป็นองค์ประกอบอยู่สูง (50 - 70%) แต่มีปริมาณโปรตีนต่ําและเยื่อใยสูง จึงเป็นข้อจํากัดในการใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์สําหรับไก่ไข่ อย่างไรก็ตามเยื่อใยที่เป็นองค์ประกอบในกากมันสําปะหลังอาจมีประโยชน์ต่อการลดคอเลสเตอรอลใน ไข่แดงและการเปลี่ยนแปลงประชากรจุลินทรีย์ ดังนั้นการวิจัยในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผล ของการใช้กากมันสําปะหลังในรูปแบบต่าง ๆ คือ กากมันสําปะหลังปกติ กากมันสําปะหลังหมัก และ กากมันสําปะหลังเสริมเอนไซม์ในสูตรอาหารไก่ไข่ โดยแบ่งออกเป็น 6 การทดลอง คือ การทดลองที่ 1 ใช้ไก่ไข่พันธุ์อีซ่า บราวน์ อายุ 30 สัปดาห์ จํานวน 48 ตัว เลี้ยงบน กรงขังเดี่ยว และสุ่มไก่ไข่แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ๆ ละ 8 ซ้ํา ตามแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ อาหาร ทดลองมี 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุม และกากมันสําปะหลังที่ระดับ 5, 10, 15, 20 และ 259% ให้อาหาร และน้ําอย่างเต็มที่ เป็นเวลา 10 วัน ทําการเก็บมูลในช่วง 4 วันสุดท้ายของการทดลองเพื่อนําไป ประเมินหาการย่อยได้และการใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะ ผลการทดลองพบว่ากากมันสําปะหลัง สามารถใช้ในสูตรอาหารไก่ไข่ได้ถึง 20% โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการย่อยได้และการใช้ประโยชน์ได้ของ โภชนะ (P>0.05) อย่างไรก็ตามเมื่อใช้กากมันสําปะหลังในระดับที่สูงขึ้น (25%) ส่งผลให้การย่อยได้และ การใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะลดลง (P0.05) ยกเว้นสีของไข่แดงมีการลดลงตามระดับ ของกากมันสําปะหลังที่เพิ่มขึ้นในสูตรอาหาร (P0.05) การทดลองที่ 3 ใช้ไก่ไข่พันธุ์อีซ่า บราวน์ อายุ 46 สัปดาห์ จํานวน 48 ตัว เลี้ยงในกรง ขังเดี่ยว จากนั้นทําการแบ่งไก่ออกเป็น 6 กลุ่ม ๆ ละ 8 ซ้ํา ๆ ละ 1 ตัว ให้น้ําและอาหารแบบเต็มที่เป็นเวลา 10 วัน อาหารทดลองมี 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุม และกลุ่มทดแทนด้วยกากมันสําปะหลังหมักที่ระดับ 8, 16, 24, 32 และ 40% ตามลําดับ ผลการทดลองพบว่ากากมันสําปะหลังหมักสามารถใช้ในสูตร อาหารไก่ไข่ได้ถึงระดับ 32% โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการย่อยได้และการใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะ (P>0.05) แต่เมื่อใช้กากมันสําปะหลังหมักในระดับที่สูงขึ้น (40%) ส่งผลให้การย่อยได้และการใช้ ประโยชน์ได้ของโภชนะลดลง (P0.05) ผลผลิต ไข่ลดลงเมื่อใช้กากมันสําปะหลังหมักที่ระดับ 32% (P0.05) ยกเว้นสีของไข่แดงมีการลดลงตามระดับของกากมันสําปะหลังหมักที่เพิ่มขึ้นในสูตรอาหาร (P0.05) ถึงแม้ว่ากากมันสําปะหลังหมักไม่มีผลใน การเปลี่ยนแปลงประชากรจุลินทรีย์ในลําไส้ส่วนท้าย แต่พบว่าสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตกรดอะซิติก และกรดบิวไทริกเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (P0.05) จากการทดลองสรุปได้ว่าสามารถใช้ กากมันสําปะหลังหมักด้วยเชื้อรา A. oryzae ได้ถึงระดับ 24% ในอาหารไก่ไข่ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการ ย่อยได้และการใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะ สมรรถนะการผลิต และคุณภาพไข่ การทดลองที่ 5 ใช้ไก่ไข่พันธุ์อีซ่า บราวน์ อายุ 55 สัปดาห์ จํานวน 45 ตัว เลี้ยงบน กรงขังเดี่ยว และสุ่มไก่ไข่แบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม ๆ ละ 5 ซ้ํา อาหารทดลองมี 9 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุม และกากมันสําปะหลังที่ระดับ 20, 25, 30 และ 35% ร่วมกับการเสริมเอนไซม์ย่อยเยื่อรวมที่ประกอบ ไปด้วยเซลลูเลส กลูคาเนส และเซลลูเลส ที่ระดับ 0.10 และ 0.15% ให้อาหารและน้ําอย่างเต็มที่ เป็น เวลา 10 วัน ผลการทดลองพบว่าการใช้กากมันสําปะหลังที่ระดับ 20 - 35% ร่วมกับการเสริมเอนไซม์ รวมที่ระดับ 0.10 และ 0.15% ไม่มีผลกระทบต่อการย่อยได้ของสิ่งแห้ง และเยื่อใย (P>0.05) ส่วนค่า การย่อยได้ของสารอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ได้ของไนโตรเจน มีค่าลดลงตามระดับกากมันสําปะหลัง ที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่พบความแตกต่างดังกล่าวในไก่ไข่กลุ่มที่ได้รับกากมันสําปะหลัง 209% โดยการเสริม เอนไซม์รวมที่ระดับ 0.10 และ 0.15% มีผลต่อการย่อยได้และการใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะไม่ แตกต่างกัน (P>0.05) การทดลองที่ 6 ศึกษาผลของการใช้กากมันสําปะหลังร่วมกับการเสริมเอนไซม์เยื่อใย รวม ต่อสมรรถนะการผลิต คุณภาพไข่ ปริมาณคอเลสเตอรอลในไข่แดง ประชากรจุลินทรีย์ การผลิต กรดไขมันที่ระเหยได้ และแอมโมเนียในไก่ไข่ ใช้ไก่ไข่พันธุ์อิซ่า บราวน์ อายุ 32 สัปดาห์ จํานวน 336 ตัว ทําการแบ่งไก่ไข่ออกเป็น 7 กลุ่ม เพื่อรับอาหารทดลอง ได้แก่ สูตรควบคุม 1 กลุ่ม และกากมัน สําปะหลัง ที่ระดับ 20, 25 และ 309% ร่วมกับเสริมเอนไซม์ที่ระดับ 0.10 และ 0.15% ไก่ไข่ทั้งหมด ได้รับอาหารและน้ําอย่างเต็มที่ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ผลการทดลองพบว่าการใช้กากมันสําปะหลังที่ ระดับ 20 – 30% ร่วมกับการเสริมเอนไซม์รวม 0.10 - 0.15% ในอาหารไก่ไข่ ไม่มีผลกระทบต่อ ผลผลิตไข่ น้ําหนักไข่ ปริมาณอาหารที่กิน มวลไข่ ประสิทธิภาพการใช้อาหาร และประสิทธิภาพการใช้ โปรตีน เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (P>0.05) และคุณภาพไข่ (P>0.05) ยกเว้นสีของไข่แดงมีการ ลดลงตามระดับของกากมันสําปะหลังที่เพิ่มขึ้นในสูตรอาหาร (P0.05) จากการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า กากมันสําปะหลังปกติ กากมันสําปะหลังหมัก และกากมันสําปะหลังเสริมเอนไซม์ สามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานในสูตรอาหารไก่ไข่ได้ถึงระดับ 20, 24 และ 30% ตามลําดับ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการย่อยได้และการใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะ สมรรถนะการ ผลิต และคุณภาพไข่
บทคัดย่อ (EN): The cassava starch industry generates a large amount of waste in the form of cassava pulp annually. The pulp contains a lot of starch (50 – 70%), but contains low amounts of protein and high fiber which limits its use as feedstuff for laying hens. However, the crude fiber content in cassava pulp may have positive effects on lower egg yolk cholesterol and microbial population change. Therefore, this research was aimed to study the potential use of dried cassava pulp (DCP) in various forms such as regular DCP, fermented cassava pulp (FCP) and DCP supplemented with enzymes in laying hen diets. This study was divided into 6 experiments. Experiment 1, a total of 48 laying hens (Isa Brown) aged 30 weeks were placed in individual cages and randomly allocated to 6 dietary treatments with 8 replicates in a Completely Randomized Design (CRD). Six dietary treatments were given as follows: control and five DCP diets at levels of 5, 10, 15, 20 and 25%. Feed and water were provided ad libitum for 10 days. The excreta were collected in the last four days of the experimental period and then were measured for nutrient digestibility and retention. The results showed that DCP can be used up to 20% in the diets without having negative effects on nutrient digestibility and retention (P>0.05). However, when DCP was used at the level of 25%, it resulted in decreased nutrient digestibility and retention (P0.05), except for egg yolk color being decreased with an increase of DCP in the diets (P0.05). S. Experiment 3, 48 laying hens (Isa brown) aged 46 weeks were placed in individual cages and randomly distributed to 6 groups with 8 replicates of 1 bird. Feed and water were provided ad libitum for 10 days. Six dietary treatments were given as follows: control and FCP substituted diets at 8, 16, 24, 32 and 40%, respectively. The results showed that FCP can be used in laying hen diets up to 32% without showing negative effects on nutrient digestibility and retention (P>0.05). However, when FCP was used at a higher level (40%), it resulted in decreased nutrient digestibility and retention (P0.05). Egg production was significantly decreased when FCP was used at levels of 32%. Feed conversion ratio, egg mass, and protein efficiency ratio decreased linearly (P0.05). Although FCP showed no effect on microbial population changes in the hind gut (P>0.05), it increased acetic acid and butyric acid production (P0.05). Experiment 5, 45 laying hens (Isa Brown) aged 45 weeks were placed in individual cages and randomly allocated to 9 groups with 5 replicates. Nine dietary treatments were given as follows: control and DCP at 20, 25, 30, and 35% supplemented with mixed enzymes (cellulose, glucanase and xylanase) at 0.10 and 0.15%. Feed and water were provided ad libitum for 10 days. The results showed that the use of DCP at 20 - 35% added with enzymes (0.10 and 0.15%) had no negative effects on dry matter and crude fiber digestibilities (P>0.05). While organic matter digestibility and nitrogen retention decreased as DCP was increased in diets, but there were no significant differences in laying hen group received DCP up to 20%. The supplementation of mixed enzymes at 0.10 and 0.15% showed the similar results on nutrient digestibility and retention (P>0.05). Experiment 6 was conducted to investigate the effect of DCP supplemented with mixed enzymes on productive performance, egg quality, egg yolk cholesterol, microbial populations, volatile fatty acid and ammonia production in laying hens. A total of 336 laying hens (Isa Brown) aged 32 weeks were randomly allocated to 7 dietary treatments (control and DCP substituted diets at 20, 25 and 30%) supplemented with mixed enzymes (0.10 and 0.15%). All chickens were given access to feed and water ad libitum for 12 weeks. The results showed that diets incorporated with 20 – 30% of DCP and supplemented with mixed enzymes at 0.10 – 0.15% had no significant effects on egg production, egg weight, feed intake, egg mass, feed conversion ratio, protein efficiency ratio and egg quality (P>0.05), except for egg yolk color being decreased with an increase of DCP in the diets (P<0.01). The use of DCP at 20% supplemented with 0.10% increased acetic acid production compared to control and DCP 30% supplemented with 0.15% (P<0.05), but there were no significant were effects on propionic acid and butyric acid. In conclusion, it is suggested that regular DCP, FCP and DCP supplemented with enzymes can be used an energy source in laying hen diets up to 20, 24 and 30%, respectively without showing negative effects on nutrient digestibility and retention, productive performance and egg quality.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dric.nrct.go.th/Search/SearchDetail/291658
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ: เอ็นไซม์
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากกากมันสำปะหลังเพื่อเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกสำหรับไก่ไข่
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
30 กันยายน 2556
ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมสำหรับไก่ลูกผสมพื้นเมือง-เซี่ยงไฮ้ ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมสำหรับพ่อแม่พันธุ์ไก่ลูกผสมพื้นเมืองเซี่ยงไฮ้ การผลิตกรดแอล-แลกติกจากไฮโดรไลเสทของกากมันสำปะหลังโดยรา Rhizopus oryzae ในระดับนำร่อง : รายงานการวิจัย การคำนวณและการทดสอบค่าสัมประสิทธิ์ทางพันธุกรรมสำหรับมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 9 เพื่อการประยุกต์ใช้แบบจำลองการเจริญเติบโตของพืช โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการเติมน้ำ เติมชีวิต) การผลิตและการใช้ประโยชน์จากบอระเพ็ด การศึกษาต้นแบบการผลิตเอทานอลจากกากมันสำปะหลัง โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการใช้ประโยชน์มันขี้หนู การขยายพันธุ์และการดูแลไม้ดอกหอมเพื่อการใช้ประโยชน์ในเชิงการค้า การกระจายตามธรรมชาติและการใช้ประโยชน์เสม็ดขาวบริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก