สืบค้นงานวิจัย
ความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นและอายุการไถกลบที่มีผลต่อมวลชีวภาพและคุณภาพของโสนอัฟริกัน
สุกัญญา ทวีกิจ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นและอายุการไถกลบที่มีผลต่อมวลชีวภาพและคุณภาพของโสนอัฟริกัน
ชื่อเรื่อง (EN): Interaction between density and growing period of Sesbania rostrata on their biomass and quality.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุกัญญา ทวีกิจ
บทคัดย่อ: การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นและอายุการไถกลบที่มีผลต่อมวลชีวภาพและคุณภาพของโสนอัฟริกัน ดำเนินการในกลุ่มชุดดินที่ 20 (ชุดดินกุลาร้องไห้) เริ่มดำเนินการปีงบประมาณ 2554 บนพื้นที่แปลงเกษตรกรอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาวิธีการผลิตโสนอัฟริกันให้มีคุณภาพและเหมาะสมกับเครื่องมือที่เกษตรกรมีอยู่ในการไถกลบโสนอัฟริกันเป็นพืชปุ๋ยสด วางแผนการทดลองแบบ Split plot design ประกอบด้วย main plot คือ อายุการไถกลบโสนอัฟริกัน และ sub plot คือ อัตราเมล็ดพันธุ์ที่หว่าน ประกอบด้วย 3 main plots ได้แก่ อายุการไถกลบที่ 30 วัน, 45 วัน และ 60 วัน มี 3 sub plots ได้แก่ อัตราเมล็ดพันธุ์ 5 กิโลกรัมต่อไร่, 10 กิโลกรัมต่อไร่ และ 15 กิโลกรัมต่อไร่ ผลการทดลองสรุปได้ว่า การปลูกโสนอัฟริกันในพื้นที่ดินเค็ม สามารถช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน โดยปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีค่าเพิ่มสูงขึ้นในทุกตำรับการทดลอง โดยมีค่าอยู่ระหว่าง 1.15-1.89 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และโสนอัฟริกันที่อายุมากขึ้นจะช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดินมากกว่าโสนอัฟริกันที่อายุน้อย และนอกจากนี้ยังพบความสัมพันธ์ระหว่างอายุการไถกลบและอัตราเมล็ดพันธุ์ โดยอายุการไถกลบ 60 วัน และอัตราเมล็ดพันธุ์ 10 กก./ไร่ จะช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดินสูงที่สุด คือ 1.89 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้อัตราเมล็ดพันธุ์ที่หว่าน ยังมีผลต่อมวลชีวภาพของต้นโสนอัฟริกัน กล่าวคือ อัตราเมล็ดพันธุ์ 5 กิโลกรัมต่อไร่ ทำให้มวลชีวภาพของต้นโสนอัฟริกันต่ำที่สุดในทุกๆ อายุการไถกลบ รองลงมาคืออัตราเมล็ดพันธุ์ 15 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนอัตราเมล็ดพันธุ์ 10 กิโลกรัมต่อไร่ ทำให้มวลชีวภาพของต้นโสนอัฟริกันสูงที่สุดในทุกๆ อายุการไถกลบ ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า หากต้นโสนอัฟริกันมีความหนาแน่นน้อย (5 กิโลกรัมต่อไร่) หรือมากเกินไป (15 กิโลกรัมต่อไร่) จะทำให้มวลชีวภาพของต้นโสนอัฟริกันไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น อัตราเมล็ดพันธุ์ที่หว่าน 10 กิโลกรัมต่อไร่ จึงน่าจะเป็นอัตราที่เหมาะสมที่สุด ที่ทำให้โสนอัฟริกันมีมวลชีวภาพสูงที่สุด
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: คุณภาพ
คำสำคัญ (EN): quality
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นและอายุการไถกลบที่มีผลต่อมวลชีวภาพและคุณภาพของโสนอัฟริกัน
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2554
คัดเลือกไรโซเบียมที่มีประสิทธิภาพในการตรึงไนโตรเจนและผลิต Indole-3-acetic acid (IAA) เพื่อเพิ่มมวลชีวภาพสำหรับโสนอัฟริกัน การเลี้ยงลูกปลาช่อนด้วยอัตราความหนาแน่นต่างกัน การจัดการดินด้วยแกลบร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มมวลชีวภาพพืชปุ๋ยสด และคุณภาพผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในดินเค็มปานกลาง การปรับปรุงคุณภาพแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลางจากไม้ยางพาราเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คัดแยกและคัดเลือกจุลินทรีย์ไรโซเบียมทนเค็มเพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสนอัฟริกันที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ดินเค็ม ศึกษาอัตราปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงที่เหมาะสมร่วมกับจุลินทรีย์ชีวภาพ พด. 11 สำหรับโสนอัฟริกันเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวพันธุ์สันป่าตอง 1 ในกลุ่มชุดดินที่ 59 ผลของอัตราเมล็ดพันธุ์และอายุในการไถกลบของโสนอัฟริกัน (Sesbania rostrata) ต่อผลผลิตของข้าวนาดำ การประยุกต์ใช้จุลินทรีย์สำหรับพืชปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสนอัฟริกันและผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในพื้นที่ดินเค็มน้อย ผลของความร้อนคลื่นความถี่วิทยุต่อการควบคุมเชื้อรา Aspergillus flavus สารพิษอะฟลาทอกซินบี 1 และคุณภาพการหุงต้มของข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 บรรจุถุงที่มีความหนาแน่นต่างกัน การเลี้ยงปลาชะโอนในกระชังที่ความหนาแน่นแตกต่างกัน 2 ช่วงอายุ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก