สืบค้นงานวิจัย
ผลของการจัดการดินในระบบเกษตรอินทรีย์กับการใช้ปุ๋ยเคมีต่อการผลิตข้าวโพดหวานเพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เกษตรกร
ภูวิพัฒน์ เกียรติ์สาคเรศ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
ชื่อเรื่อง: ผลของการจัดการดินในระบบเกษตรอินทรีย์กับการใช้ปุ๋ยเคมีต่อการผลิตข้าวโพดหวานเพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เกษตรกร
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of Soil Management on Organic Agricultural System compare to Chemical Fertilizer Use on Sweet Corn Production for Technology Transfer to Farmers
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ภูวิพัฒน์ เกียรติ์สาคเรศ
บทคัดย่อ: ผอของการจัดการดินในระบบเกษตรอินทรีย์กับการใช้ปุ๊ยเคมีต่อการผลิตข้าวโพดหวาน เพื่อการจ่ายทอดเทคโนโฉยีสู่เกษครกร Effect of Soil Management on Organic Agricultural System compare to Chemical Fertilizer Use on Sweet Corn Production for Technology Transfer to Farmers การวิจัยเรื่อง ผลของการจัดการดินในระบบเกษตรอินทรีย์กับการใช้ปุ๊ยเคมีต่อการผลิต ข้าวโพดหวานเพื่อการถ่ายทอดเทคโน โถยีสู่เกษตรกร แบ่งการทคลองออกเป็น 6 สิ่งทดลอง คือ สิ่ง ทคลองที่ 1 ไถกลบถั่วเขียวเมื่อออกดอกแล้วปถูกข้าวโพดหวานหลังไถกลบ 7-15 วัน สิ่งทดลองที่ 2 ใส่ ปุ้ยคอกจากมูลวัวอัตรา 1 ต้นต่อไร่ ร่วมกับการคลุมฟางหนา 5 เซนติเมตร สิ่งทดลองที่ 3 ใส่ปุ๋ยคอก จากมูลวัวอัตรา 1 ตันต่อไร่ ร่วมกับการคลุมฟางหนา s เซนดิมตร และรดน้ำสกัดชีวภาพเดือนละครั้ง สิ่งทคลองที่ 4 ใส่ปุยคอกจากมูลวัวอัตรา 2 ตันต่อไร่ สิ่งทคลองที่ 5 ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 อัครา 30 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อข้าวโพดหวานอานุ 21-25 วันหลังปลูก และสิ่งทคลองที่ 6 ไม่ใส่ปุ๊น โดยทำการ ทคลอง 4 ซ้ำ วางแผนการทคลองแบบสุ่มในบล็อกสมบูรณ์ (Randomized Complete Block Desgn. RCBD) ปลูกข้าวโพด ร ฤดู ได้แก่ ฤดูที่ 1 ปลูกวันที่ 16 มกราคม 2550 (ฤดูแล้ง) ฤดูที่ 2 ปลูกวันที่ 6 มิถุนายน 2550 (ฤดูฝน) ฤดูที่ 3 ปลูกวันที่ 9 ตุลาคม 2550 (ปลายฤคูฝน) ฤดูที่ 4 ปลูกวันที่ 10 ตุลาคม 2551 (ปลายฤคูฝน) และ ฤดูที่ 5 ปลูกวันที่ 2 มบายน 2552 (ต้นฤดูฝน) ในสภาพดินทรายร่วน ที่แปลงวิชัยสาขาวิชาพืชศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์และเทกโน โลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ มีวัดถุประสงค์เพื่อ 1) หารูปแบบที่หมาะสมในการปรับปรุงความอุคม สมบูรณ์ของคินที่ปลูกข้าวโพดหวานในระบบเกษตรอินทรีย์ 2) เปรียบเทียบความแตกต่างของผลผลิด ข้าวโพดหวานที่ปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์และปลูกโดยใช้สารเคมี 3ศึกษาผลตอบแทนและ อัตราส่วนของรายได้ต่อทุน Value/Cost Ratio, VCR) ของการจัดการดินในรูปแบบที่กำหนด 4 วิคราะห์ปริมาณธาตุอาหารในคินที่ผ่านการจัดการคินในรูปแบบที่กำหนด และ 5) ถ่ายทอดเทคโนโลย สู่เกษตรกร พันธุ์ข้าวโพดหวานที่ใช้เป็นพันธุ์ผสมเปีดพันธุ์เคิมตลอดการทดลอง ผลการวิจัยพบว่า สิ่งทดลองที่ 2 ใส่ปุ๋ยคอกจากมูถวัวอัตรา 1 ต้นต่อไร่ ร่วมกับการคลุมฟาง หนา 5 เซนติเมตร เป็นรูปแบบที่หมาะสมที่สุดในการปรับปรุงความอุคมสมบูรณ์ของคินที่ปลูก ข้าวโพดหวานในระบบเกษตรอินทรีย์ ในสภาพดินทรายร่วน รองลงมาคือ สิ่งทคลองที่ 4 ใส่ปุ๋ยคอกจาก มูลวัวอัตรา 2 ตันต่อไร่ และสิ่งทคลองที่ 3 ใส่ปุ๋ยคอกจากมูลวัวอัตรา 1 ตันต่อไร่ ร่วมกับการคลุมฟาง หมา ร เซนดิมตร และรดน้ำสกัดชีวภาพเดือนละครั้ง ตามลำคับ โคยที่สิ่งทคลองที่ 3 และสิ่งทคลองที่ ร ใส่ปุ๊ยเคมีสูตร 16-20-0 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อข้าวโพดหวานอายุ 21-25 วันหลังปลูก ให้ ผลผลิต จำนวนฝักที่ได้มาตรฐานต่อไร่ นวนฝึกที่ไม่ได้มาตรฐานต่อไร่นวนฝักรวมต่อไร่ น้ำหนักฝักที่ได้มาตรฐานต่อไร่ และน้ำหนักดันสดต่อไร่ ไม่แตกต่างกันทางสถิติ สิ่งทดลองที่ 2 และ 4 ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักที่ได้มาตรฐานต่อไร่ สูงกว่า สิ่งทคถองที่ 5 ประมาณ ร้อยละ 81.86 และร้อยละ 77.67 ตามลำคับ (PS0.01) สิ่งทดลองที่ 2 4 และ 3 มีผลผลิต น้ำหนักฝึกรวมต่อไร่เฉลี่ยประมาณ 959.47 941.34 และ 924.27 กิโลกรัม สูงกว่าสิ่งทดลองที่ 5 ที่มีน้ำหนักฝึกรวมต่อไร่เฉลี่ยประมาณ 640.00 กิโลกรัม (P:0.01) สิ่งทดลองที่ 5 มีผลตอบแทนและอัตราส่วนรายได้ต่อทุน หรือค่า VCR สูงสุดเท่ากับ 3.00 รองลงมา คือ สิ่งทคลองที่ 2 3 และ 4 มีค่า VCR เท่ากับ 256 2.03 และ 1.41 ตามลำดับ แต่เมื่อพิจารณากำไรสุทธิต่อไร่ พบว่า สิ่งทคลองที่ 2 3 และ 4 มีกำไรสุทธิสูงกว่าสิ่ง ทดลองที่ ร โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,257.50 1,540.00 1,03.00 และ 720.00 บาทต่อไร่ตามลำคับ จากผลการวิเคราะห์คุณสมบัติของดินก่อนการทดลองปลูกข้าวโพดหวาน พบว่า เป็นดินทรายร่วน มี ความคุคมสมบูรณ์ของดินต่ำ มื PH 5 ระดับอินทรียวัดถุต่ำมากประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นด์ มีปริมาณธาตุ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม และแมกนีเซียมอยู่ในระดับต่ำ หลังจากปถูกข้าวโพคหวานแล้ว 5 ฤดู พบว่า ดินมีค่า PH ปริมาณธาตุฟอสฟอรัส แดลเซียม และแมกนีเซียมสูงขึ้น มีปริมาณ อินทรียวัดถุเท่าเดิม แต่มีปริมาณราตุโพแทสเซียมลดลง รูปแบบการจัดการดินที่มีคุณสมบัติของดินดี ที่สุด คือ สิ่งทคลองที่ 4 รองลงมาคือ สิ่งทคลองที่ 2 3 5 1 และ 6 ดามลำคับ ผถการอบรมเพื่อ ถ่ายทอดเทคโน โถยีสู่เกษตรกรพบว่ เกษตรกรมีความพึงพอใจต่อการถ่ายทอดเทคโนโถยีของวิทยากร ร้อยละ 87.00 และสามารถนำความรู้ที่ด้รับไปใช้ประโชน์ได้ ร้อยละ 8400มีความประสงค์ให้ หน่วยงานราชการ ดำเนินงานวิจัยเปรียบเทียบผลผลิตระหว่างการทำเกษตรอินทรีย์เกษตรอินทรีย์ ร่วมกับการใช้สารเคมี และเกษตรปลอดสารพิษ เพื่อถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรต่อไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
คำสำคัญ: ข้าวโพดหวาน
คำสำคัญ (EN): sweet corn
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการจัดการดินในระบบเกษตรอินทรีย์กับการใช้ปุ๋ยเคมีต่อการผลิตข้าวโพดหวานเพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เกษตรกร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
30 กันยายน 2551
การผลิตต้นพันธุ์หน้าวัวลูกผสมเพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เกษตรกร การเพิ่มศักยภาพการบริหารการผลิตของกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ การพัฒนารูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวคุณภาพดีเชิงบูรณาการ โดยเกษตรกรต้นแบบสู่เกษตรกรเป้าหมายในพื้นที่นอกเขตชลประทานจังหวัดสุพรรณบุรี (ปีที่2) ประสิทธิผลการผลิตข้าวแปลงใหญ่ของเกษตรกรในเขตภาคเหนือตอนบน การศึกษาสภาวะที่เหมาะสมต่อการผลิตน้ำส่าจากข้าวโพดหวาน เพื่อการผลิตสุรากลั่น การพัฒนารูปแบบการจัดการการตลาดของกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน โครงการเผยแพร่งานวิจัยและนวัตกรรมผ่านสื่อสู่เกษตรกร ความเป็นไปได้เชิงเศรษฐกิจในการผลิตผักพื้นบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร ผลการเรียนรู้ของเกษตรกรจากรายการวิดีทัศน์ที่มี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก