สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยและพัฒนากล้วยไม้สกุลแวนด้าเพื่อการค้า
กรมวิชาการเกษตร - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยและพัฒนากล้วยไม้สกุลแวนด้าเพื่อการค้า
ชื่อเรื่อง (EN): Research and Develop on Vandaceouse Orchid for Commercial
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กรมวิชาการเกษตร
บทคัดย่อ: กล้วยไม้สกุลแวนด้าเป็นกล้วยไม้ที่มีศักยภาพสูงมากสำหรับผลิตในประเทศรองจากกล้วยไม้สกุลหวาย จึงต้องมีการศึกษาในด้านของการปรับปรุงพันธุ์ เทคโนโลยีการผลิตรวมทั้งการอารักขาพืช เพื่อเป็นข้อมูลในการเพิ่มมูลค่าการผลิตและเพิ่มโอกาสในการขยายตัวทางการตลาดในอนาคต จากการดำเนินการในด้านต่างๆ ได้ผล ดังนี้ การปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้สกุลแวนด้า ดำเนินการปี พ.ศ. 2554 - 2558 โดยการรวบรวมพันธุ์แวนด้าฟ้ามุ่ยและสามปอยจากแหล่งต่างๆ คัดเลือกที่มีลักษณะดีเด่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายลักษณะร่วมกัน เพื่อใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ ทำการผสมพันธุ์ระหว่างต้นที่คัดเลือกให้ได้ต้นที่มีลักษณะดี เพื่อใช้เป็นพันธุ์ใหม่ทดแทนพันธุ์เดิมหรือใช้เป็นฐานพันธุกรรมกล้วยไม้สำหรับพัฒนาพันธุ์ จากการทดลองศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงรายได้ลูกผสมฟ้ามุ่ย จำนวน 25 คู่ผสม 1,095 ต้น และฟ้ามุ่ยน้อย จำนวน 23 คู่ผสม 1,066 ต้น ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกาญจนบุรีได้ลูกผสมฟ้ามุ่ย จำนวน 17 คู่ผสม 510 ต้น และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตรได้ลูกผสมสามปอย จำนวน 3 คู่ผสม 952 ต้น ซึ่งลูกผสมดังกล่าวยังไม่สามารถประเมินลักษณะดอกของต้นลูกผสมได้ จึงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในโครงการวิจัยระยะต่อไป การพัฒนารูปแบบการปลูกกล้วยไม้สกุลแวนด้าให้เหมาะสมสำหรับเป็นกล้วยไม้กระถาง ดำเนินการที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงแพชรบูรณ์ ดำเนินการระหว่างปี 2554 – 2557วางแผนการทดลองแบบ 2 x 3 Factorial in CRD (Completely Randomized Design) มี 6 ซ้ำ 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยที่ 1 ชนิดของกระถางขนาด 6 นิ้ว ได้แก่กระถางพลาสติกใส และกระถางพลาสติกดำปัจจัยที่ 2 วัสดุปลูกชนิดต่างๆได้แก่ กาบมะพร้าวสับ สแฟกนัมมอสและขุยมะพร้าว จำนวน 6 กรรมวิธี ดังนี้ 1) กระถางพลาสติกใส : กาบมะพร้าวสับเล็ก 2) กระถางพลาสติกใส : สแฟกนัมมอส 3) กระถางพลาสติกใส : ขุยมะพร้าว 4) กระถางพลาสติกดำ : กาบมะพร้าวสับเล็ก 5) กระถางพลาสติกดำ : สแฟกนัมมอส 6) กระถางพลาสติกดำ : ขุยมะพร้าวอัตรา 1:1 ปลูกเลี้ยงในโรงเรือนพรางแสง 50 % พบว่า กล้วยไม้สกุลแวนด้าในทุกกรรมวิธีมีเปอร์เซ็นต์การมีชีวิตรอด 100 % วัสดุปลูกทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ กาบมะพร้าวสับ สแฟกนัมมอสและขุยมะพร้าว ทำให้จำนวนใบ ความสูงต้น ความกว้างใบ ความยาวใบจำนวนรากความยาวรากความหนารากจำนวนช่อดอก และจำนวนดอกแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง ส่วนชนิดของกระถางไม่มีความแตกต่างทางสถิติในทุกกรรมวิธีของการเจริญเติบโต การอารักขาพืชในกล้วยไม้ประกอบด้วย 2 การทดลองได้แก่ การใช้สารเสริมความแข็งแรงในการป้องกันกำจัดโรคที่เกิดจากแบคทีเรียของกล้วยไม้แวนด้าแอสโคเซนด้า และการใช้สารเคมีในการป้องกันโรคกล้วยไม้สกุลแวนด้าที่เกิดจากแบคทีเรียโรคใบจุดสีน้ำตาลที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Acidovorax avenae subsp. catteliyae เป็นโรคที่สำคัญของกล้วยไม้สกุลแวนด้า ซึ่งการป้องกันกำจัดโรคนี้ทำได้ค่อนข้างยากการใช้สารเสริมความแข็งแรงในการป้องกันกำจัดโรค มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบประสิทธิภาพสารที่สามารถเสริมความแข็งแรงแก่กล้วยไม้สกุลแวนด้า เพื่อป้องกันการเกิดโรคใบจุดสีน้ำตาล ดำเนินการะหว่างปี 2554 - 2556 ที่สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช วางแผนการทดลองแบบ CRD 12 กรรมวิธี 4 ซ้ำ โดยใช้สารเสริมความแข็งแรง 5 ชนิดได้แก่ ซิลิคอนออกไซด์ ไคโตซาน ปูนแดง ปูนขาว คลอรีนผง เปรียบเทียบกับน้ำนึ่งฆ่าเชื้อ พ่นก่อนและหลังการปลูกเชื้อสาเหตุโรค ผลการทดลองพบว่า การใช้สารละลายปูนแดงพ่นทุก 7 วัน ติดต่อกัน 3 ครั้งก่อนปลูกเชื้อ ทำให้กล้วยไม้แสดงอาการโรคนี้ช้ากว่ากรรมวิธีอื่น โดยสามารถยับยั้งการขยายขนาดของแผลจุดสีน้ำตาลบนใบได้ มีสารเคมีเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถป้องกันกำจัดโรคกล้วยไม้ ซึ่งสารดังกล่าวทำให้กล้วยไม้อ่อนแอและเกิดการดื้อยาได้ จึงมีการศึกษาหาสารเคมีที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งการใช้สารเคมีที่เหมาะสมในการป้องกันกำจัด โดยทำการคัดเลือกและทดสอบประสิทธิภาพสารเคมีควบคุมเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคกล้วยไม้สกุลแวนด้า ในปี 2554 พบว่าสารเคมี 4 ชนิดสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ A. avenae subsp. catteliyae สารเคมี3 ชนิดยับยั้งการเจริญของเชื้อ Burkholderia gladioli สารเคมี 3 ชนิดยับยั้งการเจริญของเชื้อ Erwiniacarotobora subsp. carotovora และ สารเคมี3ชนิดยับยั้งการเจริญของเชื้อErwinia chrysanthemi และแบคทีเรียสาเหตุโรคทุกเชื้อดื้อต่อสารเคมีทดสอบประสิทธิภาพสารเคมีควบคุมโรคที่เกิดจากแบคทีเรียทั้ง 4 ชนิดในระดับโรงเรือนปลูกพืชทดลองในปี 2555-2556 พบว่าทุกกรรมวิธีได้ขนาดแผลหลังการพ่นสารเคมีน้อยกว่ากรรมวิธีควบคุมระหว่างปี 2557-2558จัดการโรคที่เกิดจากแบคทีเรียของกล้วยไม้สกุลแวนด้าโดยการใช้สารเคมีแบบสลับในโรงเรือนปลูกพืชทดลองและแปลงเกษตรกรได้ผลการทดสอบดังนี้คือ การฉีดพ่น kasugamycin 2% W/V SL 40 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้ง สลับ streptomycin sulfate+oxytetracycline hydrochloride 19.5% WP 9 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตรพ่น 2 ครั้งในสภาพโรงเรือนทดลอง สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ A. avenae subsp. cattleyae สาเหตุโรคใบจุด โดยได้ขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 0.33 ซม. ยาว 0.44 ซม. ดีกว่าขนาดแผลของกรรมวิธีควบคุมซึ่งขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 0.78 ซม. ยาว 0.80 ซม.ส่วนในแปลงเกษตรกรขนาดแผลทุกกรรมวิธีไม่แตกต่างกับกรรมวิธีควบคุม การฉีดพ่น bordeaux mixture 77% WG 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้ง สลับกับ copper hydroxide 77% WP 15 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้งในสภาพโรงเรือนทดลองสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อB.gladioliโดยได้ขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 2.71ซม. ยาว 12.80 ซม. ดีกว่าขนาดแผลของกรรมวิธีควบคุมซึ่งขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 3.18 ซม. ยาว 15.03 ซม.ส่วนในแปลงเกษตรกร การฉีด streptomycin oxytetracycline 10 กรัมต่อน้ำ 20ลิตร penicillins 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร copper hydroxide 77% WP 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร สลับกับ captan 50%WP 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตรนั้น ได้ขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 2.13ซม.ยาว 12.27 ซม. ดีกว่าขนาดแผลของกรรมวิธีควบคุมซึ่งขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 2.02 ซม. ยาว 15.57 ซม. การฉีดพ่น streptomycin oxytetracycline 10 กรัมต่อน้ำ 20ลิตร penicillins 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร copper hydroxide 77% WP 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร สลับกับ captan 50%WP 40 กรัมต่อน้ำ 20ลิตร สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อE.carotovora subsp. carotovora สาเหตุโรคเน่าเละโดยได้ขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 0.55 ซม. ยาว 0.76 ซม. ดีกว่าขนาดแผลของกรรมวิธีควบคุมซึ่งขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 1.47 ซม. ยาว 3.01 ซม. ส่วนในแปลงเกษตรกร การฉีดพ่น kasugamycin 2% W/V SL 30 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้ง สลับ streptomycin sulfate+oxytetracycline hydrochloride 19.5% WP 6 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้งได้ขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 2.75 ซม. ยาว 13.98 ซม. ดีกว่าขนาดแผลของกรรมวิธีควบคุมซึ่งขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 3.14 ซม.ยาว 16.13 ซม. การฉีดพ่น streptomycin oxytetracycline 10 กรัมต่อน้ำ 20ลิตร penicillins 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร copper hydroxide 77% WP 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร สลับกับ captan 50%WP 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ E. chrysanthemi สาเหตุโรคเน่าเละโดยได้ขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 0.62 ซม.ยาว 1.07 ซม. ดีกว่าขนาดแผลของกรรมวิธีควบคุมซึ่งขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 0.71 ซม.ยาว 1.06 ซม. ส่วนในแปลงเกษตรกร กรรมวิธีเดียวกันนี้ได้ขนาดแผลเฉลี่ยกว้าง 2.50 ซม. ยาว 7.13 ซม. ดีกว่าขนาดแผลของกรรมวิธีควบคุมซึ่งขนาดแผลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว้าง 2.56 ซม.ยาว 10.56 ซม.
บทคัดย่อ (EN): Among potential orchids which are able to produce in Thailand, Dendrobium spp. are the first rank and Vanda spp. are the second rank. Therefore, studies on varietal improvement, production technology as well as plant protection are needed. Output from studies will be usefull for value added and increase the market expansion in future. Research and development of Vandaceous orchid for commeial purposes were carried out during 2011- 2015. The following are results of studies in various aspects. The varietal improvement of Vanda spp. was carried out during 2011-2015. Vanda coerulea and vanda denisoniana were collected from different locations and which with desired characteristics were used for breeding. Breeding program were made between selected plants in order to replace the old plants or using as genetical base for varietal improvement. The experiment was done at Chiangrai Horticulture Research Center. Twenty five crosses were done in V. coerulea and 1,095 plants were obtained. In V. coerulescens, 23 crosses were made and 1,066 hybrids were obtained. In Kanchanaburi Agricultural Research and Development Center ,17 crosses of V. coerulea were made and 510 plants were obtained. Three crosses of V. denisoniana were made in Pichit Agricultural Research and Development Center and 952 hybrids were obtained. However, all plants were not be able to evaluate characteristics, therefore, further studies need to be carried out The development of Vanda spp. Production for appropriate pots orchid was carried out at Phetchabun Highland Agricultural Research and Development Center during 2011 to 2014. The experiment was arranged as Factorial 2x3 in Completely Randomized Design with 6 replications and 2 factors. First factor is type of containers which 6 inches diameters of clear and black plastic pots. Second factors comprised of 3 different growing media which were coir, sphagnum moss and coconut dust. All treatments were grown under 50% shade house. The result showed that all treatments were 100% survived rate. However, there is no statistical difference in type of containers. The growth of Vanda spp. were significantly affected by difference 3 types of growing media (coir, sphagnum moss, coconut dust) in all characters studied including leaf number, leaf width, root number, root length, root thickness, flower inflorescence number and flower number flower blooming period. Type of pots among treatments were no significant differences in all characters of growth. Plant protection on Vanda spp. consist of 2 experiments including control of Bacterial disease by using vigor promotion substances and Chemical control of Vanda bacterial disease. Efficacy of 5 vigor promotion substances to control leaf spot disease caused by Acidovorax avenae subsp. catteliyae held in 2011 - 2012 at plant protection research and development institute. Five vigor promotion substances including silicon oxide, chitosan, red lime solution, lime and chlorine powder were tested using CRD with 4 repications and using distilled water as control treatment. The result showed that three applications of red lime solution every 7 days before inoculation revealed the disease symptom later than other treatments. The inhibition of leaf spot lesions was better than control. In 2011 efficacy of bactericides to control bacterial diseases caused by A. avenae subsp. cattliyae were examined. There were 4 chemicals could inhabit bacterial growth in laboratory. There were 3 chemicals inhibited growth of Burkholderia gladioli. It was found that 3 chemicals affected to Erwinia carotobora subsp. carotovora and 3 chemicals could inhibit Erwinia chrysanthemi. However, there was a sign of chemical resistance in every bacterial diseases. In 2012-2013, efficacy of bactericides to control bacterial diseases in greenhouse was conducted. Every chemical treatment can reduce disease severity compare to control. In 2014-2015 management of bactericides to control bacterial diseases in greenhouse was conducted. Application of kasugamycin 2%W/V SL 40cc/20L twice can control A. avenae subsp. cattliyae. The lesion size average was 0.33x0.44 cm. while lesion size from control treatment was 0.78x0.80 cm. However, in farmer’s trial there was no difference in lesion size compared between treated and control Application of Bordeaux mixture 77%WG 40g/20L 2 times followed by 2 times application of copperhydroxide 77%WP 15g/20L in greenhouse could control of B. gladioli. The lesion size of treated was 2.71x12.80cm. while lesion size of control was 3.18x15.03 cm. In field trial, using streptomycin oxytetracycline 10g/20L, penicillins 10g/20L, copper hydroxide 77%WP 20g/20L followed bycaptan 50%WP 40g/20L had 2.13x12.27cm. lesion size while control had 2.02x15.57 cm. lesion size. Application of streptomycin oxytetracycline 10g/20L, penicillins 10g/20L, copper hydroxide 77%WP 20g/20L alternatively with captan 50%WP 40g/20L could control E. carotovora subsp. carotovora. The lesion size of treated was 0.55x0.76 cm. while lesion size of control was 1.47x3.01 cm.In farmer’s field trial, using kasugamycin 2% W/V SL 30cc/20L2 times followed by application of streptomycin sulfate+oxytetracycline hydrochloride 19.5% WP 6g/20Ltwice, the lesion size was 2.75 x13.98 cm. while lesion size of control was 3.14x16.13 cm. Application of streptomycin oxytetracycline 10 g/20L, penicillins 10 g/20L, copper hydroxide 77% WP 20 g/20L alternate with application of captan 50%WP 40 g/20L could control E. chrysanthemi, causing agent of soft rot. The average of lesion size in treated was 0.62 x1.07 cm., while in control was0.71 cm. x1.06 cm.In farmer’s field trial, lesion size in treated was 2.50 cm.x7.13 cm., while in control was 2.56 x10.56 cm.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: การจัดการโรคพืช
คำสำคัญ (EN): Diseases management
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยและพัฒนากล้วยไม้สกุลแวนด้าเพื่อการค้า
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2558
โครงการการเพาะเมล็ดกล้วยไม้รองเท้านารีในสภาพปลอดเชื้อ การประยุกต์เครื่องหมายโมเลกุล SSR ที่พัฒนาจากกล้วยไม้สกุลแวนด้า ใช้กับกล้วยไม้สกุลรองเท้านารี โครงการวิจัยและพัฒนากล้วยไม้สกุลรองเท้านารีเพื่อการค้า การวิจัยและพัฒนากั้งตั๊กแตนเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การวิเคราะห์ชนิดของเม็ดสีแอนโทไซยานิน ในกล้วยไม้ป่า และกล้วยไม้ตัดดอกของไทย เพื่อการปรับปรุงพันธุ์ เทคโนโลยีการผลิตและการแปรรูปกล้วยเพื่อการค้า การพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและการผลิตกล้วยไม้สกุลม็อคคาร่า การผลิตใบตองเพื่อการค้า ตำบลคลองกระจง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โครงการวิจัยและพัฒนากล้วยไม้สกุลอื่นๆที่มีศักยภาพ โครงการวิจัยการจัดการคุณภาพกล้วยไม้สกุลหวายเพื่อการส่งออก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก