สืบค้นงานวิจัย
การใช้ถ่านแกลบและถ่านชีวภาพ เพื่อรักษาความชื้นและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่นาดินทรายนอกเขตชลประทาน
วุฒิชัย จันทรสมบัติ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การใช้ถ่านแกลบและถ่านชีวภาพ เพื่อรักษาความชื้นและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่นาดินทรายนอกเขตชลประทาน
ชื่อเรื่อง (EN): Using carbonized rice husk and biochar for improve moisture and soil fertility on paddy sandy soil in rainfed area
บทคัดย่อ: การใช้ถ่านแกลบและถ่านชีวภาพ เพื่อรักษาความชื้นและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ในพื้นที่นาดินทรายนอกเขตชลประทาน ระหว่างปี 2556 - 2558 ณ แปลงทดลอง ตำบลนาหว้า อำเภอนาป่าแซง จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อศึกษาผลของถ่านแกลบและถ่านชีวภาพต่อความชื้นของดิน ความอุดมสมบรูณ์ของดิน การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวในพื้นที่นาดินทรายนอกเขตชลประทาน วางแผนการทดลองแบบ RCBD มี 7 ตำรับ จำนวน 3 ซ้ำ ดังนี้ ตำรับที่ 1 ควบคุม ตำรับที่ 2 ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน ตำรับที่ 3 ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยหมัก อัตรา 600 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับที่ 4 ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับถ่านแกลบ อัตรา 600 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับที่ 5 ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับถ่านชีวภาพ อัตรา 600 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับที่ 6 ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยหมักอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่ และถ่านแกลบ อัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับที่ 7 ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยหมักอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่ และถ่านชีวภาพ อัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่ จากการศึกษาพบว่า การใส่ปุ๋ยหมัก ถ่านแกลบ และถ่านชีวภาพ ที่อัตรา 300 หรือ 600 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน มีผลให้อินทรียวัตถุในดินปรับเพิ่มขึ้นเป็น 0.63 - 0.80 เปอร์เซ็นต์ มีการสะสมปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน และปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ในดิน เพิ่มขึ้นในปีที่ 2 ส่วนปริมาณแคลเซียมและปริมาณแมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยนได้สะสมเพิ่มขึ้นทุกปี และมีการสะสมสูงกว่าการใส่ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว ขณะที่การใส่ถ่านชีวภาพอัตรา 600 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน ส่งผลให้ค่าความจุสนาม ค่าจุดเหี่ยวถาวร และค่าความจุความชื้นที่เป็นประโยชน์ในดินสูงสุด ส่วนค่าความหนาแน่นรวมของดินทุกตำรับมีค่าไม่แตกต่างกัน ดังนั้นการใส่ปุ๋ยหมักอัตรา 600 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินต่อเนื่อง 2 ปี มีผลให้ค่าเฉลี่ยน้ำหนักเมล็ดข้าวที่ความชื้น 14 เปอร์เซ็นต์ มีค่าสูงสุด 763.78 กิโลกรัมต่อไร่ สามารถเพิ่มผลผลิตได้ 11.45 - 28.72 เปอร์เซ็นต์
บทคัดย่อ (EN): The effect of using carbonized rice husk and biochar on moisture conservation, soil fertility improvement, growth and rice yield were studied during 2013 - 2016 in rainfed area at Na Pa Saeng, Pathum Rat Wongsa, Amnat Charoen province .The experimental design was RCBD with 7 treatment and 3 replication. There were (1) control method (without fertilizer), (2)chemical fertilizer recommend by Department of Agriculture (CF), (3) CF+ 600 kg/rai of compost, (4) CF+ 600 kg/rai of carbonized rice husk (CRH), (5) CF+ 600 kg/rai of biochar, (6) CF+ 300 kg/rai of compost + 300 kg/rai of CRH, (7) CF+ 300 kg/rai of compost + 300 kg/rai of biochar. The results showed that using 300 kg/rai or 600 kg/rai of compost, carbonized rice husk and biochar with chemical fertilizer at third year after harvesting had an effect on organic matter in the soil increasing from 0.63 to 0.80 %. Available phosphorus and exchangeable potassium were increased at the second year after harvesting. Moreover, the amount of exchangeable calcium and magnesium were accumulated continuously every year more than using only chemical fertilizer. While using 600 kg/rai of biochar with chemical fertilizer followed by soil analysis showed the highest effect on the field capacity, permanent wilting point and available water capacity of the soil. However, The bulk density of soil had not different significantly in each treatment. Concisely, Application of 600 kg/rai of compost with chemical fertilizers followed by soil analysis continuously 2 year performed the best results of average rice weight of 14 % as 763.78 kg /rai and yield increasing between 11.45 to 28.72.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ข้าวหอมมะลิ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้ถ่านแกลบและถ่านชีวภาพ เพื่อรักษาความชื้นและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่นาดินทรายนอกเขตชลประทาน
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2558
การประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดินพื้นที่ทุ่งหมาหิวจังหวัดอุบลราชธานี การใช้สาหร่ายน้ำจืดท้องถิ่นปรับปรุงโครงสร้างดินและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่นาดินทรายนอกเขตชลประทาน ผลของการปรับปรุงดินด้วยถ่านชีวภาพต่อสมบัติเคมี-ฟิสิกส์ของดินทรายในพื้นที่ปลูกยางพาราภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การศึกษาระบบการปลูกข้าวพร้อมพืชบำรุงดินที่เหมาะสมในพื้นที่นาดินทรายนอกเขตชลประทาน ศึกษาระดับแรงดึงความชื้นในดินร่วมกับการใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตว่านหางจระเข้ในชุดดินปราณบุรี เทคโนโลยีการใช้ถ่านเพื่อปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน และเพิ่มผลผลิตข้าวขาวมะลิ 105 ภายใต้สภาพดินเค็ม การศึกษาผลของถ่านชีวภาพไบโอชาร์และการใช้ปุ๋ยหมักต่อการเปลี่ยนแปลงความอุดมสมบูรณ์ของดินและผลผลิตในระบบการปลูกมันสำปะหลัง ศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยชีวภาพ พด.12 ด้วยถ่านชีวภาพ(ไบโอชาร์) ต่อการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและผลผลิตพืช การปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและผลผลิตมันสำปะหลังในสภาพดินทรายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก