สืบค้นงานวิจัย
การทดสอบผลผลิตอ้อยโคลนก้าวหน้าในระดับภูมิภาค (อ้อยตอปีที่ 1)
อนุชา วงศ์ปราณีกุล - สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
ชื่อเรื่อง: การทดสอบผลผลิตอ้อยโคลนก้าวหน้าในระดับภูมิภาค (อ้อยตอปีที่ 1)
ชื่อเรื่อง (EN): Regional Yield Testing of Elite Sugarcane Clones (Ratoon 1)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อนุชา วงศ์ปราณีกุล
บทคัดย่อ: การทดลองในอ้อยตอปีที่ 1 ดำเนินการในพื้นที่ตัวแทนปลูกอ้อยของ 4 ภูมิภาค ได้แก่ จ.นครปฐม จ.นครสวรรค์ จ.สระแก้ว และ จ.อุดรธานี เป็นพื้นที่ปลูกอ้อยตัวแทนของภาคกลาง เหนือ ตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือ ตามลำดับ แต่ละสถานที่วางแผนการทดลองแบบสุ่มภายในบล็อกสมบูรณ์ (RCB) ทำ 3 ซ้ำ ใช้โคลนที่มีท่อนพันธุ์ 47 โคลน เปรียบเทียบกับพันธุ์มาตรฐาน 3 พันธุ์ คือ K88-92 LK92-11 และ KK3 จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ พบว่า TBy30-0635, TBy30-0650 และ TBy30-0612 ให้ผลผลิตน้ำตาลสูงเท่ากับ 1.078, 0.994 และ 0.973 ตันซีซีเอส/ไร่ ตามลำดับ เปรียบเทียบกับพันธุ์มาตรฐาน KK3 และ LK92-11 ที่ให้ผลผลิตน้ำตาลเท่ากับ 1.038 และ 0.735 ตันซีซีเอส/ไร่ ตามลำดับ ผลการทดลองค่าเฉลี่ย 2 ชนิดอ้อย (อ้อยปลูก และตอปีที่ 1) แสดงให้เห็นว่ามีโคลนที่ให้ผลผลิตน้ำตาลดีเด่นที่เฉพาะเจาะจงกับสถานที่ปลูก แปลง จ.นครปฐม คือ TBy30-0106 (2.167 ตันซีซีเอส/ไร่), TBy30-0464 (2.128 ตันซีซีเอส/ไร่), KK3 (2.082 ตันซีซีเอส/ไร่); แปลง จ.นครสวรรค์ คือ TBy30-0484 (1.484 ตันซีซีเอส/ไร่), TBy30-0635 (1.384 ตันซีซีเอส/ไร่), TBy30-0337 (1.221 ตันซีซีเอส/ไร่); แปลง จ.สระแก้ว คือ KK3 (1.617 ตันซีซีเอส/ไร่), TBy30-0840 (1.360 ตันซีซีเอส/ไร่), TBy30-0106 (1.286 ตันซีซีเอส/ไร่); แปลง จ.อุดรธานี คือ TBy30-0658 (1.780 ตันซีซีเอส/ไร่), TBy30-0642 (1.689 ตันซีซีเอส/ไร่), TBy30-0464 (1.600 ตันซีซีเอส/ไร่) ค่าเฉลี่ยของอ้อย 2 ชนิดใน 4 สถานที่ปลูก อ้อยโคลน TBy30-0484 ให้ค่าเฉลี่ยซีซีเอสสูงสุด เท่ากับ 14.61 ซีซีเอส ตามด้วย KK3 (14.06 ซีซีเอส), LK92-11 (14.01 ซีซีเอส), TBy30-0337 (13.82 ซีซีเอส) และ TBy30-0194 (13.80 ซีซีเอส) ตามลำดับ อ้อยพันธุ์ KK3 ให้ค่าเฉลี่ยผลผลิตอ้อยสูงสุด เท่ากับ 11.23 ตัน/ไร่ ตามด้วย TBy30-0642 (11.20 ตัน/ไร่) , TBy30-0650 (10.74 ตัน/ไร่) และ TBy30-0579 (10.37 ตัน/ไร่) ตามลำดับ ขณะที่ KK3 ได้ให้ค่าเฉลี่ยผลผลิตน้ำตาลสูงสุดด้วยเช่นกัน มีค่าเท่ากับ 1.593 ตันซีซีเอส/ไร่ ตามด้วย TBy30-0642 (1.478 ตันซีซีเอส/ไร่) , TBy30-0650 (1.382 ตันซีซีเอส/ไร่) และ TBy30-0106 (1.381 ตันซีซีเอส/ไร่) ตามลำดับ การตรวจสอบโรคเหี่ยวเน่าแดงในอ้อยชุด TBy30 มีปฏิกิริยาต้านทาน ต้านทานปานกลาง ค่อนข้างอ่อนแอ และอ่อนแอ จำนวน 5, 16, 14 และ 8 โคลน ตามลำดับ การตรวจสอบโรคแส้ดำมีอ้อยที่แสดงปฏิกิริยาต้านทาน ต้านทานปานกลาง อ่อนแอปานกลาง และอ่อนแอ มีจำนวน 4, 13, 19 และ 7 โคลน ตามลำดับ ปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์กับลักษณะการเกษตร (GT interaction) พบว่า ผลรวมของ PC1 และ PC2 อธิบายข้อมูลได้เพียง 53.10% เท่านั้น แสดงว่าแผนภาพนี้อธิบายข้อมูลได้น้อยมากจึงขาดความน่าเชื่อถือที่จะอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์อ้อยกับลักษณะทางการเกษตร ปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมกับลักษณะทางการเกษตร (ET interaction) พบว่า สภาพแวดล้อมของ จ.อุดรธานี และ จ.สระแก้ว มีสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปค่อนข้างใกล้เคียงกันโดยให้ค่าเฉลี่ยของลักษณะทางการเกษตรสอดคล้องกัน และทั้งสองสถานที่ปลูกยังให้การแสดงออกของลักษณะแตกต่างไปจากอีก 2 สถานที่ คือ จ.นครสวรรค์ และ จ.นครปฐม โดยที่ทั้งสถานที่ จ.อุดรธานี และ จ.สระแก้ว ให้ลักษณะคุณภาพดีเด่น (BRIX, POL, CCS, PUR และ FIBER) สถานที่ปลูก จ.นครสวรรค์ ให้ลักษณะดีเด่นในลักษณะ STKNO, LAI และ LFNO ส่วนสถานที่ปลูก จ.นครปฐม มีความดีเด่นในลักษณะผลผลิตและองค์ประกอบผลผลิตส่วนใหญ่ (SYLD, CYLD, STKHT, STKWT และ STKDIA) และองค์ประกอบใบ (LFWD, LASTK และ LFLN)?
บทคัดย่อ (EN): The first-ratoon sugarcane experiments were evaluated in 4 representative regional sugarcane planting areas, including Nakhon Pathom, Nakhon Sawan, Sa Kaew, and Udon Thani as representative of the central, North, East and Northeast, respectively. Randomized complete block design with 3 replications was used in each location. There were 47 elite clones compared with 3 standard varieties (K88-92, LK92-11 and KK3). The results found that TBy30-0635, TBy30-0650 and TBy30-0612 gave high sugar yields of 1.078, 0.994 and 0.973 ton CCS/rai, respectively, when compared to standard varieties KK3 and LK92-11 were 1.038 and 0.735 ton CCS/rai, respectively. The results for average 2 crop-cycles (planted and first-ratoon) showed that there were outstanding elite clones in sugar yield at specific planting locations, such as TBy30-0106 (2.167 ton CCS/rai), TBy30-0464 (2.128 ton CCS/rai), KK3 (2.082 ton CCS/rai) in Nakhon Pathom; TBy30-0484 (1.484 ton CCS/rai), TBy30-0635 (1.384 ton CCS/rai), TBy30-0337 (1.221 ton CCS/rai) in Nakhon Sawan; KK3 (1.617 ton CCS/rai), TBy30-0840 (1.360 ton CCS/rai), TBy30-0106 (1.286 ton CCS/rai) in Sa Kaew; TBy30-0658 (1.780 ton CCS/rai), TBy30-0642 (1.689 ton CCS/rai), TBy30-0464 (1.600 ton CCS/rai) in Udon Thani. For an average 2 crops of 4 locations, TBy30-0484 gave the average maximum CCS value as 14.61, followed by KK3 (14.06 CCS), LK92-11 (14.01 CCS), TBy30-0337 (13.82 CCS) and TBy30-0194 (13.80 CCS). The variety KK3 showed the average maximum cane yield as 11.23 ton per rai, followed by TBy30-0642 (11.20 ton/rai) , TBy30-0650 (10.74 ton/rai) and TBy30-0579 (10.37 ton/rai) respectively. Whereas KK3 also showed the average maximum sugar yield as 1.593 ton CCS per rai, followed by TBy30-0642 (1.478 ton CCS/rai) , TBy30-0650 (1.382 ton CCS/rai) and TBy30-0106 (1.381 ton CCS/rai), respectively. There were 5, 16, 14 and 8 of TBy30 clones having reaction to red-rot wilt disease and 4, 13, 19 and 7 of TBy30 clones having reaction to smut disease as resistance, moderate resistance, moderate susceptible and weak, respectively. The genotype x agronomic trait (GT) biplot showed that the sum of PC1 and PC2 was only 53.10%. This diagram was illustrated very little information, so it is unreliable to describe the relationship between sugarcane genotypes and their agronomic traits. The environment x agronomic trait (ET) interaction biplot showed that environmental condition of Udon Thani and Sa Kaeo are generally similar, with the average of the responding agronomic traits. The two locations are also different from the other two locations, Nakhon Sawan and Nakhon Pathom. Both Udon Thani and Sa Kaeo provide the outstanding quality traits (BRIX, POL, PUR, FIBER and CCS). Nakhon Sawan were outstanding in terms of STKNO, LAI and LFNO. Whereas Nakhon Pathom were outstanding in terms of yield and yield components (SYLD, CYLD, STKHT, STKWT and STKDIA) and leaf component (LFWD, LASTK and LFLN).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://tnrr.nriis.go.th/#/services/research-report/detail/300480
เผยแพร่โดย: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
คำสำคัญ: การทดสอบผลผลิต
คำสำคัญ (EN): yield testing
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การทดสอบผลผลิตอ้อยโคลนก้าวหน้าในระดับภูมิภาค (อ้อยตอปีที่ 1)
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
2561
โครงการ : การทดสอบผลผลิตอ้อยโคลนก้าวหน้าในระดับภูมิภาค (อ้อยตอปีที่ 1) เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การเพิ่มผลผลิตอ้อยด้วยการให้ปุ๋ยไปกับระบบการให้น้ำซึมใต้ผิวดิน การคัดเลือกพันธุ์อ้อยเพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อยและคุณภาพอ้อยลูกผสม ชุด CSB10 ขั้นที่ 4 เปรียบเทียบพันธุ์มาตรฐาน ในอ้อยปลูก อ้อยตอ 1 และอ้อยตอ 2 ความสูญเสียของอ้อยเนื่องจากหนอนด้วงหนวดยาวอ้อย โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอ้อย ผลของอายุการตัดที่มีต่อผลผลิตและคุณค่าทางอาหารสัตว์ของอ้อยพันธุ์ต่าง ๆ ในช่วงฤดูแล้งที่ชัยนาทและลำปาง การศึกษาและคัดเลือกพันธุ์อ้อยลูกผสม รุ่น CSB11 ขั้นที่ 4 เปรียบเทียบพันธุ์มาตรฐาน (อ้อยปลูก อ้อยตอ 1 และอ้อยตอ 2) การแข่งขันระหว่างแห้วหมูกับอ้อย อ้อยพันธุ์ ชัยนาท 1
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก