สืบค้นงานวิจัย
การรวบรวม ประเมินและจำแนกพันธุ์ข้าวไทยคุณภาพพิเศษจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน
รองศาสตราจารย์ศันสนีย์ จำจด - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: การรวบรวม ประเมินและจำแนกพันธุ์ข้าวไทยคุณภาพพิเศษจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน
ชื่อเรื่อง (EN): Collection, evaluation and characterization for special quality in Thai rice varieties from Chiang Mai, Chiang Rai and Mae Hong Son provinces
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รองศาสตราจารย์ศันสนีย์ จำจด
บทคัดย่อ:             สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การรวบรวม ประเมินและจำแนกพันธุ์ข้าวไทยคุณภาพพิเศษจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน” แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย รศ.ดร.ศันสนีย์ จำจด เป็นหัวหน้าโครงการ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) รวบรวมพันธุ์ข้าวท้องถิ่นพื้นเมืองจากพื้นที่สูงในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ เชียงราย และ แม่ฮ่องสอน) และนํามาจําแนกคุณภาพพิเศษในเบื้องต้น 2) คัดเลือกพันธุ์ข้าวคุณภาพพิเศษนํามาศึกษาจําแนกร่วมกับพันธุ์ที่มีอยู่ 3) ประเมินอิทธิพลของพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมต่อคุณภาพพิเศษในเมล็ดข้าว และ 4) คัดเลือกสายพันธุ์บริสุทธิ์จากเชื้อพันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่สูงที่มีคุณภาพพิเศษสูง   จากการศึกษาวิจัยพบว่า การคัดเลือกเชื้อพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพพิเศษทางด้านโภชนาการที่ได้จากการวิเคราะห์ในปีที่ 1 คือ ปริมาณธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี แอนโทไซยานิน แกมม่าออไรซานอล วิตามินอี ฟีนอล และสารต้านอนุมูล จำนวนลักษณะละ 2 พันธุ์ แต่ละเชื้อพันธุ์ปลูกทดสอบในรุ่นลูกร่วมกับพันธุ์เปรียบเทียบที่มีอยู่แล้ว เช่น ก่ำหอม มช. ข้าวเจ้าหอมนิล ก่ำดอยสะเก็ด กข 6 และขาวดอกมะลิ 105 คัดแยกเมล็ดพันธุ์ที่มีลักษณะต่างกันด้วยสายตาเป็นหมู่ย่อย มาปลูกเป็นแถวกอละต้น จำแนกลักษณะทางสัณฐานในระยะออกดอก เมื่อถึงระยะเก็บเกี่ยวประเมินลักษณะคุณภาพพิเศษของแต่ละกลุ่มที่คัดเลือกมาเชื้อพันธุ์ละ 5-10 ต้น โดยวัดแยกต้น ประเมินลักษณะทางสัณฐานของเมล็ดในแต่ละพันธุ์ นำเมล็ดจากต้นที่มีลักษณะเดียวกันมารวมกัน นำไปเตรียมตัวอย่างเมล็ดข้าวในรูปของข้าวกล้องข้าวสารขัดขาวและรำ เพื่อนำมาวิเคราะห์คุณภาพพิเศษทั้ง 7 ลักษณะ เพื่อศึกษาการสะสมของปริมาณสารอาหารที่เป็นประโยชน์ทางโภชนาการต่างๆ ในส่วนต่างๆ ของเมล็ดข้าว ปลูกขยายพันธุ์ข้าวคุณภาพพิเศษทุกสายพันธุ์ รวมทั้งพันธุ์เปรียบเทียบเพื่อนำเมล็ดพันธุ์ที่ได้มาใช้ปลูกทดลองในปีที่ 3 ผลการศึกษาวิจัยพบว่าสามารถคัดเลือกเชื้อพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพพิเศษทางโภชนาการทั้ง 7 ลักษณะได้ ทั้งหมด 11 เชื้อพันธุ์ เป็นชนิดข้าวไร่ 9 เชื้อพันธุ์ ข้าวนา 2 เชื่อพันธุ์ แบ่งเป็นเป็นข้าวเหนียว 6 เชื้อพันธุ์ ข้าวเจ้า 5 เชื้อพันธุ์ และแบ่งเป็นชนิดที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดเป็นสีดำ 8 เชื้อพันธุ์ สีขาวไม่มีสี 3 เชื้อพันธุ์ และ เมื่อนำมาปลูกทดสอบพบความหลากหลายของลักษณะทางสัณฐานของข้าวทุกเชื้อพันธุ์ โดยลักษณะที่ พบความหลากหลายคือ รูปร่างของลิ้นใบ, สีข้อต่อใบ, สีกลีบรองดอก, สียอดดอก, สีเปลือกเมล็ด, สีเยื่อ หุ้มเมล็ดและการมีขนบนแผ่นใบ ลักษณะทางพืชไร่พบว่าข้าวทั้ง 11 เชื้อพันธุ์มีความสูงอยู่ในช่วง 70- 130 ซม. จำนวนหน่อ 3-7 หน่อ/กอ จำนวนรวง 3-6 รวง/กอ อายุวันออกดอก 80-110 วัน อายุวันสุก แก่ 110-150 วัน น้ำหนัก 1,000 เมล็ด 23-35 กรัม จำนวนเมล็ดดี 70-90% ผลผลิตเมล็ด 280-450 กิโลกรัม/ไร่ รูปร่างเมล็ดส่วนใหญ่เป็นแบบ medium-medium และ long-medium ลักษณะคุณภาพ การหุงต้มของพันธุ์ที่คัดเลือก 11 พันธุ์ แบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ เป็นข้าวเหนียวมีอุณหภูมิแป้งสุกต่ำ 5 เชื้อพันธุ์ ข้าวเหนียวมีอุณหภูมิแป้งปานกลาง 2 เชื้อพันธุ์ และแบบข้าวเจ้ามีอุณหภูมิแป้งสุกต่ำ 4 เชื้อ พันธุ์ โดยพบว่าข้าวคุณภาพพิเศษทุกเชื้อพันธุ์สะสมสารคุณภาพพิเศษที่รำมากที่สุดทุกพันธุ์ ตั้งแต่ 1-8 เท่าเทียบกับข้าวกล้อง และ 2-38 เท่า เทียบกับข้าวขาว พันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่คัดเลือกแต่ละลักษณะ คุณภาพพิเศษมีปริมาณคุณภาพพิเศษสูงกว่าพันธุ์เปรียบเทียบทุกลักษณะ ยกเว้นธาตุเหล็กและแกมม่าออไรซานอลหลังจากนั้นได้คัดเลือกพันธุ์ละ 5 ต้น ของแต่ละลักษณะคุณภาพพิเศษสูงที่สุดของแต่ลักษณะเพื่อคัดสายพันธุ์แท้สารคุณภาพพิเศษ 7 ชนิด รวมทั้งการทดสอบอิทธิพลของสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ต่อไปในปีที่ 3             ประโยชน์ที่จะได้รับของโครงการนี้ คือ ได้องค์ความรู้พันธุ์ข้าวพื้นเมืองท้องถิ่นจากที่สูงแหล่งต่างๆ และจําแนกลักษณะคุณภาพพิเศษของประโยชน์ทางโภชนาการ โดยมีคุณภาพพิเศษ 7 อย่าง ได้แก่ เหล็ก สังกะสี แอนโธไซยานิน โอไรซานอล วิตามินอี ฟีนอล และ สารต้านอนุมูลอิสระ จำนวนไม่น้อยกว่า 100 สายพันธุ์ 
บทคัดย่อ (EN): This research project aim to 1) select the local landraces rice with high nutritional values from the collected rice varieties of the highland areas among 3 provinces (Chiang Mai, Chiang Rai and Mae Hong Son) and evaluate the morphological and agronomical traits together with cooking and nutritional qualities in comparison with the checks varieties, 2) evaluate effects of genotype and environmental condition on nutritional qualities of the selected varieties and 3) purify the rice varieties with high nutritional values in comparison with the current and standard varieties. The effects of growing condition and fertilizer management on grain nutrients concentration among the selected varieties consisted of the 3 main experiments. The experiment 1 was to evaluate the selected varieties in the farmer’s field under their practice conditions. The experiment 2 was to evaluate the effect of foliar zinc fertilizer application. The experiment 3 was to evaluate the effect of nitrogen fertilizer application. In the farmer’s field, growing condition had affected on nutrient concentration in all varieties, excepted vitamin E. At highland location, rice varieties reached flowering about 1-2 weeks before lowland condition. The upland rice varieties had lower yield when grown under waterlogging in lowland location compared with the highland condition both in aerobic and waterlogging. The highest anthocyanin content (Pieisu), antioxidant capacity (Dewmaona) and phenol content (Khamhommorchor) of rice grown under waterlogging in highland were found to have 2 times higher concentration than in the lowland location. Gamma oryzanol and vitamin E of rice grain grown under waterlogging in lowland location was higher than both conditions at the highland. Bue Bang had the highest zinc concentration when grown under waterlogging at lowland location or aerobic condition in the highland. Grain Fe concentration of rice varieties grown under waterlogging of both lowland and highland locations was higher than grown in the aerobic condition and the highest concentration was found in Khamhom Morchor. The interaction effects between zinc fertilizer application and variety was observed in plant height and antioxidant capacity. The number of spiket/panicle was significantly difference among varieties when grown under lowland location, while zinc concentration was found to be difference only at the highland location. Foliar zinc fertilizer application in lowland location resulted in higher plant in RD6 compared with non-foliar, and Bue Bang had higher number of spiket/panicle at the highland location, while the difference was not found among the other varieties. Higher grain zinc concentration was found in all varieties when foliar fertilizer in the lowland location, but only Bue Bang, Dewmaona and Khamakha had higher grain zinc concentration at the highland location. Foliar zinc application increased vitamin E concentration in Bue Bang and KDML105 at lowland location, but no effect was found in the highland location. The antioxidant capacity was increased in Dewmaona and Khamakha after foliar zinc was applied at lowland location, but no difference among varieties was found in the highland location which had antioxidant capacity higher than at the lowland location. The interaction effects between N fertilizer and variety were observed in flowering date, plant height and straw weight under lowland location and number of panicle/plant in the highland location, anthocyanin at both locations, but grain zinc concentration was found only at lowland location. N application at the lowland location resulted in delaying to flower in Bieisu, while plant height and straw weight were increased. Bue Bang and Bieisu had higher number of panicle/plant under the highland location. Bieisu was found to have 2 times higher anthocyanin content at the highland location from lowland, while grain zinc concentration was increased in all varieties under lowland location, but no effect was found in the highland. The selected line was evaluated for nutritional quality and 7 lines were selected for the highest grain nutrient which was 1.2-4.5 folds higher than the standard check varieties.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: ข้าวคุณภาพพิเศษ
คำสำคัญ (EN): Special quality rice
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
ข้อมูลทรัพยสินทางปัญญา
ประเภทIP คุ้มครองพันธุ์พืช
รายชื่อสิ่งประดิษฐ์ บือบ้าง 3 มช. (BB 3 CMU) (รับรองพันธุ์ 2518)
เลขที่คำขอ 218/2563
วันที่ยื่นคำขอ 2020-10-20 12:00:00
เลขที่ประกาศ 1658/2564
วันที่จดทะเบียน 2021-03-16 12:00:00
เลขที่จดทะเบียน 1658/2564
วันที่ประกาศ 2021-03-16 12:00:00
สถานะปัจจุบัน เชิงสาธารณะ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การรวบรวม ประเมินและจำแนกพันธุ์ข้าวไทยคุณภาพพิเศษจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
23 สิงหาคม 2557
คุณภาพข้าวสุกจากการผสมข้าว กข 23 และ ชัยนาท 1 ในขาวดอกมะลิ 105 การรวบรวม ประเมินและจำแนกพันธุ์ข้าวไทยคุณภาพพิเศษจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน ผลของการใช้รังสีแกมมาต่อคุณภาพของข้าว การรวบรวมและอนุรักษ์พันธุ์ข้าว ความแปรปรวนของคุณภาพการหุงต้มในข้าวพันธุ์พื้นเมืองจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ห่วงโซ่คุณค่าของปลานิลในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย การเพิ่มผลผลิตข้าวคุณภาพพิเศษโดยวิธีการจัดการธาตุอาหารเพื่อการเพาะปลูกและปรับปรุงพันธุ์ รวมทั้งการชะลอการสูญเสียสารคุณภาพพิเศษระหว่างการเก็บรักษา การจัดการสวนส้มโอเพื่อผลิตส้มโอคุณภาพสำหรับส่งออก การจัดการสวนส้มโอเพื่อผลิตส้มโอคุณภาพสำหรับส่งออก การรวบรวม ประเมินและจำแนกพันธุ์ข้าวไทยคุณภาพพิเศษจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก