สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการนำกลับมาใช้ใหม่ของพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอลิเนตเตืพอลิเอททิลีนกับยางธรรมชาติ
Preeyanuch Prasopnatra - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการนำกลับมาใช้ใหม่ของพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอลิเนตเตืพอลิเอททิลีนกับยางธรรมชาติ
ชื่อเรื่อง (EN): Recycling of chlorinated polyethylenenatural rubber blends
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Preeyanuch Prasopnatra
บทคัดย่อ: โดยทั่วไปกระบวนการผสมของพอลิเมอร์ 2 ชนิดนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ พอลิเมอร์เพียงชนิดเดียว เหตุผลหลักในการเตรียมพอลิเมอร์ผสม ได้แก่ (i) เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติทางเทคนิค เบื้องต้นของอีลาสโตเมอร์ (ii) เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต และ (iii) เพื่อลดต้นทุนการผลิต งานวิจัยนี้เป็นการ เตรียมพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอริเนตเตทพอลิเอทธิลีนกับยางธรรมชาติในสัดส่วน 80 ต่อ 20 โดยเชื่อมโยง พันธะในวัฏภาคยางธรรมชาติด้วยกำมะถัน สมบัติหลักของพอลิเมอร์ผสมที่ทำการวิเคราะห์ ได้แก่ ความสามารถของการนำกลับมาขึ้นรูปใหม่ สมบัติ เชิงกล และสมบัติการไหล โดยแปรเปลี่ยนจำนวนครั้งการนำกลับมาขึ้นรูปใหม่ ตลอดจนปริมาณแมกนีเซียม ออกไซด์ และสารต้านอนุมูลอิสระชนิดเอมีน จากการทดลองพบว่า พอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอริเนตเตทพอลิเอทธิลีนกับยางธรรมชาติในสัดส่วน 80 ต่อ 20 และทำการเชื่อมโยงโครงสร้างร่างแหด้วยกำมะถันสามารถนำกลับมาขึ้นรูปใหม่ได้ โดยที่สมบัติเชิงกลไม่ เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน ผลการไหลแบบสั่น แสดงให้เห็นว่าจำนวนครั้งของการนำกลับมา ขึ้นรูปใหม่ส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมการไหลของพอลิเมอร์ผสม กล่าวคือจำนวนครั้งของการนำกลับมาขึ้นรูปที่ เพิ่มขึ้นส่งผลให้การเสื่อมสภาพของวัฏภาคยางธรรมชาติภายใต้ความร้อนผ่านกระบวนการขาดออกของสายโซ่ โดยมีหลักฐานยืนยันจากผลการทดลองของสมบัติเชิงกลและเชิงพลวัต นอกจากนี้พบว่าปริมาณแมกนีเซียม ออกไซด์และสารต้านอนุมูลอิสระชนิดเอมีนส่งผลชัดเจนต่อเสถียรภาพของพอลิเมอร์ผสม โดยเฉพาะในวัฏภาค ยางธรรมชาติ
บทคัดย่อ (EN): Blending of two polymers usually gives rise to a new material having a better balance of properties than a single polymer. Blending of elastomers is undertaken for three main reasons: (i) improvement of the technical properties of the original elastomer, (ii) achievement of improved processing behaviour, and (iii) reduction in compound cost. In the present work, the blends of sulphur-cured chlorinated polyethylene (CPE) and natural rubber (NR) were prepared. The blend of the composition was 80/20 CPE/NR. Recyclability, mechanical and rheological properties of blends influenced by recycling cycles, the addition of magnesium oxide (MgO) and amine-based antioxidant were discussed. It was found that recycling of the 80/20 CPE/NR blends cured with the sulphur vulcanising system is possible, and their mechanical properties are not significantly affected by increasing recycling cycles. By contrast, the viscoelastic behaviour as determined from oscillatory flow is influenced strongly by recycling. The more the recycling cycles, the higher the viscous response due to a thermal degradation via chain scission process of NR phase as evidenced by a dynamic mechanical analyses. In addition, the addition of MgO or amine-based antioxidant plays a strong role on thermal stability of the blends, particularly on the NR phase
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=5068&obj_id=3344
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Viscoelastic materials
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: โดยทั่วไปกระบวนการผสมของพอลิเมอร์ 2 ชนิดนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ พอลิเมอร์เพียงชนิดเดียว เหตุผลหลักในการเตรียมพอลิเมอร์ผสม ได้แก่ (i) เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติทางเทคนิค เบื้องต้นของอีลาสโตเมอร์ (ii) เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต และ (iii) เพื่อลดต้นทุนการผลิต งานวิจัยนี้เป็นการ เตรียมพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอริเนตเตทพอลิเอทธิลีนกับยางธรรมชาติในสัดส่วน 80 ต่อ 20 โดยเชื่อมโยง พันธะในวัฏภาคยางธรรมชาติด้วยกำมะถัน สมบัติหลักของพอลิเมอร์ผสมที่ทำการวิเคราะห์ ได้แก่ ความสามารถของการนำกลับมาขึ้นรูปใหม่ สมบัติ เชิงกล และสมบัติการไหล โดยแปรเปลี่ยนจำนวนครั้งการนำกลับมาขึ้นรูปใหม่ ตลอดจนปริมาณแมกนีเซียม ออกไซด์ และสารต้านอนุมูลอิสระชนิดเอมีน จากการทดลองพบว่า พอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอริเนตเตทพอลิเอทธิลีนกับยางธรรมชาติในสัดส่วน 80 ต่อ 20 และทำการเชื่อมโยงโครงสร้างร่างแหด้วยกำมะถันสามารถนำกลับมาขึ้นรูปใหม่ได้ โดยที่สมบัติเชิงกลไม่ เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน ผลการไหลแบบสั่น แสดงให้เห็นว่าจำนวนครั้งของการนำกลับมา ขึ้นรูปใหม่ส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมการไหลของพอลิเมอร์ผสม กล่าวคือจำนวนครั้งของการนำกลับมาขึ้นรูปที่ เพิ่มขึ้นส่งผลให้การเสื่อมสภาพของวัฏภาคยางธรรมชาติภายใต้ความร้อนผ่านกระบวนการขาดออกของสายโซ่ โดยมีหลักฐานยืนยันจากผลการทดลองของสมบัติเชิงกลและเชิงพลวัต นอกจากนี้พบว่าปริมาณแมกนีเซียม ออกไซด์และสารต้านอนุมูลอิสระชนิดเอมีนส่งผลชัดเจนต่อเสถียรภาพของพอลิเมอร์ผสม โดยเฉพาะในวัฏภาค ยางธรรมชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการนำกลับมาใช้ใหม่ของพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอลิเนตเตืพอลิเอททิลีนกับยางธรรมชาติ
Preeyanuch Prasopnatra
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
สมบัติการไหลและสมบัติเชิงกลของพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอริเนตเทตพอลิเอทธิลีนและยางธรรมชาติที่เชื่อมโยงพันธะด้วยซัลเฟอร์ การศึกษาสมบัติการไหลและสมบัติเชิงกลในพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางคลอริเนเทตพอลิเอทธิลีนกับยางธรรมชาติโดยมีดินขาวเป็นสารตัวเติม การศึกษาความเป็นไปได้ของการนำพลังงานที่ได้จากเศษยางล้อรถที่ไม่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ภายในโรงงาน การปรับปรุงสมบัติการยึดติดระหว่างยางธรรมชาติกับยางไนไตรล์โดยวิธีคลอริเนชั่นบนพื้นผิวของยางธรรมชาติ การนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่และการนำกลับผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าจากโรงงานปลาแช่งแข็ง สมบัติของยางผสมระหว่างยางธรรมชาติกับ ทรานส์พอลิไอโซปรีนที่ผ่านการวัลคาไนซ์แล้ว สมบัติเชิงกลของวัสดุผสมเซรามิก/ท่อนาโนคาร์บอน/ยาง เพื่อใช้ทำยางรถยนต์ที่มีความต้านทานการหมุนต่ำ การเสริมแรงยางธรรมชาติโดยใช้สารตัวเติมผสมของซิลิกาและผงเขม่าดำ การศึกษาผลกระทบของเขม่าดำที่มีต่อสมบัติของพอลิเมอร์ผสมระหว่างยางธรรมชาติกับยางอะคริลิค การใช้แผ่นฟิล์มพอลิเอธิลีนกราฟท์มาเลอิคแอนไฮไดรด์สำหรับจับโปรตีนที่สกัดได้จากยางธรรมชาติ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก