สืบค้นงานวิจัย
รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ 2557 โครงการภูมิปัญญาการออกแบบลายผ้ามัดหมี่โบราณ จังหวัดสุรินทร์
เมธ์วดี พยัฆประโคน - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
ชื่อเรื่อง: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ 2557 โครงการภูมิปัญญาการออกแบบลายผ้ามัดหมี่โบราณ จังหวัดสุรินทร์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เมธ์วดี พยัฆประโคน
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภูมิปัญญาการออกแบบลายผ้ามัดหมี่โบราณในจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย กลุ่มช่างทอผ้าที่มีประสบการณ์ทอผ้ามากกว่า 10 ปี จำนวน 7 คน สตรีวัยทำงาน 100 คน ผ้าไหมมัดหมี่ลายรูป จำนวน 121 ผืน ผ้าไหมโฮล 40 ผืน ผ้าไหมหมี่ขั้น จำนวน 14 ผืน และผ้าอันปรม 10 ผืน รวมทั้งหมด จำนวน 185 ผืน การดำเนินงานวิจัยใช้วิธีวิจัยแบบสนามและการสัมภาษณ์เชิงลึกช่างทอผ้า เครื่องมือที่ใ้ช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบตารางวิเคราะห์ลักษณะผ้า, แนวคำถามสำหรับสัมภาษณ์ช่างทอผ้าและการสังเกตอย่างมีส่วนร่วม, แบบสอบถามสำหรับสตรีวัยทำงานเกี่ยวกับพฤติกรรมและปัจจัยที่มีผลจต่อการตัดสินใจซื้อผ้าไหม ผลการวิจัยพบว่า ผ้ามัดหมี่ในจังหวัดสุรินทร์ มี 3 ชนิด คือ ผ้ามัดหมี่ลายรูป ผ้ามัดหมี่อันปรม และผ้ามัดหมี่ขั้นลาย ซึ่งแบ่งเป็นผ้ามัดหมี่ขั้นลายทั่วไปและผ้ามัดหมี่ชั้นลายโฮล สภาพทั่วไปของผ้ามัดหมี่ขั้นลายโฮล พบว่า ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแม่สีชั้น 1 และสีชั้น 2 (ร้อยละ 62.50) วรรณะสีร้อน (ร้อยละ 72.50) โทนสีกลมกลืน (ร้อยละ 57.50) ทอลายน้ำไหล (ร้อยละ 80) โคม 5 (ร้อยละ 50) ขั้นลาย (ริ้ว) (ร้อยละ 82.50) ไม่ขั้นลาย (ลายซิกแซกและลายเคลื่อน) (ร้อยละ 17.50) ทอแบบโบราณ คือ มัดหมี่เทียบแม่ลาย และเว้นขาวที่หัว-ตีนซิ่น (ร้อยละ ุ65) ย้อมด้วยสีเคมี (ร้อยละ 60) สภาพทั่วไปของผ้ามัดหมี่ขั้นลาย พบว่าส่วนใหญ่เป็นผ้าลายดอกพิกุล (ร้อยละ 42.86) วรรณะสีร้อน (ร้อยละ 71.43) โทนสีกลมกลืน (ร้อยละ 57.14) มีสีแดง (ร้อยละ 78.57) สีเหลือง (ร้อยละ 71.43) และสีดำ/สีน้ำตาล (ร้อยละ 54.71) ขั้นลายด้วยไหมสี (ร้อยละ 100) และไหมมัดหมี่ (ร้อยละ 92.90) ย้อมสีเคมี (ร้อยละ 100) สภาพทั่วไปของผ้ามัดหมี่ลายรูป พบว่าส่วนใหญ่เป็นวรรณะสีร้อน (ร้อยละ 71.90) โทนสีกลมกลืน (ร้อยละ 51.24) สีแดง (ร้อยละ 75.21) สีน้ำตาล (ร้อยละ 71.07) สีเหลือง (ร้อยละ 69.42) ลายมีขนาดเล็ก (ร้อยละ 52.07) ลายรูปสัตว์ส่วนใหญ่เป็นลายนาค (ร้อยละ 12.40) ลายรูปพรรณพฤกษาส่วนใหญ่เป็นลายดอกไม้ (ร้อยละ 14.05) ลายเรขาคณิตส่วนใหญ่เป็นลายรากแห (ร้อยละ 51.24) องค์ประกอบผ้ามีท้องผ้าและเชิง (ร้อยละ 99.17) ย้อมสีเคมี (ร้อยละ 66.94) สภาพทั่วไปของผ้าอันปรม พบว่าส่วนใหญ่เป็นผ้าวรรณะสีร้อนโทนสีแดงอมส้ม (ร้อยละ 50) วรรณะสีเย็นโทนสีแดงอมน้ำเงิน (ร้อยละ 50) กระบวนการทอแบบโบราณ (ร้อยละ 100) เรียงลำดับไหมเส้นพุ่งและเส้นยืนแบบเดียวกัน คือ เส้นไหมมัดหมี่ลายประสีแดง-ขาว, เส้นไหมสีแดง, เส้นไหมสีดำ และเส้นไหมสีส้ม (ร้อยละ 100) ย้อมสีเคมี (ร้อยละ 100) สภาพทั่วไปเกี่ยวกับผู้ซื้อผ้า พบว่าส่วนใหญ่มีอายุ 46-55 ปี (ร้อยละ 41) สมรส (ร้อยละ 81) อาชีพรับราชการ (ร้อยละ 50) ความถี่ในการซื้อผ้า 4-6 เดือน/ครั้ง (ร้อยละ 37) ณ ตลาดนัดสินค้า OTOP (ร้อยละ 92) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ คือ เทศกาลงานบุญ/วันสำคัญ/กระแสแฟชั่นในขณะนั้น (ร้อยละ 50) ซื้อสำหรับตนเอง (ร้อยละ 100) ลวดลายโดดเด่น หรูหรา เหมาะสมสำหรับตัดชุดในงานพิธีการ (ร้อยละ 100) ผลการวิเคราะห์พฤติกรรมและปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผ้าไหม ด้านสี พบว่า ส่วนใหญ่เป็นผ้าสีโทนร้อน ให้ความรู้สึกร่ำรวย และหรูหรา (x=4.41) ด้านลายผ้า พบว่า ส่วนใหญ่ลายผ้ามีความแปลกใหม่ ลวดลายเล็กละเอียดเต็มผืน และทอขึ้นอย่างวิจิตร (x=4.63) ด้านกระบวนการผลิต พบว่า ส่วนใหญ่เลือกซื้อเพราะผ้ามีคุณภาพดี (x=4.74) สภาพทั่วไปของช่างทอผ้า พบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 100) อายุ 46-55 ปี (ร้อยละ 57.14) จำแนกตามกลุ่มพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ที่ อำเภอท่าตูม, อำเภอเขวาสินรินทร์, อำเภอเมืองสุรินทร์, อำเภอศรีขรภูมิ, อำเภอสังขะ, อำเภอพนมดงรัก และอำเภอกาบเชิง (ร้อยละ 14.28) จบการศึกษาระดบประถมศึกษา (ร้อยละ 85.71) ทอผ้ามากกว่า 20 ปี (ร้อยละ 71.42) เคยเข้าอบรม (ร้อยละ 100) สภาพทั่วไปด้านวิถีชีวิต พบว่า ส่วนใหญ่ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา และจะทอผ้าหลังฤดูเก็บเกี่ยว เริ่มทอผ้าตั้งแต่ยังเป็นเด็กจากแม่และยาย (ร้อยละ 100) สภาพทั่วไปด้านกระบวนการทอผ้า พบว่า การปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม และภูมิปัญหาการสาวไหมน้อยมีมาแต่โบราณ การมัดหมี่ทำได้ 2 วิธี คือ มัดเทียบลายจากแม่ลาย เรียกว่า ผ้าโฮลบันเดือด และมัดหมี่ลายตามความถนัดของช่าง กี่ทอผ้า มี 2 แบบ คือ กี่บ้านทอมือแบบพุ่งกระสวย และกี่กระตุก อุปกรณ์ในการทอผ้าอื่น ๆ สามารถหาได้ภายในท้องถิ่น ลายผ้าพื้นเมืองดั้งเดิม คือ ผ้าโฮล ผ้ามัดหมี่ลายร้อยเส้น ลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนต่อลายแบบรากแห และลายลูกอ๊อด (ร้อยละ 100) ด้านการเปลี่ยนแปลงของสังคมจากอิทธิพลภายนอก ช่างทอมีความคิดเห็นว่า 1) ด้านความเป็นสมัยใหม่ พบว่า การเรียนรู้เรื่องทอผ้าแผ่ขยายวงกว้างขึ้นกว่าเดิมจากการฝึกอบรม (ร้อยละ 100) มีการใช้กี่กระตุกแทนกี่บ้านทอมือแบบพุ่งกระสวย (ร้อยละ 25) 2) ด้านกระแสโลกาภิวัตน์ พบว่า งานทอผ้าเป็นอาชีพหลักของกลุ่มแม่บ้านและพร้อมจะเปลี่ยนเมื่อมีทางเลือกที่ดีกว่า (ร้อยละ 100) ช่างทออยากให้บุตรหลานประกอบอาชีพอื่นนอกเหนือจากการทอผ้าอยู่ที่บ้าน (ร้อยละ 100) 3) ด้านการตลาดและเศรษฐกิจทุนนิยม พบว่า ช่างทอผ้าในชุมชนบางคนสร้างเครือข่ายการทอผ้าภายในหมู่บ้าน ตำบล และจังหวัด แบ่งหน้าที่รับผิดชอบแบบระบบอุตสาหกรรม มุ่งเน้นการทอผ้าจำนวนมากตามความต้องการของตลาด (ร้อยละ 85.71) 4) ด้านการส่งเสริมจากภาครัฐ พบว่า รัฐมีการจัดอบรม และส่งเสริมเงินทุนกู้ยืมผ่านระบบกองทุนหมู่บ้าน (ร้อยละ 100) การออกแบบและพัฒนาลายผ้า สำหรับสตรีวัยทำงาน ลายที่ได้ค่าเฉลี่ยสูงสุด 7 ลำดับแรก คือ ลายที่ 3 ลายแมวป่า (x=4.95) ลายที่ 21 ลายบัวประกายพรึก/บัวแปดทิศ (x=4.95) ลายที่ 1 ลายดอกแพงพวย/บัวสี่ทิศ (x=4.77) ลายที่ 14 ลายดอกพุดเชื่อม (x=4.75) ลายที่ 5 ลายเกล็ดอัญมณี (x=4.74) ลายที่ 17 ลายตาข่ายดอกบานชื่น (x=4.70) ลายที่ 11 ลายช้างสุรินทร์มงคล จากนั้นนำลายเส้นที่ออกแบบไว้พัฒนาเป็นลายผ้ามัดหมี่ต้นแบบ สำหรับสตรีวัยทำงาน ตามแนวคิดชุดผ้าไทยใส่ได้ทุกวัน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
คำสำคัญ: ผ้ามัดหมี่
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน
รายละเอียด: โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภูมิปัญญาการออกแบบลายผ้ามัดหมี่โบราณในจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย กลุ่มช่างทอผ้าที่มีประสบการณ์ทอผ้ามากกว่า 10 ปี จำนวน 7 คน สตรีวัยทำงาน 100 คน ผ้าไหมมัดหมี่ลายรูป จำนวน 121 ผืน ผ้าไหมโฮล 40 ผืน ผ้าไหมหมี่ขั้น จำนวน 14 ผืน และผ้าอันปรม 10 ผืน รวมทั้งหมด จำนวน 185 ผืน การดำเนินงานวิจัยใช้วิธีวิจัยแบบสนามและการสัมภาษณ์เชิงลึกช่างทอผ้า เครื่องมือที่ใ้ช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบตารางวิเคราะห์ลักษณะผ้า, แนวคำถามสำหรับสัมภาษณ์ช่างทอผ้าและการสังเกตอย่างมีส่วนร่วม, แบบสอบถามสำหรับสตรีวัยทำงานเกี่ยวกับพฤติกรรมและปัจจัยที่มีผลจต่อการตัดสินใจซื้อผ้าไหม ผลการวิจัยพบว่า ผ้ามัดหมี่ในจังหวัดสุรินทร์ มี 3 ชนิด คือ ผ้ามัดหมี่ลายรูป ผ้ามัดหมี่อันปรม และผ้ามัดหมี่ขั้นลาย ซึ่งแบ่งเป็นผ้ามัดหมี่ขั้นลายทั่วไปและผ้ามัดหมี่ชั้นลายโฮล สภาพทั่วไปของผ้ามัดหมี่ขั้นลายโฮล พบว่า ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแม่สีชั้น 1 และสีชั้น 2 (ร้อยละ 62.50) วรรณะสีร้อน (ร้อยละ 72.50) โทนสีกลมกลืน (ร้อยละ 57.50) ทอลายน้ำไหล (ร้อยละ 80) โคม 5 (ร้อยละ 50) ขั้นลาย (ริ้ว) (ร้อยละ 82.50) ไม่ขั้นลาย (ลายซิกแซกและลายเคลื่อน) (ร้อยละ 17.50) ทอแบบโบราณ คือ มัดหมี่เทียบแม่ลาย และเว้นขาวที่หัว-ตีนซิ่น (ร้อยละ ุ65) ย้อมด้วยสีเคมี (ร้อยละ 60) สภาพทั่วไปของผ้ามัดหมี่ขั้นลาย พบว่าส่วนใหญ่เป็นผ้าลายดอกพิกุล (ร้อยละ 42.86) วรรณะสีร้อน (ร้อยละ 71.43) โทนสีกลมกลืน (ร้อยละ 57.14) มีสีแดง (ร้อยละ 78.57) สีเหลือง (ร้อยละ 71.43) และสีดำ/สีน้ำตาล (ร้อยละ 54.71) ขั้นลายด้วยไหมสี (ร้อยละ 100) และไหมมัดหมี่ (ร้อยละ 92.90) ย้อมสีเคมี (ร้อยละ 100) สภาพทั่วไปของผ้ามัดหมี่ลายรูป พบว่าส่วนใหญ่เป็นวรรณะสีร้อน (ร้อยละ 71.90) โทนสีกลมกลืน (ร้อยละ 51.24) สีแดง (ร้อยละ 75.21) สีน้ำตาล (ร้อยละ 71.07) สีเหลือง (ร้อยละ 69.42) ลายมีขนาดเล็ก (ร้อยละ 52.07) ลายรูปสัตว์ส่วนใหญ่เป็นลายนาค (ร้อยละ 12.40) ลายรูปพรรณพฤกษาส่วนใหญ่เป็นลายดอกไม้ (ร้อยละ 14.05) ลายเรขาคณิตส่วนใหญ่เป็นลายรากแห (ร้อยละ 51.24) องค์ประกอบผ้ามีท้องผ้าและเชิง (ร้อยละ 99.17) ย้อมสีเคมี (ร้อยละ 66.94) สภาพทั่วไปของผ้าอันปรม พบว่าส่วนใหญ่เป็นผ้าวรรณะสีร้อนโทนสีแดงอมส้ม (ร้อยละ 50) วรรณะสีเย็นโทนสีแดงอมน้ำเงิน (ร้อยละ 50) กระบวนการทอแบบโบราณ (ร้อยละ 100) เรียงลำดับไหมเส้นพุ่งและเส้นยืนแบบเดียวกัน คือ เส้นไหมมัดหมี่ลายประสีแดง-ขาว, เส้นไหมสีแดง, เส้นไหมสีดำ และเส้นไหมสีส้ม (ร้อยละ 100) ย้อมสีเคมี (ร้อยละ 100) สภาพทั่วไปเกี่ยวกับผู้ซื้อผ้า พบว่าส่วนใหญ่มีอายุ 46-55 ปี (ร้อยละ 41) สมรส (ร้อยละ 81) อาชีพรับราชการ (ร้อยละ 50) ความถี่ในการซื้อผ้า 4-6 เดือน/ครั้ง (ร้อยละ 37) ณ ตลาดนัดสินค้า OTOP (ร้อยละ 92) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ คือ เทศกาลงานบุญ/วันสำคัญ/กระแสแฟชั่นในขณะนั้น (ร้อยละ 50) ซื้อสำหรับตนเอง (ร้อยละ 100) ลวดลายโดดเด่น หรูหรา เหมาะสมสำหรับตัดชุดในงานพิธีการ (ร้อยละ 100) ผลการวิเคราะห์พฤติกรรมและปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผ้าไหม ด้านสี พบว่า ส่วนใหญ่เป็นผ้าสีโทนร้อน ให้ความรู้สึกร่ำรวย และหรูหรา (x=4.41) ด้านลายผ้า พบว่า ส่วนใหญ่ลายผ้ามีความแปลกใหม่ ลวดลายเล็กละเอียดเต็มผืน และทอขึ้นอย่างวิจิตร (x=4.63) ด้านกระบวนการผลิต พบว่า ส่วนใหญ่เลือกซื้อเพราะผ้ามีคุณภาพดี (x=4.74) สภาพทั่วไปของช่างทอผ้า พบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 100) อายุ 46-55 ปี (ร้อยละ 57.14) จำแนกตามกลุ่มพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ที่ อำเภอท่าตูม, อำเภอเขวาสินรินทร์, อำเภอเมืองสุรินทร์, อำเภอศรีขรภูมิ, อำเภอสังขะ, อำเภอพนมดงรัก และอำเภอกาบเชิง (ร้อยละ 14.28) จบการศึกษาระดบประถมศึกษา (ร้อยละ 85.71) ทอผ้ามากกว่า 20 ปี (ร้อยละ 71.42) เคยเข้าอบรม (ร้อยละ 100) สภาพทั่วไปด้านวิถีชีวิต พบว่า ส่วนใหญ่ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา และจะทอผ้าหลังฤดูเก็บเกี่ยว เริ่มทอผ้าตั้งแต่ยังเป็นเด็กจากแม่และยาย (ร้อยละ 100) สภาพทั่วไปด้านกระบวนการทอผ้า พบว่า การปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม และภูมิปัญหาการสาวไหมน้อยมีมาแต่โบราณ การมัดหมี่ทำได้ 2 วิธี คือ มัดเทียบลายจากแม่ลาย เรียกว่า ผ้าโฮลบันเดือด และมัดหมี่ลายตามความถนัดของช่าง กี่ทอผ้า มี 2 แบบ คือ กี่บ้านทอมือแบบพุ่งกระสวย และกี่กระตุก อุปกรณ์ในการทอผ้าอื่น ๆ สามารถหาได้ภายในท้องถิ่น ลายผ้าพื้นเมืองดั้งเดิม คือ ผ้าโฮล ผ้ามัดหมี่ลายร้อยเส้น ลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนต่อลายแบบรากแห และลายลูกอ๊อด (ร้อยละ 100) ด้านการเปลี่ยนแปลงของสังคมจากอิทธิพลภายนอก ช่างทอมีความคิดเห็นว่า 1) ด้านความเป็นสมัยใหม่ พบว่า การเรียนรู้เรื่องทอผ้าแผ่ขยายวงกว้างขึ้นกว่าเดิมจากการฝึกอบรม (ร้อยละ 100) มีการใช้กี่กระตุกแทนกี่บ้านทอมือแบบพุ่งกระสวย (ร้อยละ 25) 2) ด้านกระแสโลกาภิวัตน์ พบว่า งานทอผ้าเป็นอาชีพหลักของกลุ่มแม่บ้านและพร้อมจะเปลี่ยนเมื่อมีทางเลือกที่ดีกว่า (ร้อยละ 100) ช่างทออยากให้บุตรหลานประกอบอาชีพอื่นนอกเหนือจากการทอผ้าอยู่ที่บ้าน (ร้อยละ 100) 3) ด้านการตลาดและเศรษฐกิจทุนนิยม พบว่า ช่างทอผ้าในชุมชนบางคนสร้างเครือข่ายการทอผ้าภายในหมู่บ้าน ตำบล และจังหวัด แบ่งหน้าที่รับผิดชอบแบบระบบอุตสาหกรรม มุ่งเน้นการทอผ้าจำนวนมากตามความต้องการของตลาด (ร้อยละ 85.71) 4) ด้านการส่งเสริมจากภาครัฐ พบว่า รัฐมีการจัดอบรม และส่งเสริมเงินทุนกู้ยืมผ่านระบบกองทุนหมู่บ้าน (ร้อยละ 100) การออกแบบและพัฒนาลายผ้า สำหรับสตรีวัยทำงาน ลายที่ได้ค่าเฉลี่ยสูงสุด 7 ลำดับแรก คือ ลายที่ 3 ลายแมวป่า (x=4.95) ลายที่ 21 ลายบัวประกายพรึก/บัวแปดทิศ (x=4.95) ลายที่ 1 ลายดอกแพงพวย/บัวสี่ทิศ (x=4.77) ลายที่ 14 ลายดอกพุดเชื่อม (x=4.75) ลายที่ 5 ลายเกล็ดอัญมณี (x=4.74) ลายที่ 17 ลายตาข่ายดอกบานชื่น (x=4.70) ลายที่ 11 ลายช้างสุรินทร์มงคล จากนั้นนำลายเส้นที่ออกแบบไว้พัฒนาเป็นลายผ้ามัดหมี่ต้นแบบ สำหรับสตรีวัยทำงาน ตามแนวคิดชุดผ้าไทยใส่ได้ทุกวัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ 2557 โครงการภูมิปัญญาการออกแบบลายผ้ามัดหมี่โบราณ จังหวัดสุรินทร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
2558
การออกแบบและสร้างเครื่องขูดมะละกอ การศึกษาลายผ้าของชุมชนหมู่บ้านคลองเตย จังหวัดพิษณุโลก โครงการศึกษารูปแบบ และออกแบบบรรจุภัณฑ์หัตถกรรมโลหะดุลลายบ้านวัวลาย เชียงใหม่ รายงายผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานผลการวิจัยเรื่อง การออกแบบบรรจุภัณฑ์ของตกแต่งจากไม้มะขามเทศ จังหวัดเพชรบูรณ์ อิทธิพลของ Naphthaleneacetic acid ที่มีผลต่อการออกรากของกิ่งตอนจำปี โครงการ การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้จากผ้า สู่ชุมชนในเขตจังหวัดลพบุรี การประดิษฐ์เครื่องอบไม้ด้วยระบบไอน้ำสำหรับงานดัดโค้งไม้ยางพารา : รายงานการวิจัย รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสูตรอาหารที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ฟีโลเดนดรอนมูนไลท์ การศึกษาสมบัติของผ้าไม่ถักทอจากพอลิยูริเทนผสมผงไหมซิริซิน : รายงานการวิจัย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก