สืบค้นงานวิจัย
ศักยภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและสถานภาพด้านสิ่งแวดล้อมในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศไทย
นิรนดร โพธิกานนท์ - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: ศักยภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและสถานภาพด้านสิ่งแวดล้อมในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): The Potential of Biogas Production and an Environmental Status in Pig and Dairy Farms of Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นิรนดร โพธิกานนท์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nirandorn Potikanond
บทคัดย่อ: การศึกษาเพื่อประมวลหาศักยภาพการผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศ มีวัตถุประสงค์ที่จะวิเคราะห์ฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศ ว่ามีความสามารถในการผลิตก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานทดแทนพลังงานอื่น ได้แก่ ก๊าซ liquid petroleum gas (LPG) และพลังงานไฟฟ้าได้มากน้อยเท่าใดและมีสถานภาพทางมลภาวะเป็นอย่างไร โดยคำนึงถึงขนาดฟาร์มขั้นต่ำ อายุของฟาร์ม และข้อมูลเกี่ยวกับขนาดของสัตว์ ความต้องการมีบ่อหรือระบบก๊าซชีวภาพของฟาร์ม และเงื่อนไขจากการประกาศใช้มาตรฐานน้ำทิ้งจากฟาร์ม การศึกษานี้ดำเนินภายใต้โครงการแผนที่ไบโอก๊าซฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศ ข้อมูลฟาร์มด้านต่าง ๆ นั้นได้จากการสำรวจสัมภาษณ์เจ้าของหรือผู้จัดการฟาร์มโดยใช้แบบสอบถาม และโดยอาศัยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ในเครือข่ายของกรมปศุสัตว์ และกรมส่งเสริมการเกษตร ตลอดจนภาคเอกชน ดำเนินการสำรวจสัมภาษณ์ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2542 ~กุมภาพันธ์ 2543 แล้วจัดทำฐานข้อมูลเพื่อประมวลผลให้ผู้เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพ และหน่วยงานด้านปศุสัตว์ รวมทั้งเกษตรกรและผู้สนใจเข้าดูข้อมูลเกี่ยวกับฟาร์มและปริมาณก๊าซชีวภาพที่จะผลิตได้ทั่วประเทศ จากการประมวลผลและการวิเคราะห์ข้อมูลฟาร์มที่สำรวจได้ 19,239 ฟาร์ม พบว่าเป็นฟาร์มสุกรและโคนม 5,978 และ 13,261 ฟาร์ม โดยภาคตะวันตกเป็นภาคที่มีฟาร์มสุกรและโคนม ตลอดจนจำนวนสัตว์มากที่สุด ฟาร์มสุกรสามารถวิเคราะห์จำแนกเป็นฟาร์มที่เลี้ยงสุกรขุนอย่างเดียว 2,073 ฟาร์ม (34.68 %) เลี้ยงแม่พันธ์และสุกรขุน 1,975 ฟาร์ม (33.03 9 %) และเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์โดยไม่ขุน 1,930 ฟาร์ม ทั้งฟาร์มสุกรและฟาร์มโคนมร้อยละ 38.6 อยู่ห่างจากชุมชนน้อยกว่า 1 กม. ร้อยละ 33.54 อยู่ห่างชุมชน 1~ 3 กม. ร้อยละ 63.10 ของฟาร์มโคนม และร้อยละ 49.15 ของฟาร์มสุกรตั้งอยู่ติดกับลำรางสาธารณะและใช้น้ำในการฉีดล้างทำความสะอาดคอกสัตว์ทั้งโดยไม่โกยมูลออกหรือโกยมูลออกก่อนเป็นส่วนใหญ่ ในด้านการจัดการมูลสัตว์ออกจากฟาร์มนั้น ฟาร์มสุกรและฟาร์มโคนมร้อยละ 75.66 และ 72.63 ใช้วิธีกองพักมูลรอการจำหน่าย และใช้วิธีการทำความสะอาดคอกสุกร (86.23 %) และคอกโคนม (ร้อยละ 92.35) เป็นมาตรการลดกลิ่นในฟาร์ม นอกจากนั้นฟาร์มสุกร (42.96%) และฟาร์มโคนม (78.61 %) ควบคุมปริมาณน้ำเสียโดยการใช้น้ำล้างคอกให้น้อยที่สุด ในด้านมลภาวะนั้น ฟาร์มสุกร (67.94 %) และฟาร์มโคนม (58.24 %) ระบุว่ามีกลิ่น แมลงวันและน้ำเสียเป็นปัญหาในฟาร์ม แต่ส่วนใหญ่ของฟาร์มร้อยละ 55~59 อ้างว่าไม่มีปัญหาต่อชุมชนใกล้เคียง แต่ฟาร์มสุกรร้อยละ 29.98 ระบุว่าถูกอบต. ตักเตือนและร้อยละ 5.19 ถูกร้องเรียนจากเพื่อนบ้าน ฟาร์มสุกรและโคนมมีบ่อก๊าซชีวภาพเพียงร้อยละ 3.21 และ 2.08 ตามลำดับ โดยฟาร์มเลี้ยงสุกรมีสัดส่วนการสร้างบ่อก๊าซชีวภาพเองถึงร้อยละ 79.69 ในขณะที่ฟาร์มโคนมสร้างกันเองเพียงร้อยละ 17.82 ทั้งฟาร์มสุกรและโคนมระบุว่าพึงพอใจกับบ่อหรือระบบก๊าซชีวภาพมากถึงร้อยละ 51.82 และ 49.46 และต้องการมีระบบก๊าซชีวภาพรวมกันทั้งที่พร้อมสร้างและไม่พร้อมสร้างจำนวน 1,984 และ 4,590 ฟาร์ม ตามลำดับ โดยกลุ่มฟาร์มสุกรนึกถึงเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อมในสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มฟาร์มโคนม ฟาร์มสุกรที่มีศักยภาพในการผลิตก๊าซชีวภาพขนาดเล็ก~กลาง และใหญ่มีจำนวนรวมกัน 1,247 ฟาร์มมีสุกรรวมกัน 127,946 หน่วยปศุสัตว์ (นปส.) และต้องการบ่อหรือระบบก๊าซชีวภาพรวมกัน 255,892 ลบม. จะผลิตก๊าซชีวภาพได้ปีละ 32.6 ล้านลบม. คิดเป็นมูลค่าก๊าซ LPG ปีละ 195.4 ล้านบาท ฟาร์มโคนมที่มีศักยภาพมีจำนวน 2,120 ฟาร์มมีจำนวนโครวมกัน 22,720 นปส. ต้องการบ่อก๊าซชีวภาพรวมกัน 45,440 ลบม. ส่วนฟาร์มโคนมทั่วประเทศนั้นมีจำนวนโคนมที่คิดเป็น นปส. ผลิตก๊าซชีวภาพได้ราวร้อยละ 70 ของ นปส. โคนมในทุกขนาดฟาร์ม คิดเป็นโคนมที่ผลิตก๊าซได้ 125,239 นปส. และต้องการบ่อก๊าซชีวภาพรวมกัน 250,478 ลบม. จะผลิตก๊าซชีวภาพได้ปีละ 15.9 ล้าน ลบม. คิดเป็นมูลค่าก๊าซ LPG ปีละ 20.6 ล้านบาท กรมส่งเสริมการเกษตรและหน่วยบริการก๊าซชีวภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อขยายเป้าหมายในการส่งเสริมถึงปี พ.ศ. 2545/46 จะสร้างบ่อหรือระบบก๊าซชีวภาพได้น้อยกว่าที่ต้องการในฟาร์มสุกรและโคนมที่มีศักยภาพรวม 3.5 เท่า แต่ถ้าเทียบกับปริมาตรบ่อหรือระบบก๊าซชีวภาพรวมของฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศแล้ว ปริมาตรรวมที่จะส่งเสริมได้เต็มที่นั้นจะยังต่ำกว่าของฟาร์มทั่วประเทศถึง 15 เท่า ช่องว่างของการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพปรากฏให้เห็นในฟาร์มสุกรขนาดกลางจำนวนประมาณ 1,600 แห่ง ที่ต้องการบ่อก๊าซชีวภาพขนาดใหญ่กว่า 100 ลบม. จนถึงขนาดต่ำกว่า 1,000 ลบม.
บทคัดย่อ (EN): This study was aimed at analysis of potential biogas production in pig and dairy farns throughout the country to quantify an amount of generated biogas possible to replace liquid petroleum gas (LPG) and kWh electrical energy. Assumptions for the analysis involved minimum farm size, minimum years of farm operation, information on age and size of standing animals, wish of farm to use a biogas plant and enforcement of waste water standard. Information on environmental status of those farms was included in the study. The study was carried out under the Biogas Map Project in pig and dairy farms of Thailand. All of the data were obtained from farm survey with questionnaires and interviewed by officials of the Department of Livestock Development, the Department of Agricultural Extension and personels of private livestock - business sector during February 1999 ~ February 2000. A livestock farm data - base was created accordingly for processing to be used by the biogas promotion agency, livestock sectors, farmers and people interested in biogas production and to provide information on pig and dairy cattle statistics. Data obtained from 19,239 farms which composed of 5,978 pig and 13,261 dairy farms and distributed mostly in the western region. All of the pig farms were categorized as 2,073 fattening (34.68 %), 1,975 fattening with breeding (33.03 %) and 1,930 breeding (32.29 %) operations only. Thirty eight point six percent of all farms were located less than I km away from community. Thirty-three point four percent of them were between 1~3 km away, Sixty three point one percent of the dairy farms and 49.15% of the pig farms situated near public waters. Most of the farms flushed and cleaned animal pens with water after or before removal of manure. Piling of solid manure were practiced in 75.66 % and 72.63 % of the pig and the dairy farms before selling away. Cleaning the animal pen was a major means of odor control in 86.23 % and 92.35% of the pig and the dairy farms respectively. Besides, 42.96 % and 78.61 % of the pig and the dairy farms limited the amount of released waste water by applying the least amount of flushing water. Most of the pig and the dairy farms (67.94 % and 58.24 %) accepted that odor, flies and waste water were pollution problems in the farm but 55% and 59 % of them, respectively, claimed that they had no problem with neighborhood. However 29.98 % of the pig farms were given warning from local administration and 5.15 % of them were complaint by neighbors. The pig and the dairy farms of 3.21 % and 2.08 %, respectively, had biogas plants. As 79.69 % of the pig farms built their own biogas plants, only 17.82 % of the dairy farms did the same way, They (51.82 % and 49,96 %) were still very satisfied with their existing biogas plants. Another 1,984 and 4,590 pig and dairy farms wanted to have a biogas plant in spite of different readiness of investment. Higher percentage of the pig farms considered environmental reasoning for having a biogas plant than that of the dairy farms. One thousand two hundred and fourty seven farms including small, medium and large size were classified as the potential farms in biogas production with a total of 127,946 livestock unit (LSU). They would require a total of 255,892 cbm of biogas digesters. Two thousand one hundred and twenty dairy farms could be classified as the potential biogas producing farms with 22,720 LSU. They would require altogether 45,440 cbm of biogas digesters. All feasible dairy farms throughout the country had 70 % of the total number of LSU possible for biogas production. They were estimated to hold 125,239 feasible LSU and would require 250,478 cbm biogas digesters to produce 15.9 million cbm.biogas yearly. This amount of biogas was comparable to 20.6 million baht LPG per year. All of the farms, except those below the minimum size which were not sustainable to have even abiogas plant, hold a total animal population as 654,698 LSU. They would require 1.3 milion cbm of biogas digesters and produce annually 151.3 million cbm biogas, comparable to 904.6 million baht LPG. The Department of Agricultural Extension and the Biogas Advisory Unit, Chiang Mai University with their expanded target until the year 2002/3 would be 3.5 times underdisseminate construction of biogas digesters than the anticipated digester volume. If the total required volume of the biogas digester in all feasible farms were considered, those expanded target would be 15 time lower. A clear gap in biogas dissemination was found for the 1,600 middle pig farms and large dairy farms that would require a biogas digester size bigger than 100 to that smaller than 1,000 cbm.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/joacmu/article/view/247006/169007
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: พลังงานทดแทน
คำสำคัญ (EN): Alternative energy
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นิรนดร โพธิกานนท์. "ศักยภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและสถานภาพด้านสิ่งแวดล้อมในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศไทยThe Potential of Biogas Production and an Environmental Status in Pig and Dairy Farms of Thailand". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2545

นิรนดร โพธิกานนท์. "ศักยภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและสถานภาพด้านสิ่งแวดล้อมในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศไทยThe Potential of Biogas Production and an Environmental Status in Pig and Dairy Farms of Thailand". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2545. Print.



TARR Wordcloud:
ศักยภาพการผลิตก๊าซชีวภาพและสถานภาพด้านสิ่งแวดล้อมในฟาร์มสุกรและโคนมทั่วประเทศไทย
นิรนดร โพธิกานนท์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2545
ภาชนะรองรับทางชีวภาพอย่างสร้างสรรค์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โครงการการพัฒนาคอนกรีตพิเศษสำหรับพื้นฟาร์มสุกร ค่าพารามิเตอร์ทางพันธุกรรมของลักษณะความสมบูรณ์พันธุ์ของโคนมในประเทศไทย ศักยภาพในการผลิตไก่ฟ้าของประเทศไทย ระบบจัดการฟาร์มสุกรมาตรฐาน วิธีทางเทคโนโลยีชีวภาพในการลดมลภาวะในฟาร์มสุกร I. การใช้เอนไซม์เพื่อเพิ่มการย่อยได้ของโภชนะ ศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจโคนมไทยในลุ่มน้ำโขง โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสุกรแบบครบวงจร วิจัยและพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพเพื่อเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้ากำลังสำรอง การแพร่กระจายของยาปฏิชีวนะและการหายีนต้านทานยาปฏิชีวนะที่มาจากของเสียฟาร์มสุกรในสิ่งแวดล้อม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair