สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อพัฒนาเส้นใยไหมมาใช้ในการผลิตเสื้อเกราะ
สุจิระ ขอจิตต์เมตต์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ชื่อเรื่อง: การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อพัฒนาเส้นใยไหมมาใช้ในการผลิตเสื้อเกราะ
ชื่อเรื่อง (EN): The Feasibility study of Developing silk fibers untilizing in producing bullet proof vests
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุจิระ ขอจิตต์เมตต์
บทคัดย่อ: เสื้อเกราะที่ใช้ในปัจจุบันเป็นผลิตภัณฑ์สั่งเข้ามาจากต่างประเทศมีราคาสูง การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อพัฒนาเส้นใยไหมมาใช้ในการผลิตเสื้อเกราะ ซึ่งจากผลการศึกษาสามารถทำการผลิตเสื้อเกราะโดยใช้วัตถุดิบจากเส้นใยไหม กำหนดให้เส้นด้ายยืนม่จำนวน 32 เส้นต่อนิ้ว และเส้นด้ายพุ่งมีจำนวน 64 เส้น ต่อนิ้ว นำมาทอเป็นผืนผ้าตามโครงสร้างลายผ้าแบบ Basket 2x2 ขนาดของเส้นด้ายยืนที่นำมาใช้ขนาด 455 ดีเนียร์ (Denier) ค่าความเหนียวของเส้นด้าย เส้นด้ายยืนมีค่าความเหนียว 120 ปอนด์ ค่าความเหนียวเส้นด้ายพุ่ง 400 ปอนด์ นำผ้าไปวางแบบตัดทำชิ้นทดสอบขนาด 6 x 6 นิ้ว เริ่มต้นความหนาตั้งแต่ 30 ชั้น 35 ชั้น ลักษณะการวางเรียงชั้นผ้าไหมวางสลับเส้นยืน เส้นพุ่ง จากผลการศึกษาการเจาะทะลุของกระสุน จึงเลือกใช้ชั้นความหนาที่ชั้น 30 ชั้น การเย็บแต่ละชั้น วางทิศทางการเย็บลายตารางหมากรุก และเย็บซิกแซ็ก เพื่อลดช่องว่างและเพิ่มความแข็งแรงจนครบ 15 ชั้น จึงนำมารวมกันจนครบ 30 ชั้น แล้วเย็บติดรวมกันด้วยเส้นด้ายยาว นำชิ้นทดสอบไปทดลองที่ระยะหวังผลที่ต่างกัน 3 ระดับ คือ 3 หลา 7 หลา และ 15 หลา ผลการทดสอบการยิง สามารถป้องกันกระสุนขนาด .22 แอลอาร์ และ .38 สเปเชียล .45 แมกนั่มได้ Since all bullet proof vests used in Thailand are mainly imported from Europe and the United States of America. Also these vests are very expensive. The Misistry of Defense needs to have an alternative material that can replace the imported vests. Therefore, this prohect is to syudy a feasibility of developing silk fibers utilizing in producing bulletproof vests. From the experiment that were done by the researchers, it was found that the silk fiber vest can become a bullet proof vest using a woven fabric (basket 2x2 structure) produced by 32 warp yarn per inch and 64 weft yarns per inch. The size of the warp and the weft yarn were 455 and 490 denier respectively. The silk fabric was cut into 6x6 inches and the fabric was placed from 30 , 35 The directions that silk fabrics were placed cross between warp and weft yarns. From an experiment, it was found that certain bullets did not penetrate more than 30 layers. Hence the silk vest was decided to have 30 layers. The 15-layer fabric was sewn in zigzag and diagonal directions with an industrial sewing machine in order to reduce holes on the fabric and the fabric and the fabric was covered with a nylon fabric from both sides as and outer layer. The silk vest was then shot at 3 , 7 and 15 yards. From an experiment, it was found that.22 LR . 38 Special .45 magmum bullets also not penetrate through the vest.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=49&RecId=55&obj_id=57
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คำสำคัญ: วิจัย
คำสำคัญ (EN): TS 1546
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
รายละเอียด: เสื้อเกราะที่ใช้ในปัจจุบันเป็นผลิตภัณฑ์สั่งเข้ามาจากต่างประเทศมีราคาสูง การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อพัฒนาเส้นใยไหมมาใช้ในการผลิตเสื้อเกราะ ซึ่งจากผลการศึกษาสามารถทำการผลิตเสื้อเกราะโดยใช้วัตถุดิบจากเส้นใยไหม กำหนดให้เส้นด้ายยืนม่จำนวน 32 เส้นต่อนิ้ว และเส้นด้ายพุ่งมีจำนวน 64 เส้น ต่อนิ้ว นำมาทอเป็นผืนผ้าตามโครงสร้างลายผ้าแบบ Basket 2x2 ขนาดของเส้นด้ายยืนที่นำมาใช้ขนาด 455 ดีเนียร์ (Denier) ค่าความเหนียวของเส้นด้าย เส้นด้ายยืนมีค่าความเหนียว 120 ปอนด์ ค่าความเหนียวเส้นด้ายพุ่ง 400 ปอนด์ นำผ้าไปวางแบบตัดทำชิ้นทดสอบขนาด 6 x 6 นิ้ว เริ่มต้นความหนาตั้งแต่ 30 ชั้น 35 ชั้น ลักษณะการวางเรียงชั้นผ้าไหมวางสลับเส้นยืน เส้นพุ่ง จากผลการศึกษาการเจาะทะลุของกระสุน จึงเลือกใช้ชั้นความหนาที่ชั้น 30 ชั้น การเย็บแต่ละชั้น วางทิศทางการเย็บลายตารางหมากรุก และเย็บซิกแซ็ก เพื่อลดช่องว่างและเพิ่มความแข็งแรงจนครบ 15 ชั้น จึงนำมารวมกันจนครบ 30 ชั้น แล้วเย็บติดรวมกันด้วยเส้นด้ายยาว นำชิ้นทดสอบไปทดลองที่ระยะหวังผลที่ต่างกัน 3 ระดับ คือ 3 หลา 7 หลา และ 15 หลา ผลการทดสอบการยิง สามารถป้องกันกระสุนขนาด .22 แอลอาร์ และ .38 สเปเชียล .45 แมกนั่มได้ Since all bullet proof vests used in Thailand are mainly imported from Europe and the United States of America. Also these vests are very expensive. The Misistry of Defense needs to have an alternative material that can replace the imported vests. Therefore, this prohect is to syudy a feasibility of developing silk fibers utilizing in producing bulletproof vests. From the experiment that were done by the researchers, it was found that the silk fiber vest can become a bullet proof vest using a woven fabric (basket 2x2 structure) produced by 32 warp yarn per inch and 64 weft yarns per inch. The size of the warp and the weft yarn were 455 and 490 denier respectively. The silk fabric was cut into 6x6 inches and the fabric was placed from 30 , 35 The directions that silk fabrics were placed cross between warp and weft yarns. From an experiment, it was found that certain bullets did not penetrate more than 30 layers. Hence the silk vest was decided to have 30 layers. The 15-layer fabric was sewn in zigzag and diagonal directions with an industrial sewing machine in order to reduce holes on the fabric and the fabric and the fabric was covered with a nylon fabric from both sides as and outer layer. The silk vest was then shot at 3 , 7 and 15 yards. From an experiment, it was found that.22 LR . 38 Special .45 magmum bullets also not penetrate through the vest.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สุจิระ ขอจิตต์เมตต์. "การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อพัฒนาเส้นใยไหมมาใช้ในการผลิตเสื้อเกราะThe Feasibility study of Developing silk fibers untilizing in producing bullet proof vests". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. 2542

สุจิระ ขอจิตต์เมตต์. "การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อพัฒนาเส้นใยไหมมาใช้ในการผลิตเสื้อเกราะThe Feasibility study of Developing silk fibers untilizing in producing bullet proof vests". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. 2542. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อพัฒนาเส้นใยไหมมาใช้ในการผลิตเสื้อเกราะ
สุจิระ ขอจิตต์เมตต์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
2542
การวิจัยและพัฒนาเครื่องเตรียมเส้นไหมเพื่อมัดหมี่ การวิจัยและพัฒนาเครื่องค้นหูกเส้นไหมและเครื่องขึ้นฟืมเส้นไหมสำหรับวิสาหกิจชุมชน การใช้ประโยชน์จากเศษไหม การผลิตแหนมไก่โดยใช้เชื้อบริสุทธิ์ รายงานการวิจัยการพัฒนาการผลิตเห็ดเพื่อการค้า การเปรียบเทียบไหมไทยลูกผสมเชิงเดี่ยวในสถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์กระดาษจากต้น เปลือก และซังข้าวโพด โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน รายงานการวิจัย เรื่อง การส่งเสริมการผลิตไข่เค็มเป็นอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าต าบลสามบันฑิต อ าเภ ออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานการวิจัยเรื่องบุคลิกภาพที่มีประสิทธิภาพในการถ่ายทอดความรู้ของผู้นำการทอผ้าในชุมชนทอผ้าไหมพุมเรียง จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานการวิจัยการพัฒนาท่อใยกลวงเชิงประกอบสำหรับใช้ในกระบวนการผลิตอะซีโตน-บิวทานอล-เอทานอลจากมันสำปะหลังโดยใช้ระบบเพอร์แวปเพอร์เรชั่น
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair