สืบค้นงานวิจัย
การใช้ความหลากหลายของพืชอาหารในท้องถิ่นของไหมอีรี่เพื่อเพิ่มผลผลิตและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
กมล อภินาคพงศ์ - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การใช้ความหลากหลายของพืชอาหารในท้องถิ่นของไหมอีรี่เพื่อเพิ่มผลผลิตและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
ชื่อเรื่อง (EN): Application of species diversity of eri silkworm local food plants for increasing production and nutritive values
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กมล อภินาคพงศ์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Kamol Apinakapong
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การเปรียบเทียบการเลี้ยงไหมอีรี่ด้วยใบพืชอาหารต่างชนิดกันครั้งที่ 1 จากพืชอาหาร 5 ชนิด คือ ละหุ่งทั่วไป (พันธุ์พื้นเมือง) ละหุ่งพันธุ์ 101 มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 72 ห้วยบง 60 และ KU50 พบว่าในด้านเปอร์เซ็นต์การอยู่รอดจากการเลี้ยงด้วยละหุ่งพื้นเมือง และมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 72 มี % การอยู่รอดเฉลี่ยของระยะหนอน-ตัวเต็มวัยมากที่สุดเท่ากับ 97.60% ผลผลิตเฉลี่ยด้านรังไหมและดักแด้ พบว่าด้านน้ำหนักรังสด น้ำหนักดักแด้ น้ำหนักเปลือกรัง และน้ำหนักเปลือกรังรวม การเลี้ยงด้วยละหุ่งพันธุ์ 101 ให้ผลผลิตสูงที่สุด คือ 2.4995, 2.1595, 0.3247 และ 39.2927 กรัม ตามลำดับ นอกจากนั้น %เปลือกรังเฉลี่ย การเลี้ยงด้วยมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 72 มีค่าสูงที่สุด(13.52%) ส่วนผลผลิตไข่ไหมอีรี่เฉลี่ย ละหุ่งพื้นเมืองให้จำนวนไข่/แม่สูงที่สุด (155.11 ฟอง) ส่วนการเลี้ยงด้วยใบมันสำปะหลังพันธุ์ KU50 มี %ไข่ฟักสูงที่สุด เท่ากับ 95.42% และจำนวนไข่ฟักทั้งหมดยังคงพบว่าการเลี้ยงด้วยละหุ่งพันธุ์ 101 ให้ผลผลิตมากที่สุด เท่ากับ 8,012.53 ฟอง ส่วนในการเปรียบเทียบพืชอาหารต่างชนิดกันครั้งที่ 2 พบว่าการเลี้ยงด้วยมันสำปะหลังพันธุ์ KU50 ให้ %การอยู่รอดเฉลี่ย (หนอน-ตัวเต็มวัย)สูงที่สุด (100%) และผลผลิตเฉลี่ยด้านรังไหมกลับพบว่าการเลี้ยงด้วยละหุ่งพันธุ์ IP1 ให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงที่สุด ทั้งน้ำหนักรังสด น้ำหนักดักแด้ น้ำหนักเปลือกรัง % เปลือกรัง และน้ำหนักเปลือกรังรวม ซึ่งมีค่าเท่ากับ 2.3711 กรัม, 2.0767 กรัม, 0.2925 กรัม, 12.9667% และ 28.9567 กรัม ตามลำดับ ในด้านการเพาะเลี้ยงแบบผสมผสานพืชอาหารเปรียบเทียบกับการเพาะเลี้ยงด้วยละหุ่งพันธุ์พื้นเมืองหรือมันสำปะหลัง KU 50 เพียงอย่างเดียว พบว่า การเลี้ยงด้วยละหุ่งพันธุ์พื้นเมืองหรือมันสำปะหลัง KU 50 เพียงอย่างเดียวยังมีความเหมาะสมในการเลี้ยงมาก-มากที่สุด ตามลำดับ โดยผลผลิตเฉลี่ยของ %การอยู่รอด (หนอน-ตัวเต็มวัย), น้ำหนักเปลือกรังรวม และจำนวนไข่ฟักทั้งหมด ของการเพาะเลี้ยงด้วยละหุ่งพันธุ์พื้นเมือง เท่ากับ 98.33%, 28.18 กรัม, 14,135.30 ฟอง และด้วยมันสำปะหลัง KU 50 เท่ากับ 97.00%, 22.05 กรัม, 11,300.78 ฟอง ตามลำดับ สำหรับการเพาะเลี้ยงแบบผสมผสานด้วย มันต้น, มันลาย และลีลาวดีผสมผสานกับมันสำปะหลัง KU 50 ยังทำให้ผลผลิตเฉลี่ยของ %การอยู่รอด (หนอน-ตัวเต็มวัย) และจำนวนไข่ฟักทั้งหมดสูงกว่าการเพาะเลี้ยงด้วยพืชอาหารทั้ง 3 ชนิดเพียงอย่างเดียวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งกรรมวิธีที่มีความเหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงอยู่ในระดับรองลงมาจากการเพาะเลี้ยงด้วยละหุ่ง(พันธุ์พื้นเมือง)และมันสำปะหลัง KU 50 คือ การเพาะเลี้ยงด้วยมันสำปะหลัง KU 50+มันต้น มีค่าเฉลี่ยของ %อยู่รอด (หนอน-ตัวเต็มวัย), น้ำหนักเปลือกรังรวม และจำนวนไข่ฟักทั้งหมด เท่ากับ 90.33%, 18.50 กรัม และ 8,623.61 ฟอง ใกล้เคียงกับการเพาะเลี้ยงด้วยมันสำปะหลัง KU 50+มันลาย(90.33%, 18.91 กรัม, 8,260.28 ฟอง) สำหรับการเพาะเลี้ยงด้วยมันสำปะหลัง KU 50+ลีลาวดี(70.67%, 9.06 กรัม, 4,674.19 ฟอง) ยังให้ค่าเฉลี่ยดังกล่าวน้อยที่สุด ในขณะที่การเพาะเลี้ยงด้วยมันสำปะหลัง KU 50+มะละกอ และมันสำปะหลัง KU 50+สบู่ดำ ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ครบวงจรชีวิต โดยเพาะเลี้ยงได้จนถึงไหมวัย 5 วันที่ 7 และวัย 5 วันที่ 5 ตามลำดับ นอกจากนั้นยังได้มีการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของดักแด้ไหมอีรี่ที่เพาะเลี้ยงด้วยละหุ่งพันธุ์ IP1 นั้น พบว่า ดักแด้ไหมอีรี่มีความชื้น โปรตีน ไขมัน เถ้า และ คาร์โบไฮเดรต เท่ากับ 76.09, 70.19, 20.72, 5.55 และ 5.31 % ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Five food plants for eri silkworm rearing, castor (local cultivar), castor (101 cultivar), cassava Rayong 72, cassava Huay Bong and cassava KU50 were compared in order to feeding efficiency for 1st experiment. Based on survival of larva-adult, castor (local cultivar) and cassava Rayong 72 gave the most average survival rate of 97.60%. How, on average cocoon and pupa yields, fresh cocoon weight, pupa weight, cocoon shell weight and total cocoon shell weight, the castor (101 cultivar) exhibited highest values of 2.4995, 2.1595, 0.3247 and 39.2927 g, respectively. For other average highest yields, cocoon shell percentage was obtained from rearing with cassava Rayong 72 (13.52%), eggs per moth (155.11 eggs) was by rearing with castor (local cultivas), total hatching eggs was 8,012.53, when fed with castor 101 cultivar. On the other hand, feeding with cassava KU50 expressed highest percentage of hatching eggs (95.42%). In the 2nd experiment of host plant comparison, the result provided the average values: the highest rate of survival from larva to adult (100%), when fed with cassava KU50. However, feeding with castor (IP1 cultivar) expressed the average highest cocoon and pupa yields; fresh cocoon weight (2.3711 g), pupa weight (2.0767 g), cocoon shell weight (0.2925 g), cocoon shell percentage (12.9667%) and total cocoon shell weight (28.9567 g). Furthermore, the combination of food plants was undertaken on feeding efficiency of eri silkworm, compared to feeding either castor leaves (local cultivar) or cassava leaves (KU50) as sold food plant. Feeding with sold food plant (castor or KU50) was the most suitable food plant. Average yields obtained from castor feeding were survival percentage (larva to adult) 98.33%, total shell weight 28.18 g and total hatching eggs 14,135.30 eggs, whereas cassava KU50 feeding the above average yields were achieved as following 97.00%, 22.05 g and 11,300.78 eggs, respectively. For feeding with secondary food plant combination using Ceara rubber tree, variegated cassava and plumeria mixed with cassava KU50, it was indicated that secondary food plants mixed with cassava KU50 expressed clearly average high yields of survival percentage (larva-adult) and total hatching eggs more than individual food plant feeding. The suitable food plant combination given above yields in descending order were cassava KU50 + Ceara rubber tree, cassava KU50 + variegated cassava, cassava KU50 + plumeria with survival percentage (larva to adult), total cocoon shell weight and total hatching eggs of 90.33%, 18.50 g and 8,623.61 eggs; 90.33%, 18.91 g and 8,260.28 eggs; 70.67%, 9.06 g and 4,674.19 eggs, respectively. However, feeding eri silkworm with cassava KU50 + papaya and cassava KU50 + jatropha gave rise to eri silkworm development stage of 5th instar only until 7 days and 5 days, respectively. Eri pupa derived from feeding larva with castor (IP1) was analyzed nutritionally. The result indicated moisture content (76.09%), protein (70.19%), fat (20.72%), ash (5.55%) and carbohydrate (5.31%).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: ไหมอีรี่
คำสำคัญ (EN): production
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้ความหลากหลายของพืชอาหารในท้องถิ่นของไหมอีรี่เพื่อเพิ่มผลผลิตและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2551
ความหลากหลายและคุณค่าทางโภชนาการของแมลงกินได้ในพื้นที่เขื่อนสิรินธร ความหลากหลายของพืชอาหารของชันโรงใน จังหวัดจันทบุรี ความหลากหลายและคุณค่าทางโภชนาการของแมลงกินได้ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงของไทยและ ส.ป.ป.ลาว ข้าวท้องถิ่นในจังหวัดแม่ฮ่องสอนและคุณค่าทางโภชนาการ ผลของระยะปลูกและจำนวนต้นต่อหลุมต่อคุณค่าทางโภชนาการ ผลผลิตและคุณภาพของถั่วเหลืองฝักสด โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตถั่วเหลืองเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ การคัดเลือก การศึกษาพันธุ์ การทดสอบผลผลิตหอมมะลิแดง ไม่ไวต่อช่วงแสง ต้นเตี้ย ข้าวเจ้าหอม ต้านทานต่อโรคแมลง คุณค่าทางโภชนาการสูง การทดสอบผลผลิต การคุ้มครองพันธุ์ และการผลิตเมล็ดพันธุ์ ของสายพันธุ์ข้าวสังข์หยดพัทลุง ไม่ไวต่อช่วงแสง ต้นเตี้ย ข้าวเจ้า/ข้าวเหนียว หอม สีแดง ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง กล้วย… คุณค่าล้นหวี ผลไม้ดีคู่สุขภาพ ความหลากหลายและคุณค่าทางโภชนาการของแมลงกินได้ในพื้นที่เขื่อนห้วยกุ่ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก