สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาสูตรอาหารและสภาพห้องบ่มในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออ้อยระยะชักนำต้นอ่อนให้ออกราก
วัชรีพร โอฬารกนก - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาสูตรอาหารและสภาพห้องบ่มในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออ้อยระยะชักนำต้นอ่อนให้ออกราก
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วัชรีพร โอฬารกนก
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสูตรอาหารและสภาพห้องบ่มในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออ้อยระยะชักนำต้นอ่อนให้ออกราก และต้องการหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตต้นแม่พันธุ์อ้อยปลอดโรคจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยคำนึงถึงปริมาณและคุณภาพของต้นอ่อนอ้อย ใช้แผนการทดลองแบบ 3x3 Factorial in CRD with series of experiment กระทำ 3 ซ้ำใช้การวิเคราะห์แบบ combined analysis โดยกำหนดให้สภาพห้องที่ใช้บ่มเนี้อเยื่อ 2 ลักษณะ เป็น main effects ประกอบด้วยสภาพห้องบ่มที่ควบคุมอุณหภูมิ 25 - 27 องศาเซลเซียส ที่ใช้ปฏิบัติงานอยู่เป็นประจำและสภาพห้องปกติไม่ควบคุมอุณหภูมิที่ต้องการพัฒนานำมาใช้ และปัจจัยสูตรอาหารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อระยะชักนำต้นอ่อนอ้อยให้ออกราก 3 สูตร คือ อาหารสูตร MS + NAA 5.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นสูตรเดิมที่ใช้ในการปฏิบัติงานเป็นประจำ กับอาหารสูตร MS + IBA 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่ต้องการพัฒนานำมาใช้และอาหารสูตร MS ไม่ใส่ฮอร์โมนใช้เป็นตัวยืนยันผลของฮอร์โมน NAA และ IBA โดยมีปัจจัยอ้อยพันธุ์ส่งเสริม 3 พันธ์ คือ พันธ์.เอฟ 140 ,พันธุ์ฟิลิปปินส์ 58/260 และพันธุ์อู่ทอง 2 ผลการวิจัยปรากฏว่าเมื่ออายุ 3 สัปดาห์ หลังจากย้ายต้นอ่อนอ้อยลงในอาหารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่ใช้ทดสอบ ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์กอที่ออกรากของอ้อย 3 พันธุ์ในสภาพห้องบ่ม 25 -27 องศาเซลเซียส ให้ค่าเฉลี่ยเปอเซ็นต์กอที่ออกราก เท่ากับ 26 สูงกว่าสภาพห้องปกติ ซึ่งมีค่าเท่ากับ 57.10 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ สำหรับผลการวิเคราะห์ระหว่างพันธุ์อ้อยกับสูตรอาหาร ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์กอที่ออกราก จากอ้อยทุกพันธุ์ปรากฏว่า อาหารสูตร MS + IBA 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์กอที่ออกรากเท่ากับ 83.60 สูงกว่าอาหารสูตร MS + NAA 5.0 มิลลิกรัมต่อลิตร และอาหารสูตร MS ไม่ใส่ฮอร์โมน ซึ่งให้ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์กอที่ออกรากเท่ากับ 75.74 และ 30.74 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ ส่วนจำนวนรากของต้นอ่อนอ้อย เมื่ออายุ 3 สัปดาห์ ผลการวิเคราะห์ปรากฏว่าอาหารทั้ง 3 สูตร ให้จำนวนรายกของต้นอ่อนอ้อย ในสภาพห้องควบคุมอุณหภูมิ 25-27 องศาเซลเซียส เท่ากับ 164.44 เส้น สูงกว่าจำนวนรากของต้นอ่อนอ้อยในสภาพห้องปกติซึ่งมีค่าเท่ากับ 92.52 เส้น อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ เมื่อเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์จำนวนรากของต้นอ่อนอ้อย ระหว่างพันธุ์อ้อยกับสูตรอาหาร ปรากฏว่าเกิดอิทธิพลร่วม กล่าวคือ ในอาหารสูตร MS + IBA 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร เมื่อนำไปใช้เลี้ยงต้นอ่อนอ้อยในระยะชักนำให้เกิดราก กับอ้อยพันธุ์ฟิลิปปินส์ 58/260 และพันธุ์อู่ทอง 2 จะให้จำนวนรากของต้นอ่อนอ้อย เท่ากับ 169.33 เส้นและ 186.33 เส้น มากกว่าอาหารสูตร MS + NAA 5.0 มิลลิกรัมต่อลิตรซึ่งมีค่าเท่ากับ 170.00 เส้น อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ค่าเฉลี่ยความยาวรากของต้นอ่อนอ้อย เมื่ออายุ 3 สัปดาห์ เปรียบเทียบระหว่างอาหารสูตรที่ชักนำให้ออกราก 3 สูตร กับสภาพห้องบ่มทั้ง 2 แบบนั้น อาหารสูตร MS + IBA 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้ค่าเฉลี่ยความยาวรากของต้นอ่อนสูงที่สุดในจำนวนอาหาร 3 สูตร คือมีค่าเท่ากับ 1.60 นิ้ว รองลงมาคืออาหารสูตร MS+NAA 5.0 มิลลิกรัมต่อลิตรและอาหารสูตร MSไม่ใส่ฮอร์โมน ซึ่งมีค่าเท่ากับ 1.27 และ 1.01 นิ้วตามลำดับ ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัสยสำคัญทางสถิติ สำหรับค่าเฉลี่ยของสภาพห้องนั้น สภาพห้องควบคุมอุณหภูมิ 25-27 องศาเซลเซียส ให้ค่าเฉลี่ยความยาวรากเท่ากับ 1.53 นิ้ว มากกว่าสภาพห้องปกติ ซึ่งมีค่าเท่ากับ 1.06 นิ้ว อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ เปอร์เซ็นต์การอยู่รอดของต้นอ่อนอ้อย เมื่ออายุ 30 วัน หลังนำออกอนุบาลในโรงเรือน เกิดอิทธิพลร่วม 3 ระดับ ระหว่างพันธุ์อ้อย สูตรอาหารและสภาพห้องบ่ม ในสภาพห้องควบคุมอุณหภูมิ 25 - 27 องศาเซลเซียส ให้ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การอยู่รอดของต้นอ่อนอ้อย เท่ากับ 65.69 สูงกว่าสภาพห้องปกติ ซึ่งมีค่าเท่ากับ 46.91 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ ในอาหารสูตร MS+NAA 5.0 มิลลิกรัมต่อลิตร และอาหารสูตร MS+IBA 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การอยู่รอดของต้นอ่อนของอ้อยเท่ากับ 70.30 และ 74.26 แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่สูงกว่าอาหารสูตร MS ไม่ใส่ฮอร์โมนซึ่งมีค่าเท่ากับ 24. 35 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากผลการศึกษาวิจัยข้างต้นสามารถสรุปและเสนอแนะได้ว่า การผลิตอ้อยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อระยะชักนำต้นอ่อนให้ออกรากในอาหารสูตร Murashige and Skoog (1962) สามารถใช้ฮอร์โมน IBA 0.2 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 ลิตร แทนอาหารสูตรเดิมที่ใช้ออร์โมน NAA 5.0 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 ลิตร โดยให้ปริมาณและคุณภาพของต้นอ่อนสูงกว่า และราคาฮอร์โมนที่ใช้ชักนำให้อ้อยออกรากถูกลงขึ้นกับบริษัทผู้จำหน่าย ส่วนการประหยัดค่ากระแสไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศ นั้น การนำยอดอ่อนอ้อยมาชักนำให้ออกรากในสภาพห้องปกติไม่ควบคุมอุณหภูมิ สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 0.4477 บาทต่อกอทั้งนี้ผู้รับผิดชอบควรพิจารณาการตัดสินใจให้เหมาะสมกับเหตุการณ์เป็นกรณี ๆ ไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ระยะชักนำต้นอ่อน
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาสูตรอาหารและสภาพห้องบ่มในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออ้อยระยะชักนำต้นอ่อนให้ออกราก
กรมส่งเสริมการเกษตร
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
การขยายพันธุ์ต้น Tea Tree โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชพื้นเมือง การผลิตต้นกล้าพืชสกุลเร่วโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ศึกษาสูตรอาหารและส่วนของพืชในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อยางพารา การเพาะเลี้ยงพรรณพืชวงศ์ขิงบางชนิดที่พบที่เขื่อนสิริกิติ์โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การพัฒนาระบบขยายพันธุ์ว่านชักมดลูก โดยวิธีการเพาะเลี้ยง เนื้อเยื่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตพืชสมุนไพร การเพาะเลี้ยงกบจาน การปรับปรุงพันธุ์หญ้าแพงโกล่าโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วยไม้ป่าของประเทศไทยที่ใกล้จะสูญพันธ์ เพื่อการอนุรักษ์พันธุกรรม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก