สืบค้นงานวิจัย
การตรวจการติดเชื้อวัณโรคจากตัวอย่างเลือดในกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี
เบญจวรรณ เพชรสุขศิริ - สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ National Institute of Health, Department of Medical Science
ชื่อเรื่อง: การตรวจการติดเชื้อวัณโรคจากตัวอย่างเลือดในกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เบญจวรรณ เพชรสุขศิริ
บทคัดย่อ: โรคติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคเอดส์และวัณโรคเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย และเป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ติดเชื้อทั้งสองร่วมกัน องค์การอนามัยโลกแนะนำให้มีการตรวจวินิจฉัย และรักษาการติดเชื้อวัณโรคในระยะแรกที่ยังไม่มีอาการที่เรียกว่าวัณโรคแฝงในผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากการรักษาวัณโรคแฝงสามารถลดอัตราการเกิดวัณโรคในผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้มาก และหากไม่ทำการรักษาวัณโรคแฝง แต่ปล่อยให้เกิดวัณโรคในระยะเวลาต่อมา การรักษาวัณโรคในผู้ป่วยเอชไอวีจะมีความยุ่งยากซับซ้อน ยารักษาอาจมีปฏิกิริยาต่อกัน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดวัณโรคดื้อยาทำให้การรักษาล้มเหลว วิธีการตรวจวัณโรคแฝงที่ปฏิบัติทั่วไปคือการทดสอบทางผิวหนังโดยการทดสอบทูเบอร์คิวลิน วิธีนี้มีความไวต่ำ อาจให้ผลลบลวงโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผลตรวจแยกไม่ได้กับกลุ่มผู้ที่ติดเชื้อ mycobacteria หรือได้รับวัคซีนบีซีจีป้องกันวัณโรค นอกจากนี้ผู้ป่วยต้องกลับมาเพื่อติดตามอ่านผล และการทดสอบต้องอาศัยความชำนาญ การตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อวัณโรคจากตัวอย่างเลือด โดยการตรวจสารอินเตอร์เฟอรอนแกมมา (IFN-g) ที่สร้างจาก T lymphocyte เมื่อตอบสนองต่อเปบไตด์แอนติเจนที่จำเพาะต่อเชื้อวัณโรคในหลอดทดสอบ เป็นวิธีที่มีการใช้ตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อวัณโรค สามารถตรวจการติดเชื้อวัณโรคในผู้ป่วยวัณโรคและตรวจวัณโรคแฝง มีใช้แพร่หลายมากขึ้น ทำการตรวจวิเคราะห์ได้โดยใช้ชุดตรวจ QuantiFERON-TB Gold in-tube (QFT) ทราบผลได้ใน 2 วัน จากการวิเคราะห์กลุ่มตัวอย่างเลือดส่งตรวจ จำนวน 1,774 ตัวอย่าง ทำการตรวจวัดระดับ IFN-g ด้วย QFT test วิเคราะห์ผลด้วย QFT software ระดับสาร IFN-g สูงกว่า 0.35 IU/ml แปลผลมีการติดเชื้อวัณโรค วิเคราะห์ผลตรวจสาร IFN-g ในตัวอย่างเลือด เพื่อศึกษาอัตราการติดเชื้อวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผลการตรวจในกลุ่มผู้ป่วยต่างๆ เป็นกลุ่มตัวอย่างผู้ติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 286 ตัวอย่าง มีอัตราผลบวกหรือติดเชื้อวัณโรค 20.63% เปรียบเทียบกับกลุ่มประชากรปกติตรวจสุขภาพมีอัตราผลบวก 14.46% อัตราการอ่านผลไม่ได้เนื่องมาจากภาวะภูมิคุ้มกันต่ำในผู้ติดเชื้อเอชไอวีสูงกว่ากลุ่มประชากรสุขภาพดี ผู้ที่มีผลตรวจบวกมีการติดเชื้อวัณโรค ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัดเป็นวัณโรคระยะแพร่โรคหรือไม่ สำหรับในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดแนวทางการตรวจวัณโรคแฝงขึ้นมาอย่างชัดเจน แต่จากแนวทางการให้การรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีวัณโรคแฝงร่วมด้วยสามารถลดอัตราการเกิดวัณโรค ดังนั้น การตรวจวัณโรคจากเลือดโดยตรวจสารอินเตอร์เฟอรอนแกมมาเพื่อตรวจวัณโรคระยะแฝงจึงเป็นวิธีเลือกที่น่าจะเป็นประโยชน์ โดยผลการตรวจวิเคราะห์มีความถูกต้องแม่นยำ เป็นข้อมูลช่วยในการดูแลและควบคุมวัณโรคในกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดอุบัติการณ์การเกิดโรค สนับสนุนการยุติวัณโรค
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://nih.dmsc.moph.go.th/research/showimgdetil.php?id=611
เผยแพร่โดย: สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ National Institute of Health, Department of Medical Science
คำสำคัญ: ผู้ติดเชื้อเอชไอวี
เจ้าของลิขสิทธิ์: สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การตรวจการติดเชื้อวัณโรคจากตัวอย่างเลือดในกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ National Institute of Health, Department of Medical Science
2560
รูปแบบของการใช้ IGRA test เพื่อการควบคุมวัณโรค: กลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผลการรักษาแบบป้องกัน ผลของการให้โภชนบำบัดทางการแพทย์เพื่อเสริมสร้างความเข็มแข็งของกระดูกในผู้ติดเชื้อเอชไอวี การเจริญของเชื้อ Macrophomina phaseolina ในส่วนต่าง ๆ ของพืชภายหลังการติดเชื้อของราก การพัฒนาชุดทดสอบเพื่อวินิจฉัยสภาวะการติดเชื้อเลปโตสไปร่าและ serovars ที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในปศุสัตว์ การพัฒนา ELISA สำหรับตรวจการติดเชื้อ Actinobacillus pleuropneumoniae โดยใช้รีคอมบิแนนท์โปรตีน Apx IV การตรวจการติดเชื้อ Mycoplasma hyopneumoniae จากเนื้อเยื่อแช่ฟอร์มาลินโดยวิธี อิมมูโนเปอร์ออกซิเดส แนวทางใหม่ในการรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีหนึ่ง ความชุกของแอนติบอดีต่อการติดเชื้อ Neospora caninum ในสุนัขทางภาคกลางของประเทศไทย การพัฒนาชุดทดสอบ Multiplex PCR สำหรับจำแนกชนิดเชื้อ Mycobacterium bovis และ Mycobacterium tuberculosis การติดเชื้อตัวอ่อนพยาธิใบไม้ระยะเซอร์คาเรียของหอยน้ำจืดวงศ์ Thiaridae ในประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก