สืบค้นงานวิจัย
การชักนำให้เกิดโพลีพลอยด์ในครามฝักตรง (Indigofera tinctoria L.)
สุนทรีย์ สุรศร - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การชักนำให้เกิดโพลีพลอยด์ในครามฝักตรง (Indigofera tinctoria L.)
ชื่อเรื่อง (EN): Polyploid Induction in ‘kram phak troung’ indigo (Indigofera tinctoria L.)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุนทรีย์ สุรศร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Suntaree Surson
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ต้นครามฝักตรง เป็นพืชท้องถิ่นของชาวสกลนครที่ให้สีครามจากใบ ด้วยเหตุที่ครามฝักตรงมีลักษณะใบเล็ก และเป็นพืชผสมตัวเอง และมีพันธุ์ที่ใช้ปลูกอยู่ในปัจจุบันเพียง 2 พันธุ์ จึงได้มีความพยายามในการพัฒนาของต้นครามฝักตรง (Indigofera tinctoria L.) พันธุ์ใหม่ ด้วยการเพิ่มจำนวนโครโมโซมให้เป็นต้นโพลีพลอยด์ โดยหวังว่าจะได้ต้นครามที่มีใบ หรือต้นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อการเพิ่มผลผลิต และเพิ่มปริมาณสารสำคัญใบครามจากการชักนำให้เกิดโพลีพลอยด์ในครามฝักตรง โดยการแช่เมล็ดครามงอกในสารละลายโคลชิซินความเข้มข้น 0.1, 0.2 และ 0.4 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 6 และ 12 ชั่วโมง พบว่า ความเข้มข้นของโคลชิซินมีอิทธิพลต่อเปอร์เซ็นต์การอดตาย ความสูง และจำนวนใบประกอบของต้นกล้าครามฝักตรงอายุ 15 วัน อย่างมีนัยสำคัญยิ่ง (P<0.01) โดยการเพิ่มความเข้มข้นของโคลชิซินทำให้เปอร์เซ็นต์การรอดตาย ความสูง และจำนวนใบประกอบลดลง สำหรับระยะเวลาการแช่เมล็ดไม่มีผลต่อเปอร์เซ็นต์การรอดตาย ความสูง และจำนวนใบประกอบ ต้นกล้าครามที่รอดตายหลังจากได้รับสารโคลชิซินแสดงอาการผิดปกติทุกต้น โดยแสดงอาการ ไฮโปคอทิลบวม ส่วนต้นกล้าที่เจริญจากเมล็ดที่ไม่แช่สารโคลชิซินสามารถเจริญเติบโตเป็นต้นกล้าที่ปกติทั้งหมด เมื่อนำต้นกล้าที่มีลักษณะผิดปกติไปตรวจสอบด้วยเทคนิคโฟลไซโตมิตริ (Flow cytometry) พบว่า โคลชิซินที่ความเข้มข้น 0.2 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดต้นกล้าชนิดเตตราพลอยด์มากที่สุด 75 และ 66 เปอร์เซ็นต์ เมื่อแช่เมล็ดเป็ นเวลา 6 และ 12 ชั่วโมง ตามลำดับ ส่วนการแช่เมล็ดด้วยโคลชิซินที่ความเข้มข้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ มีสัดส่วนของต้นดิพพลอยด์ และต้นมิกโซพลอยด์จำนวนมากกว่าโคลชิซินที่ระดับความเข้มข้น 0.2 เปอร์เซ็นต์ ในทรีตเมนต์ที่ได้รับโคลชิซินเข้มข้น 0.4 เปอร์เซ็นต์ ที่ 6 ชั่วโมง เป็นโพลีพลอยด์ทั้งหมด (ต้นมิกโซพลอยด์ 33.33 เปอร์เซ็นต์ และเตตราพลอยด์ 66.66 เปอร์เซ็นต์) อย่างไรก็ตามพบว่าทรีตเมนต์ที่ได้รับโคลชิซินที่ระดับความเข้มข้น 0.4 เปอร์เซ็นต์ 12 ชั่วโมง ส่วนใหญ่จะมีอายุการรอดตายไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งตายก่อนที่จะได้รับการตรวจสอบความเป็นโพลีพลอยด์ ต้นที่เหลือรอดมาได้ทั้งหมดเป็นต้นดิพพลอยด์เท่านั้น
บทคัดย่อ (EN): Kram Phak Troung or Indigofera tinctoria L. is Sakon Nakhon’s indigenous plant. It has small leaves and is categorized as a species of self-pollinated breeding plant. Two species of Indigofera tinctoria L. have been grown at present. Thus, there is an attempt to develop the new kind of Indigofera tinctoria L. which contains more chromosomes becoming polyploidy indigo plant. This polyploidy indigo is expected to grow taller bearing bigger leaves than the indigenous plant. With higher stem and wider leaves, the polyploidy indigo can produce higher amount of its essence. Polyploid in Indigofera tinctoria L. is induced by immersing the germinated seed in colchicines of different concentrations (0.1%, 0.2% and 0.4%) and for a period of 6 and 12 hours. It was found that different concentrations of colchicines resulted differently and significantly in the death, height and leaflet number of the fifteen-days old Indigofera tinctoria L. (P<0.01). That is the more colchicines was concentrated the more Indigofera tinctoria L. plants survived while their height and leaflet number decreased. However, the immersion period of the Indigofera tinctoria L. seedlings did not affect the survival percentage, height and leaflet number of these Indigofera tinctoria L. plants. Furthermore, all plants that survived demonstrated abnormal trait of swollen hypocotyls. In contrast, the seedlings which were not treated by colchicines immersion could grow normally. When using flow cytometry to inspect the abnormal plants whose hypocotyls swelled, it was revealed that 0.2% colchicine solution produced 75% tetraploid Indigofera tinctoria L. seedlings when they were immersed for 6 hours; it produced 66% tetraploid Indigofera tinctoria L. seedlings if immersed for 12 hours. The seeds immersed in 0.1% colchicine solution obtained more diploids and mixoploids than immersed in 0.2% colchicine solution. With the 0.4% colchicine solution for 6 hours’ treatment, all polyploids were gained (33.33 mixoploids and 66.66 tetraploids). Nevertheless, if the seeds were immersed in 0.4% colchicine solution for a period of 12 hours, the seedlings could live less than a month and their polyploidy traits could not be examined; only the diploids of these seedlings survived.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 10
เอกสารแนบ: https://ag2.kku.ac.th/kaj/PDF.cfm?filename=2_84_60_Suntaree.pdf&id=3259&keeptrack=1
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: โฟลไซโตมิตริ
คำสำคัญ (EN): Flow Cytrometry
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การชักนำให้เกิดโพลีพลอยด์ในครามฝักตรง (Indigofera tinctoria L.)
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2561
การเปรียบเทียบอัตราการเจริญเติบโต และสัณฐานวิทยาของครามฝักตรง (Indigofera tinctoria L.), ระหว่างต้นดิพพลอยด์ และเตตราพลอยด์ การพัฒนาพันธุกรรมของพรมมิโดยการชักนำการให้เกิดออโตเตตราพลอยด์ ด้วยสารโคลชิซิน การศึกษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์ การเพิ่มผลผลิตใบ ปริมาณสีและครามผงของครามงอ (Indigofera tinctoria L.) การใช้รังสีแกมมาชักนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสัณฐานวิทยาในกุหลาบหนู การศึกษาความหลากหลายและความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของพืชสกุลคราม (Indigofera L.) ด้วยเทคนิคเครื่องหมายโมเลกุล การชักนำให้เกิด polyploid ในข้าวพื้นเมืองพันธุ์ปกาอำปึลโดยใช้โคลชิซิน การศีกษาสภาพการผลิตและตลาดครามของเกษตรกรโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เด่นผ้าฝ้ายย้อมคราม ปีเพาะปลูก 2545/2546 โครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตครามในพื้นที่จังหวัดสกลนคร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายย้อมครามเพื่อขยายตลาดไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่: กรณีศึกษากลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมคราม อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร การชักนำให้เกิดแคลลัสในกล้วย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก