สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพของเชื้อราทำลายแมลงต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและเพลี้ยจักจั่นสีเขียว
เพชรหทัย ปฏิรูปานุสร - กรมการข้าว
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพของเชื้อราทำลายแมลงต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและเพลี้ยจักจั่นสีเขียว
ชื่อเรื่อง (EN): Pathogenicity of entomopathogenic fungi on brown planthopper (Nilaparvata lugens) and green leafhopper (Nephotettix virescens)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เพชรหทัย ปฏิรูปานุสร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Pethathai Patirupanusara
บทคัดย่อ: ทดลองใช้สปอร์แขวนลอยของเชื้อรา Metarhizium anisopliae ซึ่งแยกได้จากหนอนด้วงแรด มะพร้าวและเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และเชื้อรา Beauveria bassiana จากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และตั๊กแตนปาทังกาความเข้มข้น 10**(8) สปอร์/มล. กับเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและเพลี้ยจักจั่นสี เขียวในห้องปฏิบัติการ แล้วคัดเลือกเชื้อราที่มีประสิทธิภาพดี ไปทดสอบในแปลงทดลองใช้ความเข้ม ข้น 10**(4)-10**(7) สปอร์/มล. จากการทดลองในห้องปฏิบัติการ เชื้อรา M. anisopliae และ B. bassiana ที่แยกได้จากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทำให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลตัวเต็มวัยเกิดโรคดีไม่ ต่างกัน (75 และ 58.75 เปอร์เซ็นต์) สำหรับผลต่อตัวอ่อน เชื้อรา M. anisopliae จากเพลี้ย กระโดดสีน้ำตาลดีที่สุด เกิดโรค 56.25 เปอร์เซ็นต์ ผลต่อเพลี้ยจักจั่นสีเขียวตัวเต็มวัย เชื้อรา M. anisopliae และ B. bassiana จากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำให้เกิดโรคดีไม่ต่างกัน (66.25 และ 62.50 เปอร์เซ็นต์) แต่กับตัวอ่อน เกิดโรคค่อนข้างต่ำทุกกรรมวิธี ในแปลงทดลอง เชื้อรา M. anisopliae เข้มข้น 10**(6)-10**(7) สปอร์/มล. เกิดโรคกับตัวเต็มวัยเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลดีกว่า กรรมวิธีอื่นๆ (48.33-51.67 เปอร์เซ็นต์) แต่การเกิดโรคกับตัวอ่อน ความเข้มข้น 10**(4)-10**(7) สปอร์/มล.ไม่ต่างกับ B. bassiana 10**(6)-10**(7) สปอร์/มล. (33.33-50 เปอร์เซ็นต์) เมื่อ ทดสอบกับเพลี้ยจักจั่นสีเขียว เชื้อรา M. anisopliae ความเข้มข้น 10**(6)-10**(7) สปอร์/มล. เกิด โรคกับตัวเต็มวัยดีที่สุด (43.33-48.33 เปอร์เซ็นต์) แต่กับตัวอ่อน ความเข้มข้น 10**(5)-10**(7) สปอร์/มล. เกิดโรคดีกว่ากรรมวิธีอื่นๆ (38.33-45 เปอร์เซ็นต์) ต่อมาได้ทดลองเชื้อรา M. anisopliae และ Hirsutella citriformis ความเข้มข้น 10**(8) สปอร์/มล. ร่วมกับสารสกัดจาก สะเดาและหางไหล 5 เปอร์เซ็นต์ ในห้องปฏิบัติการและแปลงทดลอง พบว่าสารสกัดจากพืชทั้ง 2 ชนิดไม่มีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพของเชื้อราแต่อย่างใด
บทคัดย่อ (EN): Efficiency of entomopathogenic fungi on the control of brown planthopper (BPH, Nilaparvata lugens) and green leafhopper (GLH, Nephotettix virescens) was studied in the laboratory and fields. Two entomopathogenic fungi, Metarhizium anisopliae was isolated from the rhinoceros beetle larva and BPH while Beauveria bassiana was isolated from BPH and the Bombay locust (Patanga succincta), respectively. These fungi were inoculated on BPH and GLH at 10**(8) conidia/ml. in the laboratory. Results showed that both M. anisopliae and B. bassiana isolated from BPH similarly affected the BPH adult (75 and 58.75 percent). The best effect on BPH nymph was obtained from M. anisopliae which was rather low being 56.25 percent. A similar trend was found for the test on GLH as M. anisopliae and B. bassiana isolated from BPH equally affected GLH adult (66.25 and 62.50 percent) However, both of them had little effect on the nymph. Results were slightly different with the field inoculation since the best effect was recorded when M. anisopliae was inoculated at 10**(6)-10**(7) conidia/ml. on BPH adult (48.33- 51.67 percent). Furthermore, the BPH nymph were similarly affected by 33.33- 50.00 percent when either M. anisopliae or B. bassiana was applied at 10**(4)- 10**(7) or 10**(6)-10**(7) conidia/ml., respectively. M. anisopliae at 10**(6)-10**(7) conidia/ml. was also most effective against 33.33-50.00 percent when either M. anisopliae or B. bassiana was applied at 10**(4)-10**(7) or 10**(6)-10**(7) GLH adult (43.33-48.33 percent). A similar trend as for the adult was observed on the GLH nymph inoculated with M. anisopliae at 10**(5)-10**(7) conidia/ml. (38.33- 45.00 percent). Integration method between the use of M. anisopliae and the other entomopathogenic fungus, Hirsutella citriformis, at 108 conidia/ml. together with 5 percent crude extract from neem (Azadirachta indica) seed and Derris elliptica revealed no additive effect on the tested insects.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://agkb.lib.ku.ac.th/rd/search_detail/result/155752
เผยแพร่โดย: กรมการข้าว
คำสำคัญ: ประสิทธิภาพ
คำสำคัญ (EN): Pathogenicity
รายละเอียด: 5 tables
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

เพชรหทัย ปฏิรูปานุสร. "ประสิทธิภาพของเชื้อราทำลายแมลงต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและเพลี้ยจักจั่นสีเขียวPathogenicity of entomopathogenic fungi on brown planthopper (Nilaparvata lugens) and green leafhopper (Nephotettix virescens)". กรมการข้าว. ม.ป.ป.

เพชรหทัย ปฏิรูปานุสร. "ประสิทธิภาพของเชื้อราทำลายแมลงต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและเพลี้ยจักจั่นสีเขียวPathogenicity of entomopathogenic fungi on brown planthopper (Nilaparvata lugens) and green leafhopper (Nephotettix virescens)". กรมการข้าว. ม.ป.ป.. Print.



TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพของเชื้อราทำลายแมลงต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและเพลี้ยจักจั่นสีเขียว
เพชรหทัย ปฏิรูปานุสร
กรมการข้าว
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
กรมการข้าว
มุมมองเรื่องชีวชนิดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล อิทธิพลของขนาดเพลี้ยอ่อนถั่ว (Aphis cracciuora) ที่มีผลต่อขนาด ระยะเวลาการพัฒนา อัตราส่วนทางเพศของตัวเบียน และจำนวนตัวเบียน (Aphidius colemani) ที่เกิดจากเพลี้ยอ่อน ราที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมการย่อยสลายแป้งและวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรจากระบบนิเวศวิทยาป่าอุทยานสัตว์ป่าอุบลราชธานี สาเหตุของความต้านทานในข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Nilaparuata lugens (Stal) ประสิทธิภาพในการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลของสารสกัดจากบอระเพ็ดในข้าว การพัฒนาแบบจำลองสถานการณ์ประชากรของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในข้าว การพัฒนาแบบจำลองประชากรเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Nilaparvata lugens (Stal.) ในนาข้าว ผลของสารพิษที่ผลิตโดยเชื้อรา Cercospora canescens จากถั่วเขียว ประสิทธิภาพของสารกำจัดเชื้อราประเภทดูดซึมบางชนิดต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา Phytophthora parasitica KK8 ซึ่งเป็นสาเหตุโรคโคนเน่าของพลู การประมาณประชากรเพลี้ยจักจั่นบนต้นปอแก้ว โดยวิธีสุ่มตัวอย่าง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair