สืบค้นงานวิจัย
ผลของสภาวะในการเจลาติไนซ์และการเก็บเจลต่อการเกิด resistant starch ในแป้งพุทธรักษา (ระยะที่ 2)
สันทณีย์ ปัญจอานนท์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: ผลของสภาวะในการเจลาติไนซ์และการเก็บเจลต่อการเกิด resistant starch ในแป้งพุทธรักษา (ระยะที่ 2)
ชื่อเรื่อง (EN): Effects of gelatinization and gel storage conditions on the formation of canna resistant starch (Phase2)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สันทณีย์ ปัญจอานนท์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): SANTHANEE PUNCHA-ARNON
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ทำการศึกษาผลของสภาวะในการเจลาติไนช็และการเก็บเจลต่อการเกิด resistant starch (RS) ในแป้งพุทธรักษา เตรียมแป้งความเข้มข้น 10% นำไปให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 121 ?C ภายใต้ความดัน 15 psi (autoclave) เป็นเวลา 30, 60 และ 120 นาที และเก็บที่สภาวะต่างๆ คือที่ อุณหภูมิ 4, 30 และ ? 100C เป็นเวลา 1, 3, 5 และ 7วัน พบว่าการเจลาติไนช็แป้ง 30 นาที แป้งเกิด การแตกกระจายตัวออกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ แต่ยังสามารถสังกตเห็นร่องรอยของเม็ดแป้ง และเม็ดแป้ง แตกกระจายตัวได้มากขึ้น เมื่อเพิ่มระยะเวลาการ utoclave เป็น 60 และ 120 นาที และเมื่อนำไป วิเคราะห์หาปริมาณของ RS พบว่ามีปริมาณ Rs ในเม็ดแปังลดลงจาก 97.3% เป็น 12.0-15.9% หลังจากผ่านการเจลาติไนซ์ แต่ RS ส่วนใหญ่ที่มีในเม็ดแป้งไม่เสถียรต่อความร้อน หลังจากผ่านความ ร้อนแล้วกลับมีปริมาณ RS ลดลงอย่างมากเหลือเพียง 1.9 % เท่านั้น ส่วนแป้งเจาติไนซ์มีปริมาณ RS 7.9-10.8% การเก็บเจลแป้งส่งผลให้ RS มีความเสถียรต่อความร้อนมากขึ้น โดยแป้งที่เจลาติไนซ์เป็น เวลา 120 นาที และเก็บเจลที่ 4*C เป็นเวลา 3 วัน มีปริมาณ RS ที่เสถียรต่อความร้อนเพิ่มขึ้นเป็น 16.8% ผลที่ได้นี้บ่งชี้ว่าโครงสร้างของ R3 มีความเป็นระเบียบมากขึ้นภายใต้สภาวะการเก็บ เมื่อ ตรวจสอบลักษณะโครงร่างผลึกของแป้งเจลาติไนซ์พบว่าพีคส่วนใหญ่ที่พบในแป้งดิบจะหายไป แต่ที่ ยังพอสังเกตุเห็นได้คือ พีคที่ตำแหน่ง 17 และที่ประมาณ 22" จะชัดขึ้นเมื่อระยะเวลาในการเก็บเจ ลแป้งนานขึ้น นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นพีคที่ 5.6, 22, 24 และ 26 ด้วย ลักษณะของพีคที่ได้ใกล้เดียง กับผลึกแป้งชนิด B และแป้งเจลาติไนซ์มีอุณหภูมิเริ่มเกิดเจลลดลง เมื่อศึกษาด้วย DSC และจะเริ่ม เกิดเจลอีกครั้งที่อุณหภูมิสูง (163. 1-165. 1*c) แป้งที่ผ่านการเจลาติไนซ์ที่แวลาต่างๆ มีความหนืด เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนจาเม็ดแป้งดิบและมีลักษณะโดยแป้งมีค่ความหนืดสูงสุด breakdown, setback และอุณหภูมิในการเกิดความหนืดลดลง แป้งพุทธรักษามีดัซนีการย่อย (hydrolysis index; HI) และดัชนีน้ำตาล (glycemic index: GI) ที่ต่ำมากในขณะที่แป้งพุทธรักษาที่ผ่านการเจลาติไนซ์แล้ว ทุกตัวจะถูกย่อยอย่างรวดเร็วและมีค่า Gl ในระดับสูง
บทคัดย่อ (EN): The effects of gelatinization and gel storage conditions on the formation of canna resistant starch (RS) were investigated. Starch slurries (10%, dwb) were autoclaved at 121?C for 30 and 120 min. The gels obtained were subsequently stored at different temperatures (4, 30 and 100 ?C) and times (0, 1, 3, 5 and 7 d). The results showed that the RS fraction in granular starch (54.1% w/w) was reduced to 41.0-42.5% w/w after gelatinization. The substantial portions of RS in granular starch as well as in the gelatinized starches were thermally instable, as indicated by a great reduction in RS contents (reduced to 9.4-10.6% w/w) after cooking at 100 ?C for 20 min. Storage of gels resulted in a significant increase in the amount of the thermally stable RS fraction, i.e. the RS content of 28.5% w/w was found in the gel sample gelatinized for 120 min and stored at 4?C for 3 d. This indicated that the ordered structures of RS portion were tightened under the storage conditions.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ: สภาวะการเก็บ
คำสำคัญ (EN): N/A
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของสภาวะในการเจลาติไนซ์และการเก็บเจลต่อการเกิด resistant starch ในแป้งพุทธรักษา (ระยะที่ 2)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
30 กันยายน 2557
ผลของระดับการเกิดเจลาติไนเซชันต่อปริมาณ slowly digestible และ resistant starch ในแป้งพุทธรักษาที่ผ่านการดัดแปรโดยวิธีทางกายภาพและเคมี การพัฒนาแป้งกล้วยน้ำว้าดิบ การผลิต Resistant Starch (RS) จากธรรมชาติ และการประยุกต์ใช้เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์แป้งสุขภาพ การดัดแปรแป้งพุทธรักษากินได้ด้วยออคเทนิลซัคซินิคแอนไฮไดรด์ การใช้แป้งพุทธรักษาทดแทนแป้งข้าวเจ้าบางส่วนในผลิตภัณฑ์แผ่นแป้งแหนมเนือง (ระยะที่ 2) ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณแป้งและสารโรตีในนในรากหางไหล (Derris elliptica Benth.) ที่อายุต่าง ๆ การดัดแปรแป้งพุทธรักษากินได้ด้วยออคเทนิลซัคซินิคแอนไฮไดรด์ ระยะที่ 2 การผลิตไฮโดรเจลจากแป้งมันสำปะหลังและแป้งพุทธรักษา การประยุกต์ใช้แป้งพุทธรักษากินได้ดัดแปรเพื่อเป็นสารให้ความข้นหนืดในซอส (ระยะที่ 2) การเตรียมฟิล์มและสมบัติของฟิล์มจากแป้งพุทธรักษากินได้ (ระยะที่ 2)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก