สืบค้นงานวิจัย
ผลของฮอร์โมนต่างชนิดต่อการวางไข่ปลายอนหลังเขียว
สมบัติ สิงห์สี - กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
ชื่อเรื่อง: ผลของฮอร์โมนต่างชนิดต่อการวางไข่ปลายอนหลังเขียว
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of Various Type of Hormone for Induced Ovulation of Pangasius pleurotaenia (Sauvage, 1878)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สมบัติ สิงห์สี
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาผลของฮอร์โมนต่างชนิดต่อการวางไข่ ปลายอนหลังเขี ยว ด้าเนินการทดลองที่สถานี ประมงน้้าจืดจังหวัดนครพนม ระหว่างเดือน มีนาคม -พฤษภาคม 2548 แบ่งการทดลองออกเป็น 8 ชุดการทดลอง ชุดการทดลองที่ 1, 2และ 3 ฉีดด้วยฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองปลา (pituitary gland, PG)อัตรา 1, 2 และ 3 โดส ชุดการทดลองที่ 4, 5, 6และ 7 ฉีดด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์ buserelin acetate (BUS) อัตรา 5, 10, 15และ20 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ร่วมกับยาเสริมฤทธิ์ domperidone (DOM) อัตรา 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ฉีดฮอร์โมนให้กับแม่พันธุ์ปลาครั้งเดียว ชุดควบคุมฉีดด้วยน้้ากลั่น ผลการทดลองพบว่า แม่พันธุ์ปลายอนหลังเขียวทุกชุดการทดลองตกไข่ได้ไม่แตกต่างกัน โดยใช้เวลา 15-20 ชั่วโมง หลังจากฉีดฮอร์โมน ในขณะที่ชุดควบคุมไม่ตกไข่ มีอัตราการปฏิสนธิเฉลี่ยเท่ากับ 75.73±15.55, 47.99±28.08, 65.70±32.86, 54.01±25.47,78.32±8.01, 66.09±23.62 และ 64.66±21.30 เปอร์เซ็นต์ตามล้าดับ อัตราการฟักเฉลี่ยเท่ากับ 54.96±21.20,61.42±36.82, 54.89±25.03, 46.33±29.98, 60.58±16.53, 52.57±23.75 และ 56.61±21.98 เปอร์เซ็นต์ และอัตราการรอดตายเฉลี่ยเท่ากับ 91.41±9.54, 75.77±37.98, 66.25±27.66, 85.74±18.43, 79.85±9.34,77.57±20.28 และ 83.36±6.35 เปอร์เซ็นต์ตามล้าดับ เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ พบว่า อัตราการปฏิสนธิ เฉลี่ย อัตราการฟักเฉลี่ย อัตราการรอดตายเฉลี่ย มีค่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ ไข่ปลายอนหลังเขียวเป็นไข่ติด รูปร่างกลม สีเหลืองอ่อนใส มีขนาดเส้นผ่า นศูนย์กลาง 1.0-1.1 มิลลิเมตร ไข่ปลาฟักออกเป็นตัวใช้เวลา 29 ชั่วโมง 25 นาทีที่อุณหภูมิน้้า 26.5-27.4 องศาเซลเซียส ลูกปลา มีความยาว 3.48 มิลลิเมตร มีการพัฒนารูปร่างเหมือนตัวเต็มวัย เมื่ออายุได้ 45 วัน มีความยาวเฉลี่ย 44.98±1.17 มิลลิเมตร เมื่อ น้าลูกปลายอนหลังเขียวอายุ 3วัน มาอนุบาลในโหลพลาสติก บรรจุน้้า 10ลิตร อัตราปล่อย 30 ตัว/ลิตร เป็นระยะเวลานาน 14 วัน พบว่า ลูกปลามีความยาวเฉลี่ย 14.24±1.03 มิลลิเมตร และ น้้าหนักเฉลี่ย 28.96±2.40มิลลิกรัม และ อัตราการรอดตายเฉลี่ย 37.50±5.60 เปอร์เซ็นต์ จากการทดลองครั้งนี้พบว่าการใช้ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง และฮอร์โมนสังเคราะห์ สามารถใช้เพาะพันธุ์ปลายอนหลังเขียวได้ผลไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาในด้านต้นทุนของฮอร์โมนแล้วนั้นพบว่าการเพาะพันธุ์ปลายอนหลังเขียวควรใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ในอัตรา5ไมโครกรัมต่อกิโลกรัมร่วมกับยาเสริมฤทธิ์อัตรา 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีต้นทุนต่้าสุด
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.inlandfisheries.go.th/research/details.php?id=111
เผยแพร่โดย: กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
คำสำคัญ: การตกไข่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของฮอร์โมนต่างชนิดต่อการวางไข่ปลายอนหลังเขียว
กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
2550
ผลของฮอร์โมนชนิดต่างๆ ต่อการตกไข่ของปลาสายยู การเพาะพันธุ์ปลาหมูข้างลายด้วยฮอร์โมนชนิดต่าง ๆ เพื่อเร่งการตกไข่ การเพาะพันธุ์ปลาหมูข้างลายด้วยฮอร์โมนชนิดต่างๆ เพื่อเร่งการตกไข่ ผลของฮอร์โมนและต่อมใต้สมองต่อการตกไข่ปลาโมง การกระตุ้นความสมบูรณ์เพศด้วยฮอร์โมนเพื่อการตกไข่ของแม่ปลาโมง ผลการกระตุ้นการตกไข่หลายใบโดยการใช้ฮอร์โมนเอฟเอสเฮชเข้ากล้ามเนื้อชนิดแบ่งฉีดสองเข็มในโคนมลูกผสมพันธุ์ไทยโฮลสไตน์ ผลของระดับฮอร์โมน เอฟเอสเอช ต่อการเพิ่มการตกไข่ในโคพื้นเมืองสายอีสาน ผลของระดับฮอร์โมน เอฟเอสเอช ต่อการเพิ่มการตกไข่ในโคพื้นเมืองสายอีสาน การเหนี่ยวนำพัฒนาการของฟอลลิเคิลและการตกไข่ในแพะพื้นเมืองไทยโดยใช้ฮอร์โมน FSH แบบลด ร่วมกับ hCG ผลของการลดขนาดฮอร์โมนFSHโดยการฉีดเข้าเยื่อเมือกบุช่องคลอดต่อการเพิ่มการตกไข่ในโคบราห์มัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก